รัฐบาลจีนเร่งออกมาตรการเพิ่มงานให้เด็กจบใหม่ที่จ่อเข้าระบบอีก 11.5 ล้านคนในปีนี้ หลังพบอัตราการว่างงานในหมูคนอายุ 16-24 ปี สูงถึง 19.6% ในเดือนมีนาคม จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่ทันรับแรงงาน ทำให้ธุรกิจรัดเข็มขัดลดต้นทุน
โดยจากการรายงานของ SCMP รัฐบาลจีนจะพยายามเพิ่มตำแหน่งงานในหน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจเพื่อเพิ่มตำแหน่งงานให้เด็กจบใหม่ นอกจากนี้ยังจะรวบรวมรายชื่อบริษัทที่กำลังสนใจรับพนักงานเข้าทำงาน พร้อมอัดฉีดเงินสนับสนุนให้ภาคเอกชนรับพนักงานอายุน้อยเข้าไปทำงานมากขึ้น และสร้างตำแหน่งงานในชนชทและพื้นที่ห่างไกลเพื่อกระจายความเจริญ
โดยจากรายงาน ในขณะนี้รัฐบาลกำลังกระตุ้นให้หน่วยงานรัฐและหน่วยงานที่ดำเนินงานโดยรัฐต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน โรงพยาบาล รับพนักงานอายุน้อยเข้าไปทำงานมากขึ้นอยู่
ทำไมจีนจึงประสบปัญหาการจ้างงาน?
จากการแถลงของ Yu Jiadong รัฐมนตรีด้านแรงงานของจีน ในขณะนี้เด็กจบใหม่กำลังมีปัญหาในการหางานเพราะเศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวจากภาวะโควิดได้ไม่ดีนัก ทำให้หลายๆ บริษัทไม่อยากจ้างพนักงานเพิ่ม เพระาอยากควบคุมต้นทุนไม่ให้สูงขึ้นในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจยังไม่มั่นคง โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลางขนาดเล็กที่เป็นผู้ว่าจ้างพนักงานที่อยู่ในเมืองถึง 80%
โดยในการประชุมผู้นำของจีนในวันศุกร์ที่ผ่านมา เหล่าผู้นำกล่าวว่า ถึงแม้จีนจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 4.5% ซึ่งดีกว่าคาดในไตรมาสแรก การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีนยังมีปัญหาเพราะยังไม่มีธุรกิจภายในที่สามารถขับเคลื่อนดึงเศรษฐกิจขึ้นมาจากภาวะซบเซาได้ อีกทั้งคนจีนยังไม่กล้าใช้จ่าย ไม่ใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
จากการรายงานของ CNN ในขณะนี้จีนกำลังปัญหา ‘เงินไม่เฟ้อ’ อย่างที่ควร เพราะราคาสินค้าหรือ consumer prices ของจีนเพิ่มขึ้นเพียง 0.7% ในเดือนมีนาคมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับเขตเศรษฐกิจอื่นๆ ในโลก เช่น สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปที่ยังมีเงินเฟ้อ 5% และ 8.3% ตามลำดับ สะท้อนว่าคนจีนยังไม่ออกมาใช้เงินเท่าที่ควร และหันไปเก็บเงินกันมากกว่า ในขณะที่ภาคเอกชนก็ไม่ยอมออกเงินเพื่อลงทุนขยายธุรกิจ
นอกจากนี้ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่สำคัญของจีนยังคงไม่ฟื้นตัว เพราะได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังย่ำแย่ในภาพรวม ทำให้มีคำสั่งผลิตเข้ามาในประเทศน้อยลง ซึ่งกระทบต่ออัตราการจ้างงานภายในประเทศเป็นอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจีนจึงต้องหาทางเพิ่มรายได้ให้คนในประเทศ สร้างการจ้างงาน และสนับสนุนให้คนบริโภคกันมากขึ้น รวมไปถึงสนับสนุนให้เด็กจบใหม่มีงานทำ และกลายมาเป็นผู้บริโภคอีกกลุ่มหนึ่ง
โดยบอกจากมีแผนจะกระตุ้นการจ้างงานแล้ว จีนยังวางแผนที่จะลงทุนสนับสนุนธุรกิจด้านเทคโนโลยีและพลังงานสะอาดมากขึ้น รวมไปถึงธุรกิจพัฒนา AI หรือปัญญาประดิษฐ์ซึ่งเป็นธุรกิจที่บริษัทเทคโนโลยีทุกแห่งในโลกกำลังแข่งกันแย่งส่วนแบ่งตลาดด้วย