ขณะที่หุ้นสหรัฐร่วงแดงเกือบทั่วกระดานในวันที่ 2 กันยายน ซึ่งเป็นวันทำการแรกของเดือนกันยายน แต่หุ้น Google พุ่งแรงสวนทางตลาด หลังศาลตัดสินบทลงโทษคดีผูกขาดตลาดเสิร์ชเอนจิ้นไม่รุนแรง ไม่บังคับขาย Chrome
หุ้นบริษัท Alphabet บริษัทแม่ของ Google พุ่งถึง 8% ทำระดับสูงสุดใหม่ (new high) ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ (after hour) ของวันที่ 2 กันยายน 2025 หลังทราบคำตัดสินบทลงโทษคดีผูกขาดตลาดเสิร์ชเอนจิ้นว่าบทลงโทษไม่รุนแรง ไม่ถูกบังคับขาย Chrome โปรแกรมเว็บเบราเซอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งโปรดักต์สำคัญของบริษัท และไม่บังคับขายระบบปฏิบัติการ Android ด้วย
อามิต เมห์ทา (Amit Mehta) ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐประจำเขตโคลัมเบียตัดสินไม่ให้ Google ต้องรับบทลงโทษที่ร้ายแรงสุดตามที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯเสนอ ซึ่งรวมถึงการบังคับให้ Google ขาย Chrome ที่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ให้ข้อมูลแก่ธุรกิจโฆษณาของ Google เพื่อช่วยในการส่งโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายไปถึงผู้ใช้งานได้อย่างตรงกลุ่มมากขึ้น
คำตัดสินของศาลระบุว่า โจทก์เรียกร้องเกินกว่าเหตุที่เรียกร้องให้ศาลบังคับ Google ขายสินทรัพย์หลักของบริษัท ซึ่ง Google ไม่ได้ใช้สินทรัพย์เหล่านั้นเพื่อควบคุมตลาดอย่างผิดกฎหมายแต่อย่างใด
สำหรับบทลงโทษที่ศาลสั่ง คือ Google ยังสามารถจ่ายเงินให้พันธมิตร เช่น ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ติดตั้งหรือแสดง Google Search และ Chrome ไว้ล่วงหน้าได้ แต่ห้ามทำสัญญาแบบผูกขาด และต้องเปิดให้คู่แข่งเข้าถึงข้อมูลบางส่วน เช่น ข้อมูลดัชนีการค้นหาและการโต้ตอบของผู้ใช้ แต่ไม่ได้รวมถึงข้อมูลโฆษณา
ด้าน Google กังวลว่าคำสั่งนี้อาจกระทบต่อการใช้งานและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ก็ยินดีที่ศาลไม่ได้บังคับให้ขายสินทรัพย์หลัก ขณะเดียวกัน Apple ซึ่งได้รับเงินปีละหลายพันล้านดอลลาร์จาก Google เพื่อให้ Google เป็นแพลตฟอร์มค้นหาเริ่มต้นใน iPhone ก็ได้รับอานิสงส์จากคำตัดสินนี้ด้วย โดยหุ้น Apple บวก 4%
ทั้งนี้ คดีความดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2023 โจทก์คือกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ยื่นต่อศาลว่า Google ผูกขาดตลาดเสิร์ชเอนจิ้น และต่อมาในเดือนสิงหาคม 2024 ศาลแขวงสหรัฐ ประจำเขตโคลัมเบียตัดสินว่า Google มีความผิดฐานผูกขาดตลาดการค้นหาและโฆษณาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการละเมิดมาตรา 2 ของกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของสหรัฐ (Sherman Act) ก่อนจะมีการเปิดเผยบทลงโทษในวันที่ 2 กันยายน 2025 และผู้พิพากษาได้สั่งให้คู่กรณีเข้าพบกันภายในวันที่ 10 กันยายน เพื่อรับฟังคำตัดสินขั้นสุดท้าย
อ้างอิง: CNBC