แป้งเด็ก จอห์นสัน เตรียมเลิกขายสูตรเก่า ปีหน้า ยัน ไม่เสี่ยงมะเร็ง

จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson&Johnson) เตรียมยุติการจำหน่ายแป้งเด็กสูตรดั้งเดิมซึ่งมีส่วนผสมของ ‘แร่ทัลก์ (talc)’ ทั่วโลกในปีหน้า หลังบริษัทหยุดขายผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ในสหรัฐมานานกว่า 2 ปี เนื่องจากถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้บริโภคกว่า 40,300 คดี และถูกศาลสั่งให้จ่ายเงินชดเชยผู้เสียหายแล้วกว่าแสนล้านบาท (หลายคดียังไม่จบ)

แป้งฝุ่น กับมะเร็ง เกี่ยวกันจริงมั้ย?

 

ประเด็นที่ทำให้จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ถูกฟ้องร้องกว่า 4 หมื่นคดีนั้น มาจากข้อสันนิษฐานที่ว่า “แป้งสูตรที่มีส่วนผสมของ ‘แร่ทัลก์’ เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง” ซึ่งมาจาก 2 ปัจจัยดังนี้

 
แร่ทัลก์ (Talc)

 

เป็นส่วนผสมสำคัญที่ใช้ในเครื่องประทินผิวมาอย่างยาวนาน ทั้ง แป้งฝุ่นโรยตัว บลัชออน อายชาโดว์ และผลิตภัณฑ์เนื้อฝุ่นอื่นๆ เพราะมีคุณสมบัติดูดซับความชื้นได้ดี ลดความเหนอะหนะ รวมถึงทำให้บริเวณที่ทามีความฝืดน้อยลง
 
ซึ่งส่วนประกอบดังกล่าว เป็นเหตุที่ทำให้จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ถูกฟ้องรวมแล้วกว่า 4 หมื่นคดี ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และมีการจ่ายค่าชดเชยให้เหยื่อไปแล้วกว่า 3,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.26 แสนล้านบาท) เช่น คดีในรัฐมิสซูรี ที่สู้กันถึงชั้นศาลฎีกา และศาลสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย 2,100 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.5 หมื่นล้านบาท) ให้กับผู้เสียหาย 22 ราย ที่อ้างว่า แป้งที่มีส่วนผสมของแร่ทัลก์ ทำให้พวกเธอเป็น ‘โรคมะเร็งรังไข่’ (Ovarian Cancer) โดยจากคำให้การของผู้เสียหายระบุว่า พวกเธอเป็นมะเร็งรังไข่ หลังจากใช้แป้งเด็ก และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแร่ทัลก์มานานนับสิบปี
 
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการพบงานวิจัยใดๆ ที่เชื่อมโยงระหว่างมะเร็งรังไข่ กับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแร่ทัลก์อย่างชัดเจน บทความบนเว็บไซต์ WebMD ซึ่งรวบรวมข้อมูลและข้อสงสัยด้านสุขภาพ ตรวจทานโดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่า จากการวิจัยซึ่งทดสอบกับผู้หญิงกว่า 250,000 คน ตั้งแต่ปี 1976 ถึงปี 2017 พบว่า ผู้เข้าร่วมการวิจัยซึ่งใช้แป้งฝุ่นบริเวณ ‘น้องสาว’ ของพวกเธอ ไม่ได้นำไปสู่การเกิดมะเร็งรังไข่อย่างมีนัยสำคัญ
 
นอกจากนี้เว็บไซต์ดังกล่าวยังระบุอีกว่า การสูดดมผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนของแร่ทัลก์เข้าไปไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดมะเร็งปอด ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มแป้งฝุ่นไม่ต้องกังวลว่าการสูดเข้าไปจะเป็นอันตราย

แร่ใยหิน (asbestos)

 
 
ก่อนหน้านี้ในบ้านเราเคยมีการรณรงค์ยุติการใช้ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่มีส่วนประกอบของ ‘แร่ใยหิน’ หลังพบว่าแร่ดังกล่าวเป็นสารก่อมะเร็ง และการสูดดมจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปอดได้

แร่ใยหิน เป็นแร่ที่อาจพบปะปนมากับแร่ทัลก์ ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางค์จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบการปนเปื้อนของแร่ใยหินในแร่ทัลก์อย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้สารก่อมะเร็งดังกล่าวตกค้างในเครื่องประทินผิว และส่งต่อมาถึงผู้บริโภค
 

 
จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เลิกขายแป้งฝุ่นสูตรผสม ‘ทัลก์’ ในสหรัฐและแคนาดาตั้งแต่ปี 2020

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ประกาศในปี 2020 ว่า บริษัทจะยุติการขายแป้งเด็กที่ทำจากแร่ทัลก์ในสหรัฐและแคนาดา เพราะความต้องการซื้อดิ่งลง เนื่องจากผู้บริโภคได้รับข้อมูลที่ “คลาดเคลื่อน” เกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ในขณะที่ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ต้องเผชิญกับการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจำนวนมาก

บริษัทจึงเตรียมที่จะยกเลิกการขายผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนของแร่ทัลก์ทั่วโลก ในปี 2023 ที่จะถึงนี้ โดยจะปรับเป็นสูตรที่ใช้ ‘แป้งข้าวโพด’ แทน

จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน รับมือกับการฟ้องร้องกว่า 4 หมื่นคดีอย่างไร?

 

เพื่อรับมือกับปัญหาการฟ้องร้องกว่า 40,300 คดี ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้แยกบริษัทที่มีชื่อว่า ‘LTL Management’ ออกมา เพื่อให้บริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่นี้ กลายเป็น ‘จำเลย’ ของคดี และยื่นขอให้บริษัทนี้อยู่ในสถานะ ‘ล้มละลาย’ เพื่อให้คดีความฟ้องร้องถูกพักไว้ชั่วคราว

 

ประเด็นดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงสังคม โดยหนึ่งในผู้พิพากษาที่อนุมัติคำขอล้มละลายของบริษัทลูกที่ตั้งขึ้นใหม่ระบุว่า ศาลทราบดีว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะก่อให้เกิดความคับข้องใจ และความกังวลใจ แต่ชี้แจงว่า ขั้นตอนดังกล่าวจะเป็นผลดีต่อผู้เสียหาย และจะช่วยทำให้ขั้นตอนการเยียวยาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ที่มา : Fox Business, BBC, WebMD