ธุรกิจการตลาด

‘อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ มั่นใจยอดขาย ปี 67-69 โตตัวเลข 2 หลัก

18 มี.ค. 67
‘อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ มั่นใจยอดขาย ปี 67-69 โตตัวเลข 2 หลัก

บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM มั่นใจแนวโน้มยอดขายในช่วง 3 ปีนี้ (ปี 67-69) จะยังคงเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักอย่างต่อเนื่องทุกปี จากการเป็นผู้นำตลาดเบอร์ 1 ของผู้ประกอบการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ทุกประเภทมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งงบลงทุน 3 ปี ราว 3,000 ล้านบาท ขยายสาขาและปรับปรุงสาขาเดิม

โดยคุณกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ ILM ได้แสดงความมั่นใจถึงยอดขายในช่วง 3 ปีนี้ (ปี 67-69) จะยังคงเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักอย่างต่อเนื่องทุกปี จากการเป็นผู้นำตลาดเบอร์ 1 ของผู้ประกอบการจำหน่ายฟอร์นิเจอร์ทุกประเภทมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 10 ปี

โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ ยอดขายของบริษัทยังคงทำได้ดีมากขึ้นต่อเนื่องจากปลายปี 66 จากการที่ภาครัฐมีโครงการ Easy e-reciept ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการจับจ่ายใช้สอยในช่วงต้นปี และบริษัทยังคงมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ ทำให้สามารถเข้าลูกค้าได้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการขายผ่านช่องทางออนไลน์ และยังมีการเพิ่มสินค้าใหม่เข้ามาตอบโจทย์พฤติกรรมความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เป็นปัจจัยที่เข้ามาช่วยให้ยอดขายสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง และคาดว่ายอดขายจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

เปิดยุทธศาสตร์ 3 ปี  ยืนหนึ่งผู้นำธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ของประเทศไทย

โดยการดำเนินธุรกิจของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ไม่ได้วัดผลกำไรเพียงอย่างเดียว  องค์กรให้ความใส่ใจกับการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ เกิดการต่อยอด เติบโต ขยายผล ด้วย 5 แกนหลัก คือ 

  • Speed to Market : กลยุทธ์ความรวดเร็วและว่องไว รุกไวและปรับตัวเร็ว หัวใจสำคัญที่ได้เปรียบคู่แข่งขัน 
  • Customer Centric  : ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สร้างประสบการณ์ที่ดี รับฟังและเข้าใจลูกค้า
  • Data Driven : ตัดสินด้วยข้อมูลเป็นหลัก นำมาซึ่งถูกทาง ถูกใจ ถูกต้อง 
  • Space Optimization : การจัดสรรพื้นที่ การขยายสาขาใหม่ การปรับปรุงสาขาเดิมให้เหมาะสมกับวิถีชีวิต พฤติกรรมความชื่นชอบของลูกค้า 
  • Automation : การนำเทคโนโลยีมาบูรณาการ เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล ดังนั้นการสร้างความยั่งยืนให้กับแบรนด์ จึงเป็นกลยุทธ์หลักและพลังขับเคลื่อนสู่การเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ 

แผนบุกปี 2567 อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ วางเป้าขยายผลความสำเร็จอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ “INDEX NEXTPERIENCE & BEYOND + SUSTAINABLE FUTURE”  เป็นนโยบายและกรอบแผนงานภายใน 3 ปีนี้ 

โดยยึดแนวคิด Triple Bottom Line สูตร 3P Performance - People - Planet เพื่อสร้างการตลาดในใจคนสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง “Performance” การดำเนินธุรกิจเพื่อให้เกิดผลการดำเนินงานอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth) มุ่งเน้นที่การขยายขอบเขตธุรกิจ 

โดยคาดเปิด อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาใหม่ 1-2 สาขา/ปี พร้อมเผย New Store Model ต้นแบบอาคารประหยัดพลังงานรายแรกของธุรกิจค้าปลีกไทยและรายแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาสระบุรี บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ทุ่มงบกว่า 170 ล้านบาท ซึ่งคาดเปิดบริการ Q1/2025

พร้อมเตรียมขยาย Little Walk อีก 1-2 สาขา ได้แก่ สาขารัตนาธิเบศร์ ด้วยทุ่มงบ 550 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 12ไร่ ประกอบด้วย อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ขนาด 6,340 ตร.ม. และพื้นที่ร้านค้าเช่า 10,100 ตรม. และคาดพร้อมให้บริการ Q4/2024 นอกจากนี้ มีแผน รีโนเวทสาขาเดิมด้วยดีไซน์ใหม่ 1-2 สาขา อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาเชียงใหม่ และอุดรธานี พร้อมเปิด “DecorScape” แหล่งช้อปแห่งใหม่ใจกลางทองหล่อ โดยทุ่มงบร่วม 150 ล้านบาท ปั้นเป็น Lifestyle Mall ดีไซน์ Modern Luxury รูปแบบอาคาร 3 ชั้น  บนพื้นที่ขนาด 3,000 ตร.ม.  

ปีนี้ขยายสาขาต่างประเทศอีก 4 แห่ง

สำหรับต่างประเทศปัจจุบันขยายไปแล้ว 12 สาขา ใน 6 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม 2, เมียนมาร์ 4, ลาว 1, กัมพูชา 2,  เนปาล 2 และ มัลดีฟส์ 1 สาขา และปี 2024 เตรียมขยายเพิ่มอีก 4 สาขา ที่เวียดนาม 2 สาขา (เมืองโฮจิมินห์) และเมียนมาร์ 1 สาขา (เมืองมัณฑะเลย์) และประเดิมการขยายตลาดไปยังอินเดีย ที่เมืองปุเณ (Pune) พร้อมกันนี้ยังมองโอกาสขยายขอบข่ายการจัดจำหน่ายสินค้าไปยังกลุ่มค้าปลีกรายใหญ่โซนตะวันออกกลาง เช่น ดูไบ, ซาอุดิอาระเบีย

เจาะตลาดออนไลน์ คาดโต 20%

ขณะที่ช่องทางการขายออนไลน์ ให้เติบโต 20% สร้างประสบการณ์ที่ดีรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคในทุกช่องทาง โดยในปีที่ผ่านมา TikTok เป็น Mega trend ใหม่ของปี ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสเติบโต และเพิ่ม TikTok Shop เป็นช่องทางในการทำตลาดและจัดจำหน่ายสินค้า 

โดยมีทีมงาน LIVE Streaming โดยเฉพาะ และผลการดำเนินงานของ TikTok Shop จากปี 2566 ส่งผลให้ Index Living Mall เป็นหนึ่งใน Top Sellers หมวดสินค้าเฟอร์นิเจอร์  ด้านการขยายฐานลูกค้าใหม่ บริษัทฯ ได้พัฒนาสินค้าอย่างหลากหลายทั้งดีไซน์และฟังก์ชันตอบโจทย์ความต้องการกลุ่ม New Gen เน้นการสร้าง Digital Experience และ Pop Display ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ เชื่อมไลฟ์สไตล์การช้อปปิ้ง ควบคู่การรักษาฐานลูกค้าเดิม  โดย ขยายไลน์สินค้าแบรนด์ Furinbox  จากออนไลน์สู่ออฟไลน์วางจำหน่าย 22 สาขา ทั่วประเทศ โดยจับกลุ่มลูกค้า C ที่มีฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ในประเทศ รวมถึงการขยายสินค้าในกลุ่ม Customized ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น

 ด้าน “People” มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ให้เหนือกว่า (Beyond Experience) โดยการสร้างกลยุทธ์ให้เหมาะกับพฤติกรรมและความต้องการเฉพาะของลูกค้า เช่น การนำเทคโนโลยีมาช่วยด้านการส่งเสริมการขายและบริการ เห็นได้ในไตรมาสแรกที่ ILM พัทยา ด้วย Generative AI for interior design นำเทคโนโลยี AI ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ  

สำหรับงานดีไซน์ ช่วยลดขั้นตอนให้ง่ายและรวดเร็วต่อการทำงานของดีไซน์เนอร์ ขณะเดียวกันเพิ่มความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด หรือแม้แต่ การพัฒนาโปรแกรมเพื่อการออกแบบ เพิ่มประสิทธิภาพบริการด้านดีไซน์ ส่งเสริมการขายในกลุ่มสินค้า Customized Furniture และ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ให้จบครบลูป 

ตลอดจน Index Mobile App บริการแอปพลิเคชั่นของคนรักการแต่งบ้าน ที่เตรียมเปิดตัวในไตรมาส 2 / 2667

รวมถึงบริการต่างๆ ที่สร้างประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้า ขณะที่พนักงานก็ได้รับประสบการณ์ความสุขเช่นกัน ILM มุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำด้วยการดึงคนรุ่นใหม่มาขับเคลื่อนองค์กร อีกหนึ่งส่วนสำคัญ “Planet” แนวปฏิบัติที่ยั่งยืนและมีจริยธรรม (Sustainable and Ethical Practices) การผลิตและพัฒนาสินค้าเพื่อความยั่งยืน ได้แก่ Eco Product เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, พัฒนาสินค้าที่สร้างคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดี, พัฒนาสังคมที่แข็งแกร่ง ส่งเสริมและร่วมพัฒนาสินค้ากับกลุ่มรัฐวิสาหกิจและชุมชน ชูอัตลักษณ์-ภูมิปัญญาท้องถิ่น

อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ มุ่งสู่การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

นายเอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายพัฒนาธุรกิจกลุ่มธุรกิจยูนีค และบริหารพื้นที่ศูนย์เดอะวอล์ค กล่าวว่า “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ใส่ใจกับ Environmental Sustainability ที่มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero สร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โดยประเดิมเปิดอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ New Store Model ที่สาขาสระบุรี ด้วยการออกแบบโครงสร้างอาคารประหยัดพลังงาน “Zero Energy Building” (ZEB) รูปแบบ ECO Store In Thailand  รายแรกของธุรกิจร้านค้าปลีกไทยและรายแรกในภูมิภาคอาเซียน 

โดยร่วมกับ คอรัล ไลฟ์ (CORAL LIFE)  ผู้ให้บริการออกแบบสภาพแวดล้อม   ซึ่งคุณภาพอากาศภายในอาคารประหยัดพลังงานดีเทียบเท่าอากาศในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ค่าฝุ่น PM2.5 ใกล้เคียงระดับ 0 ซึ่งจะสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับลูกค้าและพนักงาน อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ตั้งใจพัฒนาอาคารแห่งนี้เป็นเครื่องกรองอากาศของเมือง ด้วยความเชื่อที่ว่า ‘อากาศสะอาดควรเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานเปรียบเสมือนกับโครงสร้างพื้นฐานของเมืองสำหรับทุกคน’ 

ดังนั้น New Store Model  อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาสระบุรี  จึงเป็นศูนย์การค้าต้นแบบแห่งแรกในอาเซียน  ที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามเป้าหมายที่ประชาคมโลกต่างให้ความสำคัญ และนี่จึงเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการพัฒนาองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะการลงมือทำในปัจจุบันอย่างต่อเนื่องเท่านั้นจะเป็นกุญแจสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว

 ขณะเดียวกัน ภายในปีนี้เตรียมเปิด “DecorScape” Modern Luxury มอลล์รูปแบบใหม่ใจกลางทองหล่อ ภายในประกอบด้วยเฟอร์นิเจอร์ ‘BoConcept’ Flagship Store และ Lifestyle Lux Shop ชั้นนำ เจาะกลุ่มลูกค้า Premium Lifestyle ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่โซนทองหล่อ  เรียกได้ว่าเป็น Iconic ของกรุงเทพฯ ที่มีศักยภาพครบเครื่องขึ้นชื่อเรื่องความหรูหราไลฟ์สไตล์  ตอบโจทย์คนเมือง โดยผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เข้ามาทำงานในเมืองไทย  มีไลฟ์สไตล์  ช้อปปิ้ง กิน ดื่ม ครบในที่เดียว ซึ่งภายในโครงการจะมีแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านนำเข้าหลากสไตล์ รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่  โดยทุ่มงบกว่า 150 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปการดีไซน์รูปแบบอาคาร 3 ชั้น  คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าในย่านดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังต่อยอดนโยบายที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างรอบด้าน  ทั้งการติดตั้ง Solar Rooftop อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันติดตั้งไปแล้ว รวม 28 แห่ง ทั้ง อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์, ศูนย์การค้าเดอะวอล์ค, ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงาน ด้วยงบลงทุน 383 ล้านบาท ซึ่งปี 2566 สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 14,950.87 mWh คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ราว 7,261.64 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tonCO2eq)  และตลอด 6 ปีที่ผ่านมา สามารถช่วยประหยัดไฟไปมากถึง 300 ล้านบาท  และยังจะขยายการติดตั้ง Solar Rooftop ไปยังสาขาที่เปิดใหม่ตามลำดับ  อีกทั้งจะเพิ่มสัดส่วนการขนส่งพลังงานสะอาด (EV Truck) อีก 20% 

ปี 2024 ซึ่งปีที่ผ่านมาการขนส่งด้วยรถ EV ทั้ง 7 คัน รวม 5 จังหวัด เช่น จ.นครสวรรค์ พิษณุโลก นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่  สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ราว 5 ล้านบาท / ปี เทียบกับอัตราการเดินรถระหว่างเครื่องยนต์สันดาปกับรถ EV และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ราว 878.59 (tonCO2 eq) (*จำนวน CO2 อ้างอิงจำนวนการขนส่ง) เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 106,000 ต้น  ควบคู่กับการจัดการขยะ 3Rs  Reduce Reuse Recycle ร่วมกับภาคีภาครัฐและเอกชน ซึ่งในปีที่ผ่านมามีปริมาณการรีไซเคิลขยะและของเสียได้ถึง 8,284.37 ตัน และจากการใช้พลังงานทดแทนและการจัดการขยะ ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 14,160.68 tonCO2eq  อีกทั้งยังต่อยอดการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยเข้าร่วมโครงการ Care The Wild “ปลูกป่า กับ SET”  เพิ่มพื้นที่สีเขียวในท้องที่แห้งแล้ง นำร่องที่ป่าชุมชนบ้านโคกโสกขี้หนู  อ.ลำทะเมนชัย  จ.นครราชสีมา จำนวน 2,000 ต้น บนพื้นที่ 10 ไร่ จะช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 18 tonCO2 eq/ปี

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT