ธุรกิจการตลาด

BYD ปี 66 ยอดขายทะลุ 3 ล้านคัน ดันยอด BEV ตีตื้น Tesla

2 ม.ค. 67
BYD ปี 66 ยอดขายทะลุ 3 ล้านคัน  ดันยอด BEV ตีตื้น Tesla

BYD โชว์ยอดขายปี 2023 ทะลุ 3,012,906 คัน เพิ่มขึ้น 62.2% จากปีก่อนหน้า คิดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) จำนวน 1,574,822 คัน และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) 1,438,084 คัน จ่อแซง Tesla ทั้งในแง่ยอดขายรวม ยอดขาย BEV และจำนวนการผลิต

โดยในปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา BYD รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นว่า ในไตรมาสที่ 4 BYD ทำยอดขายทั่วโลกไปได้ถึง 526,409 คัน โดยเป็นยอดขายในเดือนธันวาคมไปถึง 340,178 คัน (เป็น BEV 190,754 คัน) เพิ่มขึ้น 45% จากปีก่อนหน้า และ 13% จากเดือนก่อนหน้า หลังจากมีการทำโปรโมชั่นลดราคากระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปี

สำหรับยอดขายที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี ดันให้ยอดขายทั้งปีของ BYD เพิ่มขึ้นเป็น 3,012,906 คัน เกินเป้าที่ตั้งไว้ 3 ล้านคัน และเกือบมากกว่ายอดขายรถ BEV และ PHEV ของ BYD ห้าปีทีผ่านมารวมกัน สะท้อนว่า BYD เติบโตขึ้นอย่างมากในระยะเวลาที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยอดขายรถ BEV ทั้งปีของ BYD ยังเพิ่มขึ้นไปเป็น 1,574,822 คัน ได้ตีตื้นเจ้าตลาดอย่าง Tesla ซึ่งในปัจจุบันยังคงครองยอดขายรถ BEV ที่สูงที่สุดในโลกอยู่ 

ขณะที่ Tesla มียอดขายรถยยนต์ไฟฟ้า ทั้งปี  66 อยู่ที่ 1,808,581 คัน  จะเห็นได้ว่า ยอดขายรวมของ BYD แซงหน้าเทสล่าไปไกลแล้ว แต่ถ้าหากเจาะเฉพาะรถไฟฟ้าล้วนๆ ก็เป็นรองเทสล่า อยู่เพียง 2 แสนกว่าคันเท่านั้น 

และนอกจากยอดขายแล้ว ยอด ‘ผลิต’ ทั้งปี 66  ของ BYD ยังแซง Tesla ต่อเนื่องเป็นปีที่สองอีกด้วย โดยปี 66 ยอดผลิต BYD อยู่ที่  3,045,231  คัน  ส่วน Tesla ยอดผลิตอยู่ที่ 1,845,985 คัน 

ฺBYD แซง Tesla

BYD มุ่งตีตลาดยุโรป ตั้งโรงงานในฮังการี

ทั้งนี้ แม้ BYD จะทำยอดได้ถล่มทลายในปีนี้ ยอดขายส่วนมากยังเป็นยอดขายในจีน โดยสำหรับปี 2023 BYD ทำยอดขายต่างประเทศไปได้ 242,766 คัน ทำให้ในปีหน้า BYD มีแผนที่จะเพิ่มยอดขายในต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดยุโรป 

นอกจากนี้ ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา BYD ยังเพิ่งประกาศว่า บริษัทกำลังจะเข้าไปตั้งฐานการผลิตแห่งแรกในยุโรปที่ในเมืองเซเกด (Szeged) ในฮังการี และมีแผนที่จะปล่อยรถรุ่นใหม่อีก 3 รุ่นในตลาดยุโรปในระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้า จากในปัจจุบันที่มีจำหน่ายอยู่แล้วทั้งหมด 5 รุ่น
ตลาดอีวีจีนเดือดต่อเนื่อง ผู้เล่นลงตลาดเพิ่ม

ในปี 2023 ตลาดอีวีในจีนซึ่งเป็นตลาดอีวีที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกยังคงเติบโตต่อเนื่อง และผู้เล่นในตลาดยังมีแนวโน้มเจอการแข่งขันที่สูงขึ้น เนื่องจากมีผู้เล่นใหม่ อย่าง Xiaomi เข้ามาแย่งส่วนแบ่งในตลาด ขณะที่ผู้เล่นรายเล็กต่างเติบโตขึ้นในปีนี้

ในปี 2023 Li Auto หนึ่งในผู้ผลิตอีวีของจีน มียอดขายทั้งหมด 376,030 เพิ่มขึ้น 182% จากปีก่อนหน้า และมีแผนที่จะปล่อย MEGA รถ BEV รุ่นแรกของบริษัทในปีหน้า และเริ่มส่งรถในเดือนมีนาคม ขณะที่ Xpeng อีกผู้ผลิตอีวีขนาดกลางของจีน ทำยอดขายไปได้ทั้งหมด 141,601 คัน เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อนหน้า 

นอกจากนี้ Aito แบรนด์รถอีวีของ Huawei ยังเผยในวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาว่า ยอดสั่ง M9 SUV ซึ่งเป็นรถอีวีรุ่นใหม่ของแบรนด์นั้นเกิน 30,000 คันเรียบร้อยแล้ว ภายในระยะเวลาเพียง 7 วันหลังมีการเปิดตัวรถรุ่นดังกล่าว โดยทาง Aito จะเริ่มส่งมอบรถรุ่น M9 SUV ภายในปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่กำลังจะถึงนี้

ในปี 2023 Aito ทำยอดขายไปได้ทั้งหมด 94,380 คัน และเป็นยอดขายเดือนธันวาคมถึง 24,468 คัน

อ้างอิง: CNBC, Bloomberg, Investors

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT