Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
อัปเดต 'คนละครึ่ง 68' สรุปได้เมื่อไหร่? สมัครอย่างไร? ใครมีสิทธิ์บ้าง?
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

อัปเดต 'คนละครึ่ง 68' สรุปได้เมื่อไหร่? สมัครอย่างไร? ใครมีสิทธิ์บ้าง?

15 ก.ย. 68
11:56 น.
แชร์

รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและนายกรัฐมนตรีคนใหม่ กำลังเตรียมนำโครงการ “คนละครึ่ง” กลับมาเดินหน้าอีกครั้ง โดยใช้งบประมาณตั้งต้น 25,000 ล้านบาท จากวงเงินเหลือของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลชุดก่อน การเดินหน้าครั้งนี้ไม่ใช่เพียงมาตรการอัดฉีดกำลังซื้อในระยะสั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณเชิงการเมืองว่ารัฐบาลพร้อมทำงานทันที และให้ความสำคัญกับปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นอันดับแรก

การฟื้นโครงการยังสะท้อนถึง “กลยุทธ์เร่งผลงาน” เพื่อบรรลุ 'quick wins' ของรัฐบาลอนุทินในช่วงเวลาเพียง 4 เดือนแรก ก่อนเข้าสู่ปีงบประมาณใหม่และการประเมินผลงานทางการเมือง โครงการที่ประชาชนคุ้นเคยและประสบความสำเร็จมาแล้วในอดีต จึงถูกเลือกเป็นมาตรการนำร่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทั้งในเชิงเศรษฐกิจและการเมือง โดยไม่ต้องรอการจัดสรรงบใหม่ สามารถขับเคลื่อนได้ทันที

‘คนละครึ่ง 2568’ จะเริ่มใช้เมื่อไหร่? งบประมาณเท่าไร?

สำหรับโครงการ “คนละครึ่ง 2568” มีแนวโน้มจะเริ่มใช้ได้เร็วสุดเดือนตุลาคม 2568 โดยปัจจัยสำคัญคือความเร็วในการแถลงนโยบายและการเข้าปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ หาก ครม. สามารถเข้าทำงานก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2568 (30 กันยายน) จะสามารถใช้งบได้ทันที แต่หากล่าช้าจะต้องไปใช้งบประมาณปี 2569

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ประชาชนจะได้ใช้สิทธิไม่เกินสองสัปดาห์หลัง ครม. เริ่มทำงาน ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังยืนยันว่ามีวงเงินพร้อมรองรับแล้วราว 25,000 ล้านบาท โดยใช้จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เตรียมไว้ สามารถนำมาใช้ได้ทันทีเมื่อมีมติอนุมัติจากรัฐบาลชุดใหม่

หากโครงการเริ่มเดือนตุลาคม 2568 จะใช้งบประมาณปี 2569 ในหมวดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 25,000 ล้านบาท เบื้องต้นกำหนดกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทั้งประชาชนทั่วไปและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะได้รับสิทธิร่วมจ่ายในอัตรา 50:50 ส่วนกลุ่มผู้มีรายได้อยู่ในระบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประมาณ 11 ล้านคน จะได้รับสิทธิในรูปแบบรัฐช่วย 60% และประชาชนจ่ายเอง 40% เพื่อให้ความช่วยเหลือสอดคล้องกับฐานะทางการเงินของแต่ละกลุ่ม

หากความต้องการเกินกว่าวงเงินที่กำหนดไว้ หรือมีความจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วม รัฐบาลอาจพิจารณาใช้งบกลางเพิ่มเติมจากรายการอื่นมาสนับสนุน โดยมีการประเมินว่า นายกรัฐมนตรีเองก็มีแนวโน้มจะผลักดันให้ขยายวงเงินเกินกว่า 25,000 ล้านบาท หากงบประมาณเอื้ออำนวย

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ย้ำว่า แม้มาตรการนี้ใช้งบจำนวนมาก แต่รัฐบาลจำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญอย่างชัดเจน เพื่อให้การใช้เงินก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งต่อการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ตลอดจนการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าและการบริโภค ขณะที่ทีมเศรษฐกิจยังเร่งพิจารณารายละเอียดเชิงปฏิบัติ เช่น ระบบลงทะเบียน เงื่อนไขการใช้สิทธิ และมาตรการกำกับดูแลการใช้จ่าย เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าได้ทันทีหลัง ครม. เข้าทำงาน

ใครได้สิทธิ ‘คนละครึ่ง 2568’ บ้างในโครงสร้างสิทธิใหม่ 60:40 และ 50:50?

โครงการคนละครึ่งรอบใหม่ถูกออกแบบให้มีความแตกต่างจากเฟสที่ผ่านมา โดยเพิ่มมิติด้านภาษีเข้ามาเป็นส่วนสำคัญ 

  • กลุ่มผู้ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งมีอยู่ราว 11 ล้านคน จะได้รับสิทธิพิเศษในอัตรา 60:40 คือรัฐช่วยจ่าย 60% และประชาชนจ่ายเอง 40% 
  • ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะยังคงได้รับสิทธิ 50:50 ตามรูปแบบดั้งเดิม

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง อธิบายว่า การเพิ่มสิทธิในรูปแบบ 60:40 เป็น “กิมมิกใหม่” ของโครงการ ที่มุ่งสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น ถือเป็นการให้ “รางวัล” แก่ผู้ที่อยู่ในระบบ พร้อมทั้งยังช่วยสร้างฐานข้อมูลผู้เสียภาษีที่ชัดเจนและกว้างขวางขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดเก็บรายได้รัฐในอนาคต

นอกจากนี้ โครงการรอบใหม่นี้ยังขยายสิทธิไปถึงผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ก่อนหน้านี้ในสมัยรัฐบาลประยุทธ์ไม่ได้รับสิทธิ์ ทำให้กลุ่มเปราะบางซึ่งมีจำนวนหลายล้านคนสามารถเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือได้โดยตรง เป็นการยืนยันเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ต้องการให้โครงการครอบคลุมทุกกลุ่มประชาชน

ปัจจุบัน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีประมาณ 13.5 ล้านราย ที่ผ่านการลงทะเบียนและตรวจสอบคุณสมบัติแล้วทำให้โครงการนี้ครอบคลุมประชากรกลุ่มใหญ่ ทั้งผู้เสียภาษี ผู้มีรายได้ปานกลาง และผู้มีรายได้น้อย โดยคุณสมบัติหลักของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้แก่

  • สัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป
  • รายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี หรือครอบครัวเฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
  • ทรัพย์สินทางการเงิน (เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้) ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
  • ไม่มีบัตรเครดิต
  • ไม่มีหนี้บ้านเกิน 1.5 ล้านบาท และไม่มีหนี้รถเกิน 1 ล้านบาท
  • ไม่มีกรรมสิทธิ์เกินเกณฑ์ เช่น ห้องชุดเกิน 35 ตร.ม. บ้านเกิน 25 ตร.ว. หรือที่ดินเกษตรเกิน 10 ไร่
  • ไม่เป็นพระภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง ผู้พำนักในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ ผู้รับบำนาญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

เกณฑ์การใช้งาน ‘คนละครึ่ง 2568’ ใหม่ 

ในด้านหลักเกณฑ์การใช้งาน นายลวรณย้ำว่าจะยังคงคล้ายกับโครงการเดิมราว 80-90% เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสน ระบบการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ยังคงเป็นช่องทางหลักเหมือนที่ผ่านมา ร้านค้าที่เคยเข้าร่วมโครงการก็จะสามารถเข้าร่วมได้ต่อเนื่อง และยังมีการพิจารณาเปิดให้ร้านค้าใหม่เข้ามาลงทะเบียนเพิ่มเติม

แม้รายละเอียดปลีกย่อยจะยังอยู่ระหว่างการออกแบบ แต่หลักการสำคัญของโครงการคือการรักษาความต่อเนื่องจากเฟสก่อน ควบคู่กับการสร้างแรงจูงใจใหม่สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบภาษี และการขยายสิทธิให้ครอบคลุมกลุ่มผู้มีรายได้น้อยมากขึ้น เพื่อให้มาตรการนี้ตอบโจทย์ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจและการดูแลสวัสดิการสังคมไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ หากอ้างอิงจากโครงการในอดีต มาตรการจะเป็นดังนี้

เกณฑ์การใช้สิทธิคนละครึ่ง

  • วงเงินไม่เกิน 3,000 บาท
  • ได้รับสิทธิคนละครึ่ง 150 บาท/วัน ทุก 06.00 น.
  • เติมเงินเข้า G-Wallet และใช้จ่ายในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
  • เข้า แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และ กดสแกน QR ร้านค้าถุงเงิน
  • กดยืนยันการชำระทุกครั้ง จึงจะสิ้นสุดการชำระเงิน

คุณสมบัติผู้ที่ลงทะเบียน

  • อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  • สัญชาติไทย
  • ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ปัจจุบัน คนละครึ่ง 2568 รวมเข้าไปแล้ว)

วิธีการลงทะเบียนใช้สิทธิ

  • ลงทะเบียนที่ https://www.คนละครึ่ง.com (ปัจจุบันโดเมนเว็บไซต์ยังเข้าไม่ได้ รอการแก้ไข)
  • จะได้รับ sms แจ้งผลการลงทะเบียนสำเร็จภายใน 3 วัน
  • ดาวน์โหลด + ติดตั้ง และยืนยันตัวตนบน แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งเป็น App หลักในการใช้จ่าย รองรับทั้ง iOS และ Android
  • ดาวน์โหลดและยืนยันตัวตนในแอป “เป๋าตัง” เพื่อเริ่มใช้สิทธิ

ร้านค้าที่เข้าร่วมคนละครึ่งได้

  • เงื่อนไขร้านค้ามุ่งไปที่ผู้ประกอบการรายย่อย เช่นร้านอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และบริการ เช่น นวด สปา ทำผมทำเล็บ หรือขนส่งสาธารณะบางประเภท
  • ห้ามเป็นนิติบุคคล (ยกเว้นบางกลุ่มที่รัฐกำหนด เช่น ร้านธงฟ้า กองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน)
  • ร้านสะดวกซื้อแฟรนไชส์ไม่สามารถเข้าร่วมได้

ช่องทางลงทะเบียนร้านค้าคนละครึ่ง

  • บุคคลธรรมดา: ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com เวลา 06.00-22.00 น.
  • ร้านธงฟ้า กองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน และบริการขนส่งสาธารณะ: ลงทะเบียนที่ธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศในเวลาทำการ
แชร์
อัปเดต 'คนละครึ่ง 68' สรุปได้เมื่อไหร่? สมัครอย่างไร? ใครมีสิทธิ์บ้าง?