และนอกจากภาคเทคโนโลยีแล้ว ชาวอินเดียหลายคนยังผงาดขึ้นแท่นซีอีโอในอีกหลายอุตสาหกรรมด้วย เช่น อินทรา นูยี (Indra Nooyi) ซีอีโอหญิงแห่ง PepsiCo และ อาเจย์ บังกา (Ajay Banga) แห่ง Mastercard
วิเวก วัธวา อาจารย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และผู้เขียนหนังสือชีวประวัติของซีอีโอไมโครซอฟต์ เปิดเผยกับบลูมเบิร์ก ว่า การเป็นชาวอินเดียถือเป็นข้อได้เปรียบใหญ่ในวันนี้ เพราะทุกคนจะเชื่อว่าเราเป็นวิศวกรที่เก่งและเป็นผู้จัดการที่ยอดเยี่ยม และเขามองว่าซีอีโอคนใหม่ของทวิตเตอร์ มีลักษณะการการให้คุณค่าและสไตล์การบริหารจัดการที่คล้ายกับ สัตยา นาเดลลา แห่งไมโครซอฟต์
CNN เคยระบุถึงการขึ้นมาของเหล่าซีอีโอสัญาชาติอินเดียเอาไว้ว่า นอกจากความเก่งส่วนบุคคลแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น รูปแบบของบริษัทที่มีความเป็นโลกาภิวัฒน์ไร้พรมแดนมากขึ้นของคนทำงานจากหลายเชื้อชาติ การดิสรัปต์ของเทคโนโลยี และลักษณะความเป็นผู้นำของแต่ละบุคคล โดยซีเอ็นเอ็นสรุปสาเหตุที่บริษัทอเมริกันเปิดรับซีอีโออินเดีย เอาไว้ 7 ข้อด้วยกัน ได้แก่
1. การยอมรับการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอน
2. คาดการณ์เก่ง มองการณ์ไกล
3. เก่งกาจในด้านตัวเลข
4. การศึกษา โดยเฉพาะในด้าน STEM
5. ทำงานเป็นครอบครัว
6. มีความหลากหลาย
7. ของจริง และปรับตัวเก่ง
8. เวลามีค่าเสมอ
9. ให้คุณค่ากับคุณธรรม
เปิดโฉม 5 ซีอีโอ "อินเดีย" แห่งยักษ์เทคโนโลยีสหรัฐ
ปารัก อักราวัล วัย 37 ปี ได้รับแต่งตั้งขึ้นเป็นซีอีโอคนใหม่ของทวิตเตอร์แทนแจ็ค ดอร์ซีย์ เมื่อวันที่ 29 พ.ย. โดยเกิดและเติบโตที่เมืองมุมไบ เป็นเด็กเหรียญทองฟิสิกส์โอลิมปิกวิชาการ จบปริญญาตรีด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ในมุมไบ ก่อนจะไปศึกษาต่อจนจบปริญญาเอกที่ Stanford สหรัฐ
อักราวัลทำงานเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์กับค่ายนกสีฟ้ามาตั้งแต่ปี 2011 ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ในปี 2017 โดยเป็นเสมือนมือขวาของดอร์ซีย์ เป็นหนึ่งในวิศวกรคนสำคัญของบริษัท และเคยทำงานแก้ปัญหาด้านความปลอดภัยของรหัสผ่าน มีความโดดเด่นในด้านระบบแมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) และยังเป็นหัวเรือใหญ่ของโปรเจกต์ที่มีชื่อว่า Bluesky ที่ทวิตเตอร์จะสร้างโซเชียลมีเดียแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ในยุคคริปโตเคอร์เรนซี
2. Google - Sundar Pichai (49 ปี)
ซุนดา พิชัย ได้รับการแต่งตั้งเป็นซีอีโอของกูเกิล ในปี 2015 โดยเป็นซีอีโอคนที่ 3 ของบริษัท และในปลายปี 2019 ภายหลังจากที่กูเกิลประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่โดยมีการตั้งบริษัทแม่ที่ชื่อว่า Alphabet ซุนดาก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นซีอีโอของบริษัทแห่งนี้
ซุนดา เกิดเมื่อปี 1972 ที่รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย ในครอบครัวชนชั้นกลางค่อนไปทางยากจน พ่อเป็นวิศวกรในโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ขณะที่แม่เป็นแม่บ้าน จุดเด่นแรกของเขาคือการเป็นเด็กเรียนเก่ง ซึ่งจบจาก Indian Institutes of Technology มหาวิทยาลัยชั้นนำของอินเดีย ก่อนจะขอทุนไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย Stanford ในด้านวิศวกรรมศาสตร์ และวัสดุศาสตร์ และได้ทุนเรียนต่อ MBA ที่ ม.เพนซิลเวเนีย
จุดเด่นต่อมาที่ทำให้ประสบความสำเร็จในกูเกิล ซึ่งเขาเข้าทำงานมาตั้งแต่ปี 2004 ก็คือ การเป็นทีมเบื้องหลังความสำเร็จของโครงการเบราเซอร์ Chrome และโครงการดูแลระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ เพื่อนร่วมงานยกย่องเขาว่าเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น เอาใจใส่ รวมทั้งมีการสื่อสารที่ดีต่อทีมงานทุกคน จึงทำให้เขาจึงได้รับเลือกให้ก้าวขึ้นสู่ซีอีโอของกูเกิล
3. Microsoft - Satya Nadella (54 ปี)
สัตยา นาเดลลา เป็นลูกหม้อของไมโครซอฟต์มานานกว่า 20 ปี โดยเป็นรองประธานกลุ่มธุรกิจ Cloud และ Enterprise ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งเป็นซีอีโอ ตั้งแต่ปี 2014 ต่อจากบิลล์ เกตส์ และสตีฟ บัลเมอร์
บิลล์ เกตส์ กล่าวถึงผู้บริหารอินเดียรายนี้เอาไว้ว่า “ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่มีใครเหมาะสมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของไมโครซอฟท์มากไปกว่า สัตยา นาเดลลา อีกแล้ว เขามีทักษะด้านวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม ประกอบกับวิสัยทัศน์ทางด้านธุรกิจและเทคโนโลยีที่สามารถหลอมรวมคนเข้าด้วยกัน รวมไปถึงประสบการณ์ที่จะนำไมโครซอฟท์ก้าวไปสู่บทบาทต่อไปทางด้านนวัตกรรมที่จะก่อให้เกิดการขยายตัวและเติบโตต่อไป”
4. IBM - Arvind Krishna (59 ปี)
อาร์วินด์ กฤษณา เกิดและเติบโตในรัฐอันทรประเทศ และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยท้องถิ่นในด้านวิศวกรรมเช่นเดียวกับซีอีโอคนอื่นๆ ก่อนจะไปศึกษาต่อที่สหรัฐ และทำงานในไอบีเอ็มมาตั้งแต่ปี 1990
อาร์วินด์ได้รับการแต่งตั้งเป็นซีอีโอของไอบีเอ็มเมื่อต้นปี 2020 โดยมีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีสำคัญๆ อย่าง เอไอ คลาวด์ ควอนตัม และบล็อกเชน และยังเป็นผู้ดูแลการซื้อกิจการ Red Hat บริษัทซอฟต์แวร์โอเพนซอสชื่อดังที่เข้ามาเปลี่ยนแปลง IBM ทำให้ถือว่าครบเครื่องทั้งด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ โดยได้รับการยกย่องว่าเป็นซีอีโอที่เหมาะสมที่สุดสำหรับยุคสมัยแห่งอนาคตของไอบีเอ็ม ที่จะพาบริษัทก้าวไปสู่ยุคของระบบ Cloud และ Cognitive computing
5. Adobe Inc.- Shantanu Narayen (58 ปี)
ชานทานู นาราเยน เกิดและเติบโตที่เมือง ไฮเดอราบัด ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในฮับด้านไอทีของอินเดีย โดยเกิดในครอบครัวชนชั้นกลางซึ่งพ่อเป็นเจ้าของบริษัทพลาสติก และแม่เป็นครูสอนวรรณคดีอังกฤษ ซึ่งเรียกได้ว่ามีต้นทุนทางครอบครัวที่พร้อม เขาจบการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Osmania ในไฮเดอราบัด ก่อนจะไปศึกษาต่อที่สหรัฐ และลงหลักปักฐานถาวรที่นั่น
นาราเยน ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ อะโดบี มาตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งบททดสอบที่ท้าทายความสามารถที่สุดในการเป็นผู้นำองค์กรก็คือ การที่โปรแกรม Adobe Flash ถูกต่อต้านจากแอปเปิล อิงก์ ในปี 2008 ซึ่งเขาได้ทยอยประคองสถานการณ์มาได้ พร้อมกับการเปลี่ยนโครงสร้างรายได้ครั้งใหญ่ จากการขายโปรแกรมบนแผ่นซีดีแบบครั้งเดียว มาเป็นรูปแบบ Subscription ซึ่งช่วยพลิกรายได้ในช่วงไม่กี่ปีหลังจากนั้น