Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
รู้จัก Customer Profiling กำหนดวงเงินโอนต่อวัน ตามพฤติกรรมลูกค้า
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

รู้จัก Customer Profiling กำหนดวงเงินโอนต่อวัน ตามพฤติกรรมลูกค้า

20 ส.ค. 68
10:08 น.
แชร์

แม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยจะออกมาตรการเข้มงวดเพื่อสกัดกั้นการทุจริตทางการเงิน ทั้งการปิดบัญชีม้า การเพิ่มระบบยืนยันตัวตน และการแจ้งเตือนธุรกรรม แต่ภัยจาก “การหลอกให้โอนเงินเอง” ยังคงสร้างความเสียหายสูงอย่างต่อเนื่อง จนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องออกมาตรการใหม่ล่าสุดเพื่อปกป้องผู้ใช้บริการและจำกัดความสูญเสียหากตกเป็นเหยื่อ

ภัยการเงินที่ยังไม่ลดโดยเฉพาะหลอกให้โอนเงินเอง

ข้อมูลจาก ธปท. ระบุว่า แม้ที่ผ่านมาจะสามารถปิดช่องโหว่เรื่อง “แอปดูดเงิน” ได้จนแทบไม่เหลือเคส แต่ปัญหาใหญ่ที่ยังอยู่คือการหลอกให้โอนเงินเอง วิธีการยอดฮิตคือ หลอกลวงให้ลงทุน , โทรข่มขู่จากคอลเซ็นเตอร์, หรือการอ้างว่าจะได้รับรางวัลพิเศษ ตัวเลขความเสียหายจากเคสเหล่านี้ยังน่าตกใจ เพียงไตรมาส 2/2566 มีมูลค่าความเสียหายเกือบ 6,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยราว 2,000 ล้านบาทต่อเดือน

  • เดือนมิถุนายน มีรายงานกว่า 24,500 เคส คิดเป็นความเสียหาย 2,800 ล้านบาท
  • ค่าเฉลี่ยต่อเหยื่อสูงถึง 114,000 บาทต่อเคส และบางรายสูญเงินมากสุดถึง 4.9 ล้านบาทต่อครั้ง
  • 50% ของเงินถูกโอนออกจากบัญชีม้าภายใน 3 นาทีแรก และเกือบ 80% ถูกโอนออกภายใน 1 ชั่วโมง ในทางตรงกันข้ามกับเหยื่ที่กว่าจะรู้ตัวและแจ้งความใช้เวลาถึง 19–25 ชั่วโมง

สิ่งที่ธปท. เน้นย้ำคือ กลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ซึ่งมีความเสียหายเฉลี่ยต่อเคสสูงสุดราว 400,000 บาท จากข้อมูลสะสมตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน และ นางอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน  ธนาคารแห่งประเทศไทย

รู้จักมาตรการใหม่: จำกัดวงเงินโอนตามพฤติกรรมลูกค้า

เพื่อจำกัดความเสียหาย ธปท. จึงออกมาตรการ “Customer Profiling” ที่กำหนดวงเงินโอนออกจากบัญชีต่อวัน ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าแต่ละคน โดยธนาคารจะต้องเป็นผู้จัดทำการประเมินพฤติกรรมของลูกค้าและกำหนดวงเงินให้เหมาะสม 

หลักการสำคัญ คือ ป้องกันบัญชีม้า ไม่ให้โอนเงินก้อนใหญ่ได้ง่าย และคุ้มครองกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ให้ความเสียหายหากถูกหลอกอยู่ในวงจำกัด

มีการแบ่งกลุ่มลูกค้าและจำกัดวงเงินโอนออกต่อวัน 

  • กลุ่มเสี่ยงสูง/บัญชีต้องสงสัยเข้าข่ายบัญชีม้า (สีแดง): วงเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน
  • ลูกค้าทั่วไป: แบ่งเป็น S: ไม่เกิน 50,000 บาท โดยหากเป็นลูกค้าใหม่: ส่วนใหญ่เริ่มต้นในกลุ่ม S (ไม่เกิน 50,000 บาท) ก่อนหากธนาคารยังไม่รู้จักพฤติกรรม M: ไม่เกิน 200,000 บาท L: มากกว่า 200,000 บาท
  • กลุ่มเปราะบาง - เด็ก (ไม่เกิน 15 ปี): หลายธนาคารอาจตั้งวงเงินต่ำกว่า 50,000 บาทได้ -ผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 65ปี)  พิจารณาตาม “กระแสใช้จ่ายจริง” มากกว่ามูลค่าทรัพย์สิน เพื่อป้องกันสูญเงินก้อนใหญ่

ทั้งนี้หากลูกค้ามีความจำเป็นต้องโอนเงินเกินกว่าวงเงินที่ตั้งไว้ เช่น จ่ายค่าเล่าเรียนหรือค่ารักษาพยาบาล สามารถขอเพิ่มวงเงินกับธนาคารได้ ซึ่งจะมีการตรวจสอบและยืนยันเพื่อป้องกันการถูกหลอก

การดำเนินการและผลกระทบต่อประชาชน

  • ลูกค้าใหม่: เริ่มใช้ภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้
  • ลูกค้าปัจจุบัน: จะทยอยบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2568 (บางธนาคารอาจเริ่มเร็วกว่า)
  • หากธนาคารปรับลดวงเงิน จะมีการแจ้งเตือนล่วงหน้า แต่ไม่ให้นานเกินไปเพื่อไม่เปิดช่องให้มิจฉาชีพ

สำหรับคนทั่วไป มาตรการนี้ถือเป็นการเพิ่ม “ค่าเริ่มต้นด้านความปลอดภัย” (Default Option) ที่ช่วยลดความเสี่ยงโดยไม่ได้กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากนัก และยังเปิดช่องทางให้ปรับเพิ่มวงเงินได้เมื่อมีเหตุจำเป็น

ทั้งนี้หากมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยก็จะมีการประเมินผลของมาตรการและพร้อมปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่อไป 

มาตรการที่ผ่านมา: ปิดบัญชีม้า แต่โจทย์ยังไม่จบ

ก่อนหน้านี้ ธปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ใช้มาตรการหลายด้านเพื่อแก้ปัญหาภัยการเงิน เช่น

  • บังคับใช้ “Share Rest” ให้ผู้ให้บริการทุกภาคส่วนตั้งแต่ธนาคาร โทรคมนาคม ไปจนถึงโซเชียลมีเดีย ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นต่ำด้านความปลอดภัย
  • ปิดช่องโหว่ Mobile Banking: ห้ามแนบลิงก์, ป้องกันการแก้ไขแอปธนาคาร, สกัดอุปกรณ์ที่ถูกเจลเบรกหรือติดมัลแวร์
  • การจัดการบัญชีม้า: เกือบ 3 ล้านบัญชี ถูกระงับ ไม่ให้เปิดใหม่หรือทำธุรกรรม
  • ระบบแจ้งเตือนเงินออกจากบัญชีทุกครั้ง

มาตรการเหล่านี้ถือว่าประสบความสำเร็จในบางด้าน เช่น เคส “แอปดูดเงิน” ลดลงเหลือศูนย์ แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาการหลอกให้โอนเงินเอง ซึ่งคิดเป็นมูลค่าความเสียหายสูงที่สุด

ดังนั้นมาตรการใหม่ของ ธปท. สะท้อนว่าภัยมิจฉาชีพทางการเงินเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แม้รัฐจะมีเครื่องมือเข้มงวดขึ้น แต่ก็ไม่อาจหยุดการหลอกลวงได้ทั้งหมด ดังนั้น นอกจากระบบของธนาคารแล้ว การมีสติของประชาชนยังคงเป็นเกราะป้องกันสำคัญที่สุด

หากตกเป็นเหยื่อ ควรรีบโทรแจ้ง สายด่วน AOC 1441 เพื่อให้ตำรวจและธนาคารตามเส้นทางการเงินได้ทันท่วงที

แชร์
รู้จัก Customer Profiling กำหนดวงเงินโอนต่อวัน ตามพฤติกรรมลูกค้า