ธุรกิจการตลาด

แบนแป้งเด็กจากไทยหลังพบสารก่อมะเร็ง กัมพูชาห้ามขายแป้งเด็กไทยชั่วคราว

24 ส.ค. 65
แบนแป้งเด็กจากไทยหลังพบสารก่อมะเร็ง กัมพูชาห้ามขายแป้งเด็กไทยชั่วคราว

หลังจากบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ประกาศจะหยุดจำหน่ายแป้งเด็กที่ทำจากแร่ทัลก์ และเปลี่ยนมาเป็นแป้งข้าวโพด หลังเผชิญกับการฟ้องร้องคดีมาอย่างยาวนานในสหรัฐ และกระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภคนั้น ล่าสุด สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค การแข่งขันและปราบปรามการฉ้อโกง (CCF) ของกัมพูชา ได้ประกาศห้ามการนำเข้าและจำหน่ายแป้งเด็กจาก ‘ไทย’ และ ‘มาเลเซีย’ เป็นการชั่วคราว หลังอ้างว่าพบการปนเปื้อนของแร่ใยหิน (Asbestos) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง

 

แป้งเด็ก
 

ห้ามนำเข้า แป้งเด็ก จอห์นสัน, ดีนี่, โคโดโม, เภสัช, เบบี้มายด์

 

แถลงการณ์จาก CCF ระบุว่า ผลิตภัณฑ์แป้งเด็กที่มีการปนเปื้อนแร่ใยหิน ได้แก่ จอห์นสัน แป้งเด็ก, จอห์นสัน แป้งเด็ก สูตรบลอสซั่ม, ดีนี่ แป้งเด็ก, ดีนี่ นิวบอร์น แป้งเด็ก, โคโดโม แป้งเด็ก, แป้งเย็น เภสัช และเบบี้มายด์ เนเชอรัลแอนด์มายด์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังตรวจพบการปนเปื้อนของแป้งเด็กที่นำเข้าจากประเทศมาเลเซียอีกด้วย ได้แก่ แป้งเด็ก Pureen และ Laffair Be Love

 

แป้งเด็ก กัมพูชา



CCF ระบุเพิ่มเติมในแถลงการณ์ว่า “ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง จะต้องไม่มีการปนเปื้อน ‘แร่ใยหิน’ เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอาจก่อให้เกิดมะเร็ง ซึ่งผลิตภัณฑ์แป้งเด็กทั้งหมดจะต้องปลอดจากแร่ใยหิน”

 

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้แป้งโรยตัวได้ที่นี่

 

โดย CCF มีคำสั่งให้บริษัทผู้นำเข้าและกระจายสินค้า เรียกคืนผลิตภัณฑ์แป้งเด็กเหล่านี้จากตลาด และให้เวลา 2 สัปดาห์ ในการนำตัวอย่างแป้งเด็กดังกล่าวไปตรวจวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐานระดับนานาชาติ หลังจากที่ได้รับผลการตรวจวิเคราะห์ดังกล่าว CCF จะออกแถลงการณ์เพิ่มเติมอีกครั้ง
 
 


อย. ไทยยัน แป้งเด็กในไทยไร้สารปนเปื้อน

 

จากกรณีที่ บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ประกาศหยุดจำหน่ายแป้งเด็กที่ทำจากแร่ทัลก์ (Talc) และเปลี่ยนมาเป็นแป้งข้าวโพด (Corn starch) หลังเผชิญกับการฟ้องร้องกว่า 4 หมื่นคดี และประสบปัญหาด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภคนั้น เภสัชกรวีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้เผยกับสื่อในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า จากการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างแป้งเด็กที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ไม่พบการปนเปื้อนแร่ใยหินแต่อย่างใด ขอให้ผู้บริโภควางใจ

ปัจจุบัน แร่ทัลก์ หรือผงทัลคัม (Talcum) ยังคงเป็นสารที่ปลอดภัย สามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางได้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีการติดตามเฝ้าระวังความปลอดภัยของแป้งฝุ่นโรยตัวที่อาจมีการปนเปื้อนของแร่ใยหินมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน โดยได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่นโรยตัวที่มีส่วนผสมของทัลคัมหลายยี่ห้อ รวมจำนวน 133 ตัวอย่าง ล่าสุด ในปี 2563-2565 เก็บส่งตรวจวิเคราะห์ จำนวน 20 ตัวอย่าง ผลการตรวจวิเคราะห์ทุกรายการไม่พบการปนเปื้อนแร่ใยหิน

 

แป้งเด็กจอห์นสัน



เภสัชกรวีระชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า แป้งฝุ่นโรยตัวมีส่วนประกอบหลัก คือ ทัลคัม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่พบได้ตามธรรมชาติ ช่วยดูดซับความชื้น ให้ความรู้สึกสบาย นุ่มลื่นผิว มีการใช้มาเป็นเวลานาน โดยทัลคัมที่นำมาใช้ในเครื่องสำอางต้องมีความบริสุทธิ์สูง ไม่มีการปนเปื้อนของแร่ใยหิน (Asbestos)

สำหรับแร่ใยหิน เป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง หากตรวจพบแร่ใยหินในแป้งฝุ่นโรยตัวจะเข้าข่ายเป็นเครื่องสำอางที่มีสารห้ามใช้ จัดเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้ามีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ทั้งนี้ แนะนำการใช้แป้งฝุ่นโรยตัวว่า ไม่ควรใช้ในปริมาณมาก ๆ เพราะผงแป้งจะฟุ้งกระจาย หากสูดดมเข้าไปอาจทำให้ระคายเคืองทางเดินหายใจ นอกจากนี้ กฎหมายได้กำหนดให้แสดงคำเตือนที่ฉลากของผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่นสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ว่า “ระวังอย่าให้แป้งเข้าจมูกและปากของเด็ก”

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT