ธุรกิจการตลาด

‘จีน‘ หันมาใช้ชิปตัวเอง จ่อแบนชิปสหรัฐฯ ‘Intel-AMD’ ในระบบคอมพิวเตอร์รัฐ

25 มี.ค. 67
‘จีน‘ หันมาใช้ชิปตัวเอง จ่อแบนชิปสหรัฐฯ ‘Intel-AMD’ ในระบบคอมพิวเตอร์รัฐ

สะเทือนวงการชิปแน่นอน หลังจากที่จีนเสนอระเบียบการใหม่ เตรียมตัดการใช้ชิปจาก Intel และ AMD 2 บริษัทชิปใหญ่สหรัฐฯ ในหน่วยงานรัฐบาล เพื่อหันไปใช้เทคโนโลยีของจีนแทน และอาจพิจารณายกเลิกการใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ของ Microsoft รวมไปถึงซอฟต์แวร์ดาต้าเบสอื่นๆ จากบริษัทต่างชาติ

กฎการจัดซื้อล่าสุดแสดงถึงก้าวที่สำคัญที่สุดของจีน ในการหันมาใช้เทคโนโลยีของตัวเอง และสะท้อนถึงความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศระหว่างสหรัฐกับจัน ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรบริษัทจีนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ ออกกฎหมายเพื่อส่งเสริมให้มีการผลิตเทคโนโลยีมากขึ้นในสหรัฐฯ และบล็อกการส่งออกชิปขั้นสูงและเครื่องมือที่เกี่ยวข้องไปยังจีน

หน่วยงานรัฐบาลจีนเริ่มปฏิบัติตามระเบียบการนใหม่ในปีนี้ หลังจากที่กระทรวงการคลังและกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) เริ่มส่งสัญญาณตั้วงแต่วันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยทางกระทรวงได้เผยแพร่รายชื่อบริษัทด้านชิปประมวลผลและระบบปฏิบัติการที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ 18 แห่ง ซึ่งทั้งหมดมาจากบริษัทจีน โดยในบรรดาบริษัทที่ได้รับการอนุมัตินั้น เป็นชิปจาก Huawei และกลุ่ม Phytium ที่รัฐบาลจีนสนับสนุนอยู่ และเป็นกลุ่มที่ถูกแบล็กลิสต์ในสหรัฐฯ 

นอกจากนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ของจีนได้แจ้งรัฐวิสาหกิจ ให้ดำเนินการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีไปยังบริษัทของจีนทั้งหมดภายในปี 2570 ทำให้ตอนนี้ กลุ่มรัฐได้เริ่มปรับเปลี่ยนระบบไอทีใหม่ 

ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ อาจสร้างความเสียหายให้กับบริษัทสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก เนื่องจากจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ Intel ในปีที่ผ่านมา ด้วยสัดส่วนยอดขายที่ 27% ของยอดขายทั้งหมด 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วน AMD มีสัดส่วนยอดขายในจีนที่ 15% จากยอดขายทั้งหมด 2.3 หมื่นนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ Microsoft ไม่ได้เปิดเผยยอดขายในจีน แต่ประธานาธิบดีแบรด สมิธเคยเผยกับรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้วว่า ตลาดจีนคิดเป็น 1.5% ของรายได้ทั้งหมด

ด้านนักวิเคราะห์จาก Zheshang Securities ประเมินว่า จีนจะต้องใช้เงินลงทุน 6.60 แสนล้านหยวน หรือราว 9.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปี 2566 ถึง 2570 เพื่อแทนที่โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีในหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานในพรรค และอุตสาหกรรมหลัก 8 แห่ง

ที่มา Financial Times

advertisement

SPOTLIGHT