ปัญหาระบบธนาคารขัดข้อง เป็นปัญหาที่ผู้ใช้งานมักเจอกันอยู่เป็นประจำ หากขัดข้องชั่วคราวใช้เวลาไม่นานผู้ใช้บริการก็อาจจะพอรับได้ แต่ในบางสถานการณ์ล่มบ่อย ล่มนานหลายชั่วโมง ย่อมส่งผลกระทบกับลูกค้าอย่างมาก และรวมไปถึงส่งผลเสียต่อตัวธนาคารเองด้วยเช่นเดียวกัน
ข้อมูลสถิติระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขัดข้องกระทบต่อการให้บริการสำคัญของธนาคารพาณิชย์ มีการเก็บสถิติเป็นประจำ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งมีการเก็บข้อมูลจากการขัดข้องของระบบ 4 ประเภทนี้คือ
1.Mobile Banking
2.Internet Banking
3.ATM/CDM
4.สาขา
ตัวเลขล่าสุด มกราคม ถึง กันยายน 2565 พบว่า มีธนาคาร 10 แห่ง ที่มีปัญหาระบบขัดข้อง
มากที่สุดอันดับ 1 คือ ธนาคารทหารไทยธนชาติ ระบบขัดข้องรวม 26 ครั้ง /93 ชม. แบ่งเป็น
1.Mobile Banking - 18 ครั้ง 84 ชม.
2.Internet Banking - 2 ครั้ง 5 ชม.
3.ATM/CDM - 3 ครั้ง 2 ชม.
4.สาขา - 3 ครั้ง 2 ชม.
ซึ่งช่วงไตรมาสที่ 3 ธนาคารทหารไทยธนชาติเกิดปัญหาระบบขัดข้องหลายครั้ง จนเกิดการร้องเรียนจากผู้บริโภค ซึ่งแม้ธนาคารได้ดำเนินการเยียวยาด้วยมาตรการต่างๆ แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้กำชับให้ธนาคาร ttb ต้องจัดทำแผนปรับปรุงและยกระดับมาตรฐานของระบบ เพื่อให้บริการ Mobile banking ของ ttb มีความเสถียร
โดยให้คณะกรรมการธนาคารกำกับดูแลการนำแผนไปปฏิบัติและประเมินผลอย่างจริงจัง รวมทั้งรายงานผลให้ ธปท. ทราบเป็นระยะ รวมไปถึงคณะกรรมการธนาคารต้องพิจารณาความพร้อมของระบบการให้บริการ ก่อนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านดิจิทัล หรือก่อนเปลี่ยนระบบงานที่จะส่งผลต่อการให้บริการ Mobile Banking อย่างรอบคอบ ทั้งหมดก็เพื่อให้การพัฒนาระบบ และเทคโนโลยีของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยมีความก้าวหน้า ทันสมัยและเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้น
ในอนาคตที่ประเทศไทยกำลังจะมีการจัดตั้ง Virtual Bank หรือธนาคารไร้สาขาขึ้นมา ระบบหลังบ้านและเทคโนโลยสำคัญมากที่จะมาเปิดบริการนี้ในประเทศไทย ดังนั้นหนึ่งในรายละเอียดหลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยออกเกณฑ์มา คือ ความต่อเนื่องของการให้บริการที่ Virtual Bank ที่เข้าเกณฑ์ระบบขัดข้องต้องไม่เกิน 8 ชม./ปี และสามารถแก้ไขระบบขัดข้อง ภายใน 2 ชม./ครั้ง ส่วนจะมีผู้ประกอบการเจ้าไหนลงสนาม Virtual Bank บ้างคงจะได้ติดตามกันในเร็ววันนี้ แต่ทีแน่ๆ คือ ก่อนจะไปสู่ Virtual Bank ผู้ใช้งานคงอยากเห็นระบบ Bank ไม่ล่มบ่อยๆอีกต่อไป
