5 เรื่องต้องรู้ ก่อนซื้อ กองทุนลดหย่อนภาษีปี 68
เหลือเวลาอีกไม่กี่วันในการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี วันนี้ทีม BLS Mutual Fund ขอพาทุกท่านไปทำเช็กลิสต์ 5 ข้อต้องรู้ ก่อนซื้อกองภาษีส่งท้ายปี 68 ว่าจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
1. ซื้อได้แค่ 2 ประเภท: RMF และ Thai ESG เท่านั้น
ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี 68 ซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี RMF และ Thai ESG เท่านั้น เนื่องจาก Thai ESG Extra เปิดให้ลงทุนเพียง 2 เดือนเท่านั้น (ช่วง พ.ค.–มิ.ย. 68) ส่วน SSF ไม่สามารถซื้อใหม่ได้อีก มีเฉพาะรายการสับเปลี่ยน (Switching) เท่านั้น
2. ซื้อได้เท่าไหร่ต้องรู้ให้ชัด
- RMF: ลงทุนได้ ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และ ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกลุ่มการลงทุนเพื่อการเกษียณอื่น
- Thai ESG: ลงทุนได้ ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และ ไม่เกิน 300,000 บาท
หมายเหตุ: RMF และ Thai ESG เป็นคนละวงเงินลดหย่อน แยกเพดาน ไม่รวมกัน
3. ต้องแจ้งความประสงค์ในการยื่นภาษีแก่สรรพากร เมื่อซื้อกองของ บลจ. ใหม่ ที่ยังไม่เคยลงทุนมาก่อน
- ลงทุนกับ บลจ.เดิม → ไม่ต้องแจ้งความประสงค์เพิ่ม
- ลงทุนกับ บลจ.ใหม่ → ต้องแจ้งความประสงค์ก่อนใช้สิทธิ์ลดหย่อน
- นักลงทุนที่สับเปลี่ยนจาก LTF มา ThaiESG Extra → ไม่ต้องแจ้งความประสงค์เพิ่ม
4. กลยุทธ์แนะนำในการเลือกกอง
- ใช้ RMF สำหรับลงทุนต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง
- ใช้ Thai ESG สำหรับลงทุนในหุ้นไทย / ตราสารหนี้ไทย เพื่อให้ตรงตามเกณฑ์ และบริหารความผันผวน
5. ซื้อก่อนวันที่ 30 ธันวาคม 68
ต้องซื้อก่อนวันที่ 30 ธันวาคม 68 ในเวลาทำการกอง โดยกองทุนต่างประเทศมักติดวันหยุด ทำให้คำสั่งซื้ออาจไม่ทันรอบ แนะนำตรวจสอบวันที่สามารถลงทุนกองทุนนั้น ๆ ได้ให้ชัดเจน หรือหากไม่ทันจริง ๆ แนะนำเป็นเลือก กองทุนลดหย่อนภาษีประเภท Money Market ไว้ก่อนแล้วค่อย Switching ไปกองที่ต้องการภายหลัง เพื่อลดความเสี่ยงคำสั่งไม่ทันรอ
