Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
หุ้นไทยปิดบวก 12.25 จุด รับข่าว ‘อนุทิน’ นั่งเก้าอี้นายกฯ คนที่ 32
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

หุ้นไทยปิดบวก 12.25 จุด รับข่าว ‘อนุทิน’ นั่งเก้าอี้นายกฯ คนที่ 32

5 ก.ย. 68
17:51 น.
แชร์

หุ้นไทยปิดบวก 12.25 จุด รับแรงหนุนจากข่าวสภามีมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ช่วยคลายความกังวลด้านการเมืองและเพิ่มความเชื่อมั่นต่อนโยบายเศรษฐกิจ โบรกเกอร์แนะจับตาหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค และพลังงานสะอาด

หลังจากประเทศไทยเผชิญภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองต่อเนื่องหลายเดือน ในที่สุดสถานการณ์ก็เริ่มคลี่คลาย เมื่อวันนี้ (5 กันยายน 2568) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเลือก นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศ ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุน 311 เสียง เหนือกว่าคะแนนคัดค้าน 152 เสียง และงดออกเสียงอีก 27 เสียง 

ตลาดทุนไทยตอบรับข่าวดังกล่าวเชิงบวก โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ปิดการซื้อขายภาคเย็นที่ระดับ 1,264.80 จุด เพิ่มขึ้น 12.25 จุด หรือคิดเป็น 0.98% ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 1,258.62 - 1,270.31 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมพุ่งแตะ 51,629 ล้านบาท สูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนหน้าอย่างชัดเจน สะท้อนถึงแรงซื้อที่กลับเข้ามาในตลาดท่ามกลางความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวขึ้นจากความชัดเจนทางการเมือง

บริษัทหลักทรัพย์ Innovest X ระบุว่า การเมืองที่มีทิศทางชัดเจนหลังการโหวตนายกรัฐมนตรีใหม่ ช่วยปลดล็อกปัจจัยกดดัน (Overhang) ที่ถ่วงตลาดทุนไทยมาอย่างต่อเนื่อง และสร้างความคาดหวังว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ทำให้แรงซื้อกระจายกว้างไปหลายอุตสาหกรรม ทั้งรับเหมาก่อสร้าง ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ การเงิน เกษตร วัสดุก่อสร้าง และขนส่ง

  • กลุ่มรับเหมาฯ และโครงสร้างพื้นฐาน: STECON (+13.55%), CK (+6.04%), ITD (+4.35%), STPI (+2.00%) ได้แรงซื้อจากความคาดหวังว่าการเบิกจ่ายงบฯ ที่เคยสะดุดจะเดินหน้าได้ราบรื่นขึ้นภายใต้รัฐบาลใหม่
  • ท่องเที่ยวและโรงแรม: AOT (+3.36%), CENTEL (+4.13%), ERW (+4.65%) ได้แรงบวกจากบรรยากาศการเมืองที่นิ่งขึ้น หนุนความเชื่อมั่นภาคท่องเที่ยว
  • การเงินและไฟแนนซ์: MTC (+3.70%), SAWAD (+2.73%), KTC (+2.61%), HENG (+5.45%), MICRO (+4.04%) ปรับตัวขึ้นตามความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง
  • พลังงานและปิโตรเคมี: GPSC (+2.48%), BGRIM (+4.00%) ได้แรงหนุนจากนโยบายพลังงานต่อเนื่อง ขณะที่ PTTGC (+4.72%), IVL (+2.79%), IRPC (+10.26%) และ SCC (+2.82%) ได้แรงซื้อเพิ่มจากปัจจัยภายนอก คือการที่โรงงานปิโตรฯ ในจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นทยอยลดกำลังการผลิต
  • ค้าปลีกและอาหาร: CPF (+3.21%), CPAXT (+3.13%) รับแรงหนุนจากเทศกาลสารทจีน ขณะที่ M (+5.53%) ได้แรงซื้อจากการทำโปรโมชั่นบุฟเฟต์ 299 บาทที่ขยายต่อเนื่องถึงสิ้นปี 2568
  • อื่น ๆ: OR (+4.35%) ฟื้นตัวจากค่าการตลาดน้ำมันที่ดีขึ้น / AP (+4.46%) เด่นจากผลประกอบการไตรมาส 2 ฟื้นตัว และมาตรการอสังหาฯ บวกกับดอกเบี้ยขาลง / EASTW (+12.28%) กระโดดแรงจาก Big Lot มหาศาลกว่า 331 ล้านหุ้น

ตรงกันข้าม หุ้นบางตัวปรับตัวลง เช่น BCP (-3.91%) และ BSRC (-3.03%) จากแรงกดดันในการปรับโครงสร้างบอร์ด BCP ส่วน EGCO (-3.42%) ร่วงหลังขึ้นเครื่องหมาย XD เตรียมจ่ายเงินปันผล 3.25 บาทต่อหุ้น

หุ้นรับอานิสงส์จากนโยบายรัฐบาลใหม่

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีความเห็นไปในทางเดียวกัน โดยระบุในบทวิเคราะห์ว่า ผลการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ช่วยปลดล็อกความกังวลทางการเมืองที่เป็นตัวถ่วง (overhang) ตลาดหุ้นไทยมาอย่างยาวนาน และสร้างแรงบวกเชิงจิตวิทยาที่ชัดเจนต่อนักลงทุน โดยประเมินว่า SET มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1,270 และ 1,285 จุด ซึ่งถือเป็นระดับเชิงเทคนิคที่ตลาดจับตามอง

นักวิเคราะห์ของฟิลลิปยังชี้ว่า หุ้นที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์มากที่สุดคือกลุ่ม Domestic Plays และหุ้นที่โยงโดยตรงกับนโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทย ได้แก่

  • มาตรการเงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท: หนุนหุ้นค้าปลีกและการบริโภค เช่น CPALL, CPAXT, BJC, TNP
  • โครงการ Landbridge อ่าวไทย–อันดามัน: กระตุ้นหุ้นก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน เช่น STECON, CK, UNIQ, PYLON
  • รถโดยสารไฟฟ้า: ส่งผลบวกต่อหุ้นพลังงานสะอาดและสาธารณูปโภค เช่น EA, GULF, BGRIM, GPSC
  • มาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยว: หนุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและสายการบิน เช่น MINT, CENTEL, ERW, AWC, AAV, AOT, THAI
  • มาตรการพักหนี้ 3 ปี: เอื้อประโยชน์ต่อหุ้นการเงินและธนาคาร เช่น MTC, KTC, SAWAD, SCB, KBANK
  • Contract Farming: ช่วยหนุนหุ้นเกษตรและสินเชื่อรายย่อย เช่น AEONTS, SAT, SINGER
  • Solar Cell ประจำบ้าน: กระตุ้นความต้องการพลังงานทางเลือกและเทคโนโลยี เช่น SOLAR, COM7, GUNKUL, SCGP
  • นโยบายด้านอาหารและสุขภาพ: ส่งผลบวกต่อหุ้นในอุตสาหกรรมอาหารและสุขภาพ เช่น RBF, NRF, DOD


แชร์
หุ้นไทยปิดบวก 12.25 จุด รับข่าว ‘อนุทิน’ นั่งเก้าอี้นายกฯ คนที่ 32