ทองคำไทยทะลุสถิติใหม่ ขายออกบาทละ 55,950 บาท ดอกเบี้ยขาลง-สงครามหนุน
ราคาทองคำในประเทศ (96.5%) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน สอดคล้องกับราคาทองคำในตลาดโลก และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-Time High) โดยรวมทั้งวันปรับขึ้นถึง บาทละ 550 บาท จากช่วงเปิดตลาดเช้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อเวลา 16.00 น. สมาคมค้าทองคำประกาศราคาทองคำครั้งที่ 10 ของวัน โดยทองคำแท่งรับซื้อที่ 55,850 บาท และขายออกที่ 55,950 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณรับซื้อที่ 54,727.60 บาท และขายออกที่ 56,750 บาท ต่อบาททองคำ ในตลาดต่างประเทศ ราคาทองคำสปอตพุ่งแตะ 3,720 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ค่าเงินบาทซื้อขายอยู่ที่ 31.80 บาทต่อดอลลาร์
ปัจจัยหนุนและแนวโน้มตลาด
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำโลกได้แรงหนุนจากความกังวลว่า รัฐบาลสหรัฐฯ อาจชัตดาวน์บางส่วน (partial government shutdown) ปลายเดือนกันยายน เนื่องจากพรรครีพับลิกันเสนอร่างกฎหมายขยายงบประมาณไปถึง 21 พฤศจิกายน แต่ถูกพรรคเดโมแครตปฏิเสธ โดยยืนยันให้บรรจุงบประมาณด้านสาธารณสุขที่ถูกตัดออกไปกลับคืนมา การเจรจามีเส้นตายวันที่ 29–30 กันยายน
แรงซื้อทองคำยังสะท้อนจากการเข้าซื้อของ SPDR Gold Trust เพิ่มอีก 18.90 ตัน ทำให้ยอดถือครองรวมแตะ 994.56 ตัน ขณะที่ตลาดจับตาประเด็นความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังศาลฎีกาสหรัฐภายใต้การนำของประธานศาล จอห์น โรเบิร์ตส์ เรียกร้องให้นางลิซ่า คุก กรรมการเฟด ชี้แจงภายในวันที่ 25 กันยายน เกี่ยวกับกรณีที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการปลดเธออกจากตำแหน่ง
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด มองว่า ราคาทองคำโลกวันนี้พุ่งขึ้นเหนือ 3,710 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทำระดับสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง หลังจากเพิ่งปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปีเมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อรับมือกับตลาดแรงงานที่อ่อนแอ
ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ระบุว่า นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 93% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนตุลาคม และ 81% สำหรับการประชุมเดือนธันวาคม แนวโน้มดอกเบี้ยขาลงนี้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อความต้องการลงทุนในทองคำ ขณะเดียวกัน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังเพิ่มแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
ในด้านค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยดัชนีดอลลาร์ (DXY) ปรับขึ้นจาก 96.61 สู่ 97.64 หน่วย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับขึ้นจาก 4.02% เป็น 4.13% ปัจจัยเหล่านี้จำกัดการขึ้นของทองคำ และอาจทำให้ราคาทองแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 3,660 ดอลลาร์ และแนวต้าน 3,700 ดอลลาร์ หากราคาหลุด 3,650 ดอลลาร์ มีโอกาสเข้าสู่แนวโน้มขาลง
มุมมองตลาดไทยและกลยุทธ์
ราคาทองคำในประเทศยังคงขยับตามทิศทางโลก แต่ถูกกำหนดด้วยค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าในระยะสั้น นักวิเคราะห์แนะนำกลยุทธ์ ทยอยเข้าซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวใกล้แนวรับ 55,150 บาท และขายทำกำไรเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 55,550 บาท หากราคาหลุด 55,050 บาท ควรขายเพื่อตัดขาดทุน
ด้าน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ให้ความเห็นว่า เงินบาทกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบหลังจากแข็งค่าแรงก่อนหน้านี้ โดยรอปัจจัยใหม่มากระตุ้น แม้ราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น แต่ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากสัญญาณของเฟดที่ชะลอการปรับลดดอกเบี้ย ประกอบกับแรงขายสุทธิพันธบัตรไทยจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งอาจกดดันให้เงินบาทกลับมาอ่อนค่าได้อีก
นักลงทุนควรจับตาการแถลงของกรรมการเฟดหลายราย อาทิ John Williams, Alberto Musalem, Thomas Barkin, Beth Hammack และ Stephen Miran รวมถึงการประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกันยายนของสหภาพยุโรปในคืนนี้ ซึ่งอาจมีผลโดยตรงต่อทิศทางค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำในระยะถัดไป
