ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.29 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.37 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเทียบกับสกุลเงินหลัก ท่ามกลางความคาดหวังของนักลงทุนที่เพิ่มน้ำหนักต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ของ Federal Reserve ในการประชุมเดือนกันยายนนี้ หลังประธาน Fed สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่ายัง “ขึ้นอยู่กับข้อมูล” ที่จะออกมา และแรงกดดันทางการเมืองที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการแทรกแซง Fed จากฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี Trump เพิ่มความเสี่ยงต่อนโยบายการเงินของสหรัฐ และส่งผลให้ดอลลาร์ถูกกดดัน
จับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในคืนนี้ ซึ่งคาดว่าเพิ่ม +0.2% MoM, Core PCE +2.9 % YoY และดัชนีรายได้และการใช้จ่ายของประชาชน (Personal Income & Personal Spending) ซึ่งสะท้อนกำลังซื้อของประชาชน หากใช้จ่ายไม่ลดแม้เงินเฟ้อสูง USD อาจแข็งค่าได้
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิหุ้นไทยเพียง 50 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 1,094 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.20/ขาย 32.50
* แนะนำ ซื้อ 37.60 /ขาย 38.10
* แนะนำ ซื้อ 0.2180 / ขาย 0.2230
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.38 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.48 บาท/ดอลลาร์
ดอลล่าร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลหลัก ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในเร็ว ๆ นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงิน ท่ามกลางความกังวลต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยปธน.ทรัมป์กล่าวถ้อยแถลงดังกล่าววานนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยประกาศอย่างชัดเจนว่าเขาจะมีเสียงข้างมากในคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และจะผลักดันนโยบายลดอัตราดอกเบี้ยตามที่เขาต้องการ การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ตลาดกังวลเป็นความเป็นอิสระของธนาคารกลาง" ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ มาอย่างยาวนาน
จับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2568 เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิหุ้นไทย 1,871 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 958 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.30/ขาย 32.60
* แนะนำ ซื้อ 37.50 /ขาย 38.00
* แนะนำ ซื้อ 0.2170 / ขาย 0.2230
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.44 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์
เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลัก โดยถูกกดดันจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศปลดนางลิซา คุก ออกจากตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด ) โดยมีผลในทันที หลังถูกกล่าวหาทำการฉ้อโกงด้วยการให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการกู้เงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 2.8% ในเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 3.8% หลังจากร่วงลง 9.3% ในเดือนมิ.ย.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ โดยดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ วานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 6,107.29 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 654 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.30/ขาย 32.60
* แนะนำ ซื้อ 37.50 /ขาย 38.00
* แนะนำ ซื้อ 0.2170 / ขาย 0.2230
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.47 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาด เมื่อวานที่ระดับ 32.45 บาท/ดอลลาร์
เงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ สวนทางกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น ขณะเดียวกันราคารทองคำในตลาดโลกมีการปรับตัวลงมา เนื่องจากมีการขายทำกำไร หลังจากที่ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นแรงเมื่อวันศุกร์ เพื่อตอบรับสัญญาณการลดดอกเบี้ยของเฟด
นักลงทุนพากันเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หลังนายพาวเวลส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 84% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย.
โดยสัปดาห์นี้ ตลาดจะไปรอลุ้นข้อมูลในช่วงวันศุกร์ ทั้งปัจจัยการเมืองในประเทศ กรณีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับสมเด็จฮุนเซน รวมถึงรอดูตัวเลข PCE ของสหรัฐฯ ในช่วงคืนวันศุกร์ ซึ่งดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
เมื่อวานนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 762 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 513 ล้านบาท
*แนะนำ ซื้อ 32.35 / ขาย 32.60
* แนะนำ ซื้อ 37.65 / ขาย 38.15
* แนะนำ ซื้อ 0.2180 / ขาย 0.2220
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb)เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.45 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ระดับ 32.65 บาท/ดอลลาร์
ค่าบาทเคลื่อนในทิศทางแข็งค่า จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก โดยนักลงทุนขานรับในเชิงบวกต่อถ้อยแถลงของ Jerome Powell ในการประชุมที่แจ็กสันโฮล ซึ่งได้ส่งสัญญาณว่า มีแนวโน้มที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยจากความสมดุลของความเสี่ยงที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป โดยชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับตลาดแรงงาน แม้ว่าความกังวลเรื่องเงินเฟ้อยังคงอยู่ก็ตาม.
แนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของเฟด ส่งผลให้ราคาหุ้นและราคาพันธบัตรพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปลายสัปดาห์ แม้ว่าจะยังเหลือรายงานการจ้างงานอีกหนึ่งฉบับก่อนการประชุมในเดือนกันยายนนี้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเฟดมีข้อมูลมากพอที่จะใช้เป็นเหตุผลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้.
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกและรายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนก.ค. ของไทย ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติและราคาทองคำในตลาดโลก ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย ดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือนก.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์.
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท คาดว่าวันนี้จะผันผวน และมีโมเมนตัมแข็งค่า ตามFund flow และราคาทองคำ โดยมีแนวรับที่ระดับ 32.30
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 768 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,700 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 32.30
* แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 37.70
* แนะนำ ทยอยซื้อ 0.2180
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ผ่านมา
สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 2,810.75 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 60 ล้านบาท
แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.45/ขาย 32.75
แนะนำ ซื้อ 37.68 /ขาย 38.08
แนะนำ ซื้อ 0.2162 / ขาย 0.2202
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.56 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดวานนี้ที่ 32.54 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐ
สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 563.31 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 1,274.87 ล้านบาท
แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.40/ขาย 32.70
แนะนำ ซื้อ 37.75 /ขาย 38.15
แนะนำ ซื้อ 0.2190 / ขาย 0.2230
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.60 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อยเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.52 บาท/ดอลลาร์
USD/THB 32.50 - 32.70
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.50 /ขาย 32.70
EUR/THB 37.80 - 38.30
* แนะนำ ซื้อ 37.80 /ขาย 38.30
JPY/THB 0.2190 - 0.2230
* แนะนำ ซื้อ 0.2190 / ขาย 0.2230
GBP/THB 43.80 - 44.20
AUD/THB 20.90 - 21.30
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้ เปิดตลาด 32.53 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.46 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐฯ ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านในเดือนสิงหาคมลดลง 1 จุด สู่ระดับ 32 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 34 ซึ่งเกิดจากผลกระทบของการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้มีตัวเลขอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.2% จากระดับ 4.1% ในเดือนมิ.ย.
จับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮลในวันที่ 21-23 ส.ค. โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกล่าวสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดในวันศุกร์ที่ 22 ส.ค. ซึ่งคาดว่าพาวเวลอาจแสดงมุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางนโยบายการเงินของเฟด โดยยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่ามาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) นอกจากนี้ ความอ่อนแอของตลาดแรงงานยังอาจเปิดทางให้เฟดดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินได้มากขึ้น
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติเมื่อวานนี้ ขายสุทธิหุ้นไทย 664.5 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 1,002 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.40/ขาย 32.80
* แนะนำ ซื้อ 37.70 /ขาย 38.20
* แนะนำ ซื้อ 0.2180 / ขาย 0.2230
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.47 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 32.43 บาท/ดอลลาร์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือน ก.ย. หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผสมผสานจากสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
นักลงทุนทั่วโลกจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 21 - 23 ส.ค. นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายของเฟดต่อไป โดยสัญญาณความอ่อนแอในตลาดแรงงานสหรัฐฯ ผนวกกับแรงกดดันเงินเฟ้อจากภาษีนำเข้า อาจสร้างความลำบากให้กับเฟดในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
การประชุมสุดยอดระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในรัฐอะแลสกา จบลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ เพื่อยุติหรือชะลอสงครามรัสเซีย-ยูเครน แม้ทั้งสองฝ่ายระบุว่าการหารือเป็นไปอย่างได้ผลดีก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ
ทั้งนี้ เซเลนสกี ผู้นำแห่งยูเครนจะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในวันจันทร์ ที่ 18 ส.ค. นี้ เพื่อพบกับทรัมป์และหารือเรื่องการยุติการรุกรานของรัสเซีย ขณะเดียวกันก็จะร่วมกับพันธมิตรยุโรปผลักดันให้เกิดการประชุมสามฝ่ายร่วมกับปูติน
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 และตัวเลขการส่งออกเดือนก.ค. ของไทย ถ้อยแถลงของประธานเฟดจากที่ประชุมสัมมนาประจำปีของเฟดที่ Jackson Hole ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติและราคาทองคำในตลาดโลก
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค . บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 29-30 ก.ค.และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ช่วงระหว่างวันที่ 13 - 15 ส.ค. 2568 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 7,764 ล้านบาทและมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 7,219 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.30/ขาย 32.60
* แนะนำ ซื้อ 37.70 /ขาย 38.20
* แนะนำ ซื้อ 0.2180 / ขาย 0.2230
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.38 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตที่สูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
เมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนกรกฎาคม ปรับตัวสูงขึ้น 0.9% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.2% ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในระดับผู้ผลิตยังคงมีอยู่ และอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ตลาดแรงงานสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่ดี หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 224,000 ราย ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 228,000 ราย ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงมีความแข็งแกร่ง
ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม เกี่ยวกับค่าเงินบาทได้แก่ ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.ค. ของจีน และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.
สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 550 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 3,908 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.30/ขาย 32.60
* แนะนำ ซื้อ 37.60 /ขาย 38.10
* แนะนำ ซื้อ 0.2180 / ขาย 0.2220
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.28 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.27 บาท/ดอลลาร์
ค่าบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยมีโมเมนตัมในทิศทางแข็งค่า จากปัจจัยที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่อเนื่องหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด และสัญญาณความอ่อนแอในตลาดแรงงาน โดยตัวเลขเหล่านี้หนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าในเดือนกันยายน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ Fed ถูกมองว่ากำลังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนตลาดแรงงานที่อ่อนแอมากกว่าอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่าเป้าหมาย
ส่วนผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวานนี้ มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.75% เหลือ 1.50% โดยมีผลทันที เนื่องจากกนง.มองว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมของมาตรการภาษีของสหรัฐฯ การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวที่รุนแรงขึ้น และความเชื่อมั่นและรายได้ของภาคครัวเรือนที่ลดลง โดยเฉพาะกลุ่ม SME และแรงงานอิสระที่เป็นกลุ่มเปราะบางหลัก
การปรับลดดอกเบี้ยเมื่อวานนี้มีผลต่อเงินบาทค่อนข้างจำกัด แม้ว่าปกติแล้วการลดดอกเบี้ยจะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าแต่ครั้งนี้มีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องหลายอย่าง โดยเฉพาะราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้นและสถานการณ์ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนแอ ทำให้นักลงทุนยังมองว่าการถือครองเงินบาทรวมถึงสกุลเอเชียค่อนข้างปลอดภัย
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท คาดว่ายังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ตามFund flow และราคาทองคำ โดยมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 32.10 บาทต่อดอลลาร์
เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 92 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 6,656 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 32.10
* แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 37.70
* แนะนำ ทยอยซื้อ 0.2180
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.41บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ 32.36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) หั่นดอกเบี้ยตามคาด โดยในการประชุมวันที่ 12 ส.ค. ธนาคารกลางออสเตรเลียได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 3.60% ซึ่งเป็นการปรับลดตามที่ตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ โดยให้เหตุผลจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง การชะลอตัวของการเติบโตของค่าจ้าง และการเติบโตของภาคการผลิต ที่ยังไม่ฟื้นตัว การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกและเป็นสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญแห่งหนึ่งของโลก
ประเด็นความน่าเชื่อถือของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ กลายเป็นจุดสนใจของตลาด หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เสนอชื่อนาย อี.เจ. แอนโทนี ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน Heritage Foundation และเป็นผู้ที่เคยวิจารณ์การทำงานของสำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) ให้เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้บริหารคนใหม่ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีการปลดผู้บริหารคนก่อนหน้าเมื่อต้นเดือน ส.ค. โดยให้เหตุผลว่ามีการบิดเบือนตัวเลขการจ้างงาน เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลในหมู่นักลงทุนและนักวิเคราะห์เกี่ยวกับความเป็นกลางและความน่าเชื่อถือของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในอนาคต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และตลาดใช้ในการตัดสินใจ
ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงกว่าการคาดการณ์ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ประจำเดือนกรกฎาคม ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ปรากฏว่าปรับตัวสูงขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.2% ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต้องพิจารณาการดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวังมากขึ้น
สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 105.8 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 440 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.25/ขาย 32.55
* แนะนำ ซื้อ 37.60 /ขาย 38.00
* แนะนำ ซื้อ 0.2175 / ขาย 0.2215
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.29 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ 32.32 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากสื่อรายงานว่า นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธานเฟดคนใหม่ โดยนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอเป็นหนึ่งท่านที่ได้ลงมติสนับสนุนให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 ก.ค. แม้ว่าเสียงส่วนใหญ่มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมดังกล่าว ซี่งสร้างความพอใจให้กับประธานาธิบดีสหรัฐเป็นอย่างมาก
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวไร้ทิศทาง ราคาทองฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นทะลุระดับ 3,450 ดอลลาร์นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้ และ มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูง 3 คนของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของตลาดแรงงาน ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยิ่งทำให้ตลาดมองความเป็นไปได้ที่ว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 226,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 219,000 ราย
ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อ คือ Fund flow ต่างชาติ และราคาทองในตลาดโลก จะมีทิศทางต่อไปอย่างไร
สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 297.85 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 1,401.56 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.15/ขาย 32.45
* แนะนำ ซื้อ 37.50 /ขาย 37.90
* แนะนำ ซื้อ 0.2175 / ขาย 0.2215
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.36 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.39 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์ยังคงเทรดอยู่ในกรอบแคบ โดยอ่อนค่าเล็กน้อย หลังสหรัฐเปิดเผยภาคบริการที่อ่อนแอ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่ราคาทองคำปิดปรับตัวลงเล็กน้อย นักลงทุนจับตาการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเสนอชื่อผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่
นักลงทุนคาดว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 2 ครั้งในปีนี้ ในเดือนต.ค. และปรับลดอีกครั้งในเดือน ธ.ค.
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ โดยคาดว่า BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00% และการประชุม MPC เรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายของบ้านเราในสัปดาห์หน้า
สถานะการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,975 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 847 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.25/ขาย 32.60
* แนะนำ ซื้อ 37.50 /ขาย 37.90
* แนะนำ ซื้อ 0.2180/ ขาย 0.2230
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.35 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.42 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีภาคบริการชะลอตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการแต่งตั้งสมาชิกคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่ แทนเอเดรียนา คูเกลอร์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 16.0% สู่ระดับ 6.02 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 6.26 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 7.17 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.โดยตัวเลขขาดดุลการค้าที่ลดลงดังกล่าวเกิดจากมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้การนำเข้าสินค้าเพื่อผู้บริโภคลดลงอย่างมาก และเป็นปัจจัยหนุนให้เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 3.0% ในไตรมาส 2/2568 หลังจากหดตัวลง 0.5% ในไตรมาส 1/2568 และเปิดเผยดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 50.1 ในเดือนก.ค. จากระดับ 50.8 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 51.5
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.4% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย. นี้
จับตาตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.และวันพฤหัส จะมีการรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการของทาง CNBC เปิดเผยว่า เขาได้ลดจำนวนรายชื่อผู้ที่อาจได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ เหลือเพียง 4 คน แม้ปธน.ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อบุคคลทั้ง 4 ที่อาจเป็นว่าที่ประธานเฟด แต่เขากล่าวว่า นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด และนายเควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ต่างก็มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับตำแหน่งดังกล่าว
สถานะการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 2,059 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 641 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.20/ขาย 32.50
* แนะนำ ซื้อ 37.20 /ขาย 37.70
* แนะนำ ซื้อ 0.2180/ ขาย 0.2240
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.31 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.46 บาท/ดอลลาร์
เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก จากที่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 3 ครั้งที่เหลือในปีนี้
โดยล่าสุดกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาดในเดือนก.ค. และได้ปรับลดการประเมินตัวเลขจ้างงานทั้งในเดือนพ.ค.และเดือนมิ.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
นักลงทุนทั่วโลกจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในเดือนนี้ โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ที่ 22 ส.ค. เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย เพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงิน และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 2,609.46 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 447 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.20/ขาย 32.50
* แนะนำ ซื้อ 37.20 /ขาย 37.70
* แนะนำ ซื้อ 0.2170 / ขาย 0.2230
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.45 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 32.87 บาท/ดอลลาร์
เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังจากข้อมูลจ้างงานของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าที่คาด โดยตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 110,000 ตำแหน่ง ขณะเดียวกันอัตราว่างงานก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 4.2% จากที่คาดไว้ 4.1% นอกจากนี้ตัวเลขการจ้างงานของเดือนก่อนหน้าก็ได้ถูกปรับลดลงอย่างมาก ทำให้นักลงทุนกลับมาเพิ่มการคาดการณ์อีกครั้งว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยสองครั้งภายในปีนี้โดยเริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย.
นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์ยังคงถูกกดดัน หลังเฟดประกาศว่า อาเดรียนา คุกเลอร์ ผู้ว่าการเฟด จะลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 8 ส.ค.นี้ ซึ่งการลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ จะเป็นการเปิดทางให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่งตั้งบุคคลใหม่เข้าสู่คณะกรรมการเฟดได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเชื่อกันว่าผู้ที่ได้รับเลือกจะมีแนวคิดที่สอดคล้องกับทรัมป์ในเรื่องการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
สำหรับสัปดาห์นี้ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ค. ของไทย Fund Flow ของต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก และสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย. ดัชนี PMI/ISM ภาคบริการเดือนก.ค. และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
เมื่อวันศุกร์นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 2,205 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,899 ล้านบาท
*แนะนำ ซื้อ 32.35 / ขาย 32.65
* แนะนำ ซื้อ 37.35 / ขาย 37.85
* แนะนำ ซื้อ 0.2185 / ขาย 0.2225
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.78 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.69 บาท/ดอลลาร์ จากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลหลัก อีกทั้งได้แรงหนุนจากการที่ไทยได้ข้อสรุปเรื่องภาษีการค้ากับสหรัฐ โดยล่าสุดสหรัฐเก็บภาษีแบบต่างตอบโต้ (Reciprocal Tariff) กับไทยในอัตรา 19 % โดยเป็นระดับเดียวกันกับกัมพูชาและมาเลเซีย.
ค่าเงินบาทถูกกดดันในทิศทางอ่อนค่าเช่นเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค จากการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และการปรับตัวลดลงต่อเนื่องของราคาทองคำ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด โดยยอด ผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานออกมา 218,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
อีกทั้ง Core PCE ก็ออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้โดยเพิ่มขึ้น 2.8% ประกอบกับการที่ประธานเฟดยังคงย้ำจุดยืนไม่เร่งรีบปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อรอประเมินผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ให้รอบด้าน และไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดพร้อมจะกลับมาลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนก.ย. ตามที่ตลาดได้คาดหวังทำให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว.
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท คาดว่ายังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง ตามFund flow และราคาทองคำ อีกทั้งต้องจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในคืนนี้
เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 229 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 558 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยขายที่ระดับ 32.85
* แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 37.20
* แนะนำ ทยอยซื้อ 0.2160