จากดราม่า อินโฟกราฟิกเกณฑ์การจองตั๋วล่วงหน้า ของ การรถไฟแห่งประเทศไทย ทำให้เกิดกระแสคอมเมนต์กันสนั่นโลกโซเชียลจนทาง การรถไฟจำเป็นต้องลบอินโฟกราฟิก ก่อนออกมาชี้แจง ยืนยันของจริงไม่ซับซ้อน ยุ่งยาก อย่างที่หลายๆคนคิด ดังนั้นวันนี้ทาง Spotlight จะมาอธิบาย สมการการจองตั๋วล่วงหน้า จากการรถไฟแห่งประเทศไทย แบบเข้าใจง่ายไปดูรายละเอียดกันเลย
วิธีจองตั๋วรถไฟล่วงหน้า แบบใหม่ คำนวณตามระยะทาง ต้องทำอย่างไร
สืบเนื่องจากนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการในทุกๆ ด้าน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางสูงสุดแก่พี่น้องประชาชน การรถไฟฯ จึงได้น้อมรับนโยบายนำมาพัฒนาการให้บริการ โดยล่าสุดได้ขยายเวลาเปิดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าจากเดิม 30 วัน เพิ่มสูงสุดเป็น 90 วัน การขยายเวลาจองตั๋วล่วงหน้าครั้งนี้ เป็นการเริ่มนำร่องขบวนรถชุด 115 คัน จำนวน 8 ขบวน เฉพาะขบวนรถด่วนพิเศษ CNR และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป
เกณฑ์การจองตั๋วล่วงหน้า ที่หลายคนสับสน
-
ผู้โดยสารที่เดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ จะจองตั๋วล่วงหน้าได้แค่ 1 วัน
(ร้อยละ 25 อธิบายแบบง่ายๆ คือ ท่านเดินทางแค่ 25% ของระยะทางจากขบวนรถไฟ) -
ผู้โดยสารที่เดินทางตั้งแต่ร้อยละ 25 ของระยะทางแต่ไม่ถึงร้อยละ 60 ของระยะทางขบวนรถ สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 30 วัน
-
ผู้โดยสารที่เดินทางร้อยละ 60 ของระยะทางขบวนรถขึ้นไป สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน
ตัวอย่างการจองตั๋วล่วงหน้า แบบไหนจองล่วงหน้าได้ 90 วัน?
เกณฑ์จองตั๋วล่วงหน้า 1 วัน
- กรณีจะเดินทางไป ลพบุรี ด้วยขบวนรถไฟสายเหนือซึ่งเส้นทางนี้เริ่มที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ถึง สถานีเชียงใหม่ แต่เมื่อคุณไปแค่ลพบุรี คุณสามารถจองล่วงหน้าได้แค่ 1 วัน ไม่สามารถจอง 30-90 วันได้ เพราะระยะการเดินทางไปที่ ลพบุรีเป็นแค่ 25% ของระยะทางทั้งหมดที่รถไฟสายนี้วิ่งผ่านนั่นเอง
เกณฑ์จองตั๋วล่วงหน้า 30 วัน
- กรณีจะเดินทางไป นครราชสีมา ด้วยขบวนรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นอุบนราชธานี ซึ่งเริ่มจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ถึง สถานีอุบลราชธานี คุณสามารถจองล่วงหน้าได้ 30 วัน เพราะ นครราชสีมา เป็นระยะการเดินเกิน 25% แต่ไม่ถึง 60% ของระยะทางทั้งหมดที่รถไฟสายนี้วิ่งผ่าน
เกณฑ์จองตั๋วล่วงหน้า 90 วัน
- กรณีจะเดินทางไป พัทลุง ด้วยขบวนรถไฟสายใต้ ที่เริ่มจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ถึงสถานีหาดใหญ่ กรณีนี้คุณสามารถจองล่วงหน้าได้ 90 วัน เพราะพัทลุงเป็น 90% ของระยะทางทั้งหมดที่รถไฟสายนี้วิ่งผ่าน
ตัวอย่างด้านบนทั้งหมดนี้ คือ เกณฑ์การจองตั๋วล่วงหน้าที่เริ่มใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งผู้อ่านก็ไม่ต้องกังวลว่า เวลาเราจองตั๋วจะเป็นต้องคำนวณ % ปลายทางที่เราเดินไปหรือไม่ เพราะหากท่านจองผ่านระบบออนไลน์ ระบบก็จะทำการคำนวณรายละเอียดการจองให้ทันทีว่าสามารถจองได้ล่วงหน้าสูงสุดได้กี่วัน ส่วนการจองผ่านเคาน์เตอร์สถานีรถไฟ ก็เช่นเดียวกัน ท่านเพียงแจ้งที่สถานีต้นทาง-ปลายทาง เพียงเท่านี้ เจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วก็จะแจ้งรายละเอียดให้ทราบเช่นกัน ไม่ต้องพกเครื่องคิดเลขไปให้ปวดหัวนะ
ช่องทางการจองซื้อตั๋ว 3 ช่องทาง ได้แก่
- D-Ticket : https://www.dticket.railway.co.th
- ช่องจำหน่ายตั๋ว ทุกสถานีรถไฟ ทั่วประเทศ
- Call Center การรถไฟแห่งประเทศไทย : 1690
ท่านผู้โดยสาร สามารถตรวจสอบ ตำแหน่ง สถานะ และวันเวลาประมาณในการถึงจุดหมายปลายทาง ได้จาก ระบบ TTS (Train Tracking System)
ขบวนไหนบ้าง ที่เริ่มเกณฑ์การจองตั๋วล่วงหน้าแบบใหม่
สำหรับเส้นทางที่ การรถไฟ เลือกนั้นได้รับความนิยมสูงสุดทั้งสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ ดังนี้
สายใต้ 2 ขบวน
- ขาไป : ขบวนด่วนพิเศษที่ 31 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - สถานีหาดใหญ่
- ขากลับ : ขบวนด่วนพิเศษที่ 32 สถานีหาดใหญ่ - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
สายเหนือ 2 ขบวน
- ขาไป : ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีเชียงใหม่
- ขากลับ : ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 10 สถานีเชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
สายตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นอุบนราชธานี 2 ขบวน
- ขาไป : ขบวนด่วนพิเศษที่ 23 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีอุบลราชธานี
- ขากลับ : ขบวนด่วนพิเศษที่ 24 สถานีอุบลราชธานี – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
สายตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นหนองคาย 2 ขบวน
- ขาไป : ขบวนด่วนพิเศษที่ 25 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีหนองคาย
- ขากลับ : ขบวนด่วนพิเศษที่ 26 สถานีหนองคาย – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
โดยการรถไฟจะเริ่มนำร่อง จำนวน 8 ขบวน ขบวนรถชุด 115 คัน จำนวน 115 คัน แยกประเภท ดังนี้
- รถไฟฟ้ากำลัง จำนวน 9 คัน
- รถนอนปรับอากาศชั้น 2 จำนวน 79 คัน
- รถนอนปรับอากาศชั้น 2 สำหรับผู้พิการ จำนวน 9 คัน
- รถนอนปรับอากาศชั้น 1 จำนวน 9 คัน
- รถเสบียงปรับอากาศ จำนวน 9 คัน
การรถไฟ ย้ำขั้นตอนการจองตั๋วง่าย เพียงแจ้งต้นทาง-ปลายทาง
การรถไฟแห่งประเทศไทย ขอยืนยันอีกครั้งว่าขั้นตอนการจองตั๋วรถไฟนั้นไม่ยุ่งยาก ผู้โดยสารเพียงแจ้งสถานีต้นทางและสถานีปลายทางที่ต้องการเดินทาง ก็จะสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ทันที ไม่ว่าจะจองผ่านระบบออนไลน์ D-Ticket หรือเคาน์เตอร์สถานีรถไฟทั่วประเทศ
เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยได้พัฒนาระบบการจองตั๋วรถไฟให้มีความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟ โดยจะไม่สร้างความลำบากแก่ผู้ใช้บริการแต่อย่างใด หรือหากผู้โดยสาร ต้องการสอบถามข้อมูลล่วงหน้าเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง