นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดี กรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 อนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2565 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ไขเยียวยาความเดือนร้อนเสียหายในบางกรณี การจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ จำนวน 10.94 ล้านคน วงเงิน 8,382.20 ล้านบาท เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ 100 - 250 บาท/คน/เดือน เป็นเวลา 6 เดือน (เมษายน - กันยายน 2565) กรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าว เพื่อโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารให้แก่ผู้มีสิทธิรับเงินโดยตรงแทนกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
โดยจะจ่ายเงินรอบแรกในวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 รวม 4 เดือน (เมษายน - กรกฎาคม 2565) รอบถัดไป ในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 และ 19 กันยายน 2565 ตามลำดับ ซึ่งผู้มีสิทธิที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ
ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ" โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลเตรียมโอนเงินโครงการจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ จำนวนทั้งสิ้น 10.95 ล้านคน โดยครั้งนี้ เพิ่มจำนวนเงินอีก 100-250 บาท ตามช่วงอายุ ตลอดระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เมษายน – กันยายน 2565 ดังนี้
วันที่ 19 กรกฎาคม 2565
สำหรับเงินงวดแรกโอนในวันที่ 19 กรกฏาคม 2565 จะเป็นการจ่ายย้อนหลัง 4 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน-กรกฏาคม 2565 โดยยอดเงินโอนรวมของแต่ละช่วงอายุ มีดังนี้
วันที่ 19 สิงหาคม 2565
วันที่ 19 กันยายน 2565
สำหรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ต้องได้รับทุกเดือน เดือนละ 600-1,000 บาท ยังคงได้รับตามปกติ โดยหากนำมารวมกับเงินเบี้ยยังชีพพิเศษรอบแรก (19 ก.ค.) จะได้รับเงินตามช่วงอายุทั้งสิ้น ดังนี้