ธุรกิจการตลาด

สงครามราคารถ EV ยังไปต่อ เมื่อ ‘อีลอน มัสก์’ มั่นใจแนวทางลดราคาถูกต้อง

19 ต.ค. 66
สงครามราคารถ EV ยังไปต่อ เมื่อ ‘อีลอน มัสก์’ มั่นใจแนวทางลดราคาถูกต้อง
ไฮไลท์ Highlight
  • อีลอน มัสก์ มั่นใจ การลดราคารถ EV ถูกต้อง แม้ Tesla กำไรดิ่ง 40%
  • อะไรเป็นสาเหตุ ที่กำไร Tesla ลดลง กว่า 40% 
  • ในเวลานี้ Tesla ยังคงเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า แม้กำไรหด

     

Tesla ผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ต่ำกว่าคาดการณ์ โดยกำไรสุทธิลดลงมากกว่า 40% สาเหตุหลักมาจากการปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้าในหลายตลาด เพื่อกระตุ้นยอดขาย

อีลอน มัสก์ มั่นใจ การลดราคารถ EV ถูกต้อง แม้ Tesla กำไรดิ่ง 40%

จากรายงานของทางเว็บไซต์ asia.nikkei  ที่ได้กล่าวว่า Tesla ยักษ์ใหญ่รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติสหรัฐฯ ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ทำให้หุ้นร่วงลงเกือบ 5% ในการซื้อขายหลังตลาดวันพุธที่ผ่านมา โดย กำไรสุทธิลดลงมากกว่า 40% เหลือ 1.9 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงสามเดือนที่สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น 9% เป็น 23.4 พันล้านดอลลาร์ แต่อัตรากำไรจากการดำเนินงานลดลงอย่างมากเหลือ 7.6% จาก 17.2% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้

อีลอน มัสก์ มั่นใจ การลดราคาเป็นแนวทางที่ถูกต้อง

สงครามราคารถ EV ยังไปต่อ เมื่อ ‘อีลอน มัสก์’ มั่นใจแนวทางลดราคาถูกต้อง

จากคำกล่าวในการประชุมรายได้ อีลอน มัสก์ CEO ของ Tesla กล่าวว่า บริษัทจำเป็นต้องลดราคารถยนต์ไฟฟ้า เพื่อจูงใจกลุ่มลูกค้าที่เวลานี้ ไม่ใช้จ่ายเงินเยอะ  ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น รวมถึง การมาของแข่งขันอย่าง General Motors และ Ford ที่เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ด้วยราคาที่ย่อมเยากว่า

"ต้นทุนสำคัญแค่ไหน ผมบอกไม่ได้ เพราะว่ารถยนต์ ไม่ใช่สิ่งที่เป็นตัวเลือกสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่มันเป็นสิ่งที่จำเป็น ดังนั้นเราจะต้องทำให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีราคาที่ถูกลงเพื่อให้ สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อรายใหม่ๆได้"

นอกจากนี้ มัสก์ ยังกล่าวเสริมว่า "การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย เป็นตัวส่งผลต่อความสามารถในการซื้อรถยนต์ของผู้บริโภค เหมือนกับเป็นการเพิ่มขึ้นของราคารถยนต์ไปโดยปริยาย"  ดังนั้นแนวทางการลด ราคารถยนต์ EV ลงในหลาย ๆ ตลาดในเวลานี้ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และเราจะยังคงพิจารณาปรับลดราคาเพิ่มเติมต่อไป หากจำเป็น 

"การลดราคารถยนต์ของ Tesla อาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรของบริษัทในระยะสั้นเท่านั้น แต่จะช่วยกระตุ้นยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดในระยะยาว"  อีลอน มัสก์ กล่าวในการประชุมรายได้

 

สาเหตุที่กำไร Tesla ลดลง

 

เนื่องจาก Tesla ลดราคาในหลายตลาดและลดราคาอย่างต่อเนื่องทั้งใน จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และตลาดอื่นๆ เพื่อพยายามกระตุ้นความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า หลังจากยอดขายหดตัวในไตรมาสที่ 2 จากการที่ต้นทุนแบตเตอรี่เพิ่มสูงขึ้นและเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการพัฒนา Cybertruck, ปัญญาประดิษฐ์ และการปรับปรุงโรงงาน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนมองว่าการลดราคาของ Tesla อาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรในระยะยาว และทำให้บริษัทเสียเปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นๆ ที่ไม่สามารถลดราคาได้มากเท่ากัน เวลานี้คงยังคงต้องรอดูต่อไปว่าทาง Tesla จะสามารถฟื้นตัวในไตรมาสที่ 4 และจะกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งหรือไม่

 

Tesla ยังคงเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 

สงครามราคารถ EV ยังไปต่อ เมื่อ ‘อีลอน มัสก์’ มั่นใจแนวทางลดราคาถูกต้อง

Tesla ผลิตรถยนต์ได้น้อยลงในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากหยุดทำงานตามกำหนดและการส่งมอบ รถยนต์ EV ที่ชะลอตัวในจีน แต่บริษัทคาดว่าจะสามารถกลับมาเพิ่มอัตราการผลิต ได้ในไตรมาสที่ 4 โดยโรงงาน Gigafactory ในเซี่ยงไฮ้ยังคงเป็นศูนย์กลางการส่งออกหลักของ Tesla และเป็นผู้ส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนรายใหญ่ที่สุด 

ถึงแม้ว่าจะกำไรลดลงไม่เป็นไปตามเป้าแต่บริษัท Tesla ยังคงมีกำไรจากข้อมูลล่าสุดที่ companiesmarketcap รายงานว่า รายรับในปี 2023 อยู่ที่ 94.02 พันล้านดอลลาร์ (ตัวเลขปัจจุบันยังไม่จบปี) ที่มากกว่าปีก่อน 15.43% อยู่ที่ 81.46 พันล้านดอลลาร์

 

อ้างอิงข้อมูลจาก asia.nikkei  และ companiesmarketcap

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT