ธุรกิจการตลาด

'พฤกษา' ต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจสุขภาพ ลงทุนสตาร์ทอัพเฮลท์เทคมาเลเซีย

15 ก.ค. 65
'พฤกษา' ต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจสุขภาพ ลงทุนสตาร์ทอัพเฮลท์เทคมาเลเซีย

หากพูดถึงบิ๊กธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ท็อป 5 ของไทยที่ทำรายได้และกำไรสูงสุด ต้องมีชื่อของ 'พฤกษา' ติดอยู่ในนั้นแน่นอน โดยในปี 2559 ที่ผ่านมา บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท(PS) ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจใหญ่ไปเป็นบริษัทโฮลดิ้ง หรือ โฮลดิ้ง คอมพานี ในชื่อใหม่ว่า บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง(PSH) ด้วยเหตุผลว่าต้องการหาโอกาสในการดําเนินธุรกิจใหม่ๆ โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่มีความสามารถในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง(Recurring Income) ที่มั่นคง และเพื่อความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ

 

จนในกระทั่งในปี 2560 ปี “พฤกษา โฮลดิ้ง” ได้รุกเข้าไปลงทุนใรธุรกิจด้านสุขภาพเป็นครั้ง โดยประกาศลงทุนสร้าง โรงพยาบาลวิมุต ริมถนนพหลโยธิน ใกล้สี่แยกสะพานควาย โรงพยาบาลแห่งแรกของตัวเอง ขนาด 236 เตียง ที่เริ่มก่อสร้างในช่วงปลายปี 2560 ด้วยงบประมาณเกือบ 5,000 ล้านบาท และเริ่มเปิดให้บริการเฟสแรกเดือนพฤษภาคม 2564 และในปี 2564 ทุ่มงบลงทุนอีก 708.8 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อหุ้นสัดส่วน 51% ของโรงพยาบาลเทพธารินทร์ ตั้งอยู่ย่านถนนพระราม 4 เป็นโรงพยาบาลแหล่งที่ 2 ของบริษัท


ล่าสุด "พฤกษา โฮลดิ้ง" ลงทุนรอบพรี ซีรี่ส์ บี ในสตาร์ทอัพด้านเฮลท์เทค "นัลลูรี่" (Naluri) ผู้ให้บริการสุขภาพแบบดิจิทัล สัญชาติมาเลเซีย ร่วมกับ Bertelsmann Investments จากเยอรมนี และ Striders Corporation จากญี่ปุ่น และยังได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนเดิมอีกหลายราย รวมถึง M Venture Partners (MVP) จากสิงคโปร์, Palm Drive Capital สหรัฐอเมริกา และ INP Capital จากแคนาดา ด้วยวงเงินลงทุนรวมทั้งหมด ประมาณ 248 ล้านบาท หรือประมาณ 7 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

โดย "นัลลูรี่" มีแผนขยายการให้บริการในไทย อินโดนีเซีย และครอบคลุมเอเชียตะวันอกเฉียงใต้ รวมถึงออสเตรเลีย โดยพฤกษามุ่งหวังต่อยอดพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงยกระดับบริการแก่ลูกบ้านพฤกษาและผู้รับบริการของโรงพยาบาลวิมุตในอนาคตที่ 'พฤกษา โฮลดิ้ง' เป็นเจ้าของอยู่

 

พฤกษา โฮลดิ้ง

 

'อุเทน โลหชิตพิทักษ์' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)(PSH) เปิดเผยว่า "บริษัทฯ ได้เน้นการลงทุนร่วมในธุรกิจสตาร์ทอัพด้าน Health Tech และ Prop Tech โดยมีหลักในการพิจารณากลุ่มธุรกิจที่จะร่วมลงทุน คือต้องมีแผนพัฒนาโซลูชันที่มุ่งส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งด้านการอยู่อาศัยและการดูแลสุขภาพ ที่สำคัญต้องเป็นโมเดลธุรกิจ ที่ยึดหลักการดำเนินธุรกิจ โดยให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน (Sustainability) อันเป็นแนวทางการประกอบกิจการของกลุ่มพฤกษามาโดยตลอด

 

นายอุเทน กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พฤกษาได้ตัดสินใจลงทุนใน "นัลลูรี่" ผู้ให้บริการสุขภาพแบบดิจิทัล (Digital Health Service Provider) โดยให้บริการด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีสุขภาพผ่านแอปพลิเคชั่น "Naluri" ซึ่งมอบโซลูชั่นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Health Care) ที่ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ใช้เทคโนโลยีในการดูแลตัวบุคคลแบบครบถ้วน

 

เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนที่มีความเสี่ยง หรือ ต้องการจัดการโรคเรื้อรัง ปัญหาสุขภาพจิต รวมถึงเบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง ภาวะอ้วนลงพุง และภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่เป็นปัญหาระดับภูมิภาคและเป็นปัจจัยที่ทำให้ศักยภาพในการทำงาน อายุขัย และผลิตภาพทางเศรษฐกิจลดลง

 

สำหรับ Naluri ที่มีนักลงทุนรายใหม่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจครั้งนี้ นำทีมโดยพฤกษา จากประเทศไทย Bertelsmann Investments จากเยอรมนี และ Striders Corporation ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทาง Naluri เองยังมีแรงสนับสนุนจากนักลงทุนเดิมหลายราย

 

อาทิ Sumitomo Corporation จากประทศญี่ปุ่น M Venture Partners จากสิงคโปร์ Palm Drive Capital สหรัฐอเมริกา และ INP Capital จากแคนาดา โดยการลงทุนครั้งนี้เพื่อการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ของ Naluri ในประเทศไทย และช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในมาเลเซีย สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย รวมทั้งมีแผนขยายบริการในอนาคตให้ครอบคลุมทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงออสเตรเลียด้วย

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT