เถ้าแก่น้อย x Pokémon
เถ้าแก่น้อยประกาศความร่วมมือ จับมือกับ เดอะ โปเกมอน คอมพานี เจ้าของแบรนด์คาแรคเตอร์การ์ตูนชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างสีสันเอาใจนักสะสมโปเกมอนตัวยง นำคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนโปรเกมอนมาไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์สาหร่ายเถ้าแก่น้อย ในสาหร่ายอบรสคลาสสิค และสาหร่ายทอดรสคลาสสิค
นายปรมินทร์ จาวลา ผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” ขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ดำเนินกลยุทธ์สร้าง Brand Engagement บนฉลากผลิตภัณฑ์สาหร่ายเถ้าแก่น้อยร่วมกับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน เพื่อตอกย้ำผู้นำตลาดสาหร่ายอันดับ 1
โดยการที่ เถ้าแก่น้อย x Pokémon นั้นคือ ภายในซองเถ้าแก่น้อย เหล่านักสะสมจะต้องคอยลุ้นโชค เนื่องจากจะมี การ์ดโปเกม่อนสุดเอ็กซ์คลูซีพจำนวนเพียงแค่ 4 แสนชิ้นในโลก และเป็นการ์ดแรร์ไอเทม (Rare item) ที่มีด้วยกัน 12 แบบ นอกจากนี้ บางซองสินค้าสาหร่ายเถ้าแก่น้อยยังมีการ์ดซูเปอร์แรร์ไอเทม (Super Rare item) โดยสินค้าดังกล่าวมีจัดจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศเท่านั้น เริ่มวางขายตั้งแต่ 17 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ในราคาซองละ 45 บาท
เปิดกลยุทธ์เถ้าแก่น้อย 3 Go
ผู้อำนวยการสายงานการตลาด TKN บอกด้วยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ มุ่งเน้นนโยบาย “3GO” มาอย่างต่อเนื่อง
1.Go Firm
: เพิ่มประสิทธิภาพทาง Production เพื่อสร้างผลงานที่ดีต่อทั้งบริษัทและลูกค้า เช่น
- นโยบาย One seaweed Factory หรือการรวมโรงงานสาหร่ายที่โรจนะ จากอดีตที่มีโรงงานผลิตสาหร่ายอยู่ 2 โรงงาน ซึ่งแต่ละแห่งยังใช้กำลังการผลิตไม่เต็มที่ ทำให้ต้นทุนสูง แต่ยอดขายเท่าเดิม
ทำให้ช่วง 3 ปีหลัง บริษัทสามารถสร้างผลกำไรเติบโตขึ้นต่อเนื่อง สินค้าตัวไหนไม่ทำกำไรก็ต้องตัดทิ้งเพื่อลีนองค์กรให้มากที่สุด พร้อมกับพัฒนาสินค้าที่เหลือให้มีความหลากหลายไม่จำเจมากขึ้น
โดยผลดำเนินงานไตรมาส 2/66 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 1,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายรวมทั้งสิ้น 958 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 175% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
2.Go Board
: ขยายช่องทางจัดจำหน่ายไปสู่ต่างประเทศ โดยในเฟสแรกจะนำร่องในช่วง 3 ปี(2566-2568) โดนเริ่มจากการเข้าไปทำตลาดในกลุ่มที่มียอดขายมากกว่า 100 ล้านบาท/ปี ใน 10 ประเทศ เช่น สหรัฐ จีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม โดยจะเข้าไปทุ่มงบประมาณ พัฒนากลยุทธ์ทางการตลาด สร้างแบรนด์ดิ้ง ไปจนถึงการเพิ่มช่องทางจำหน่าย เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด
3.Go Global
: ปั้นแบรนด์และยกระดับแบรนด์สู่ระดับโลก โดยเป็นการถอดบทเรียนจากแบรนด์ใหญ่ๆมาปรับใช้ในการรุกตลาดต่างประเทศ เช่น กลยุทธ์ Idol Marketing มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ สื่อสารกับกลุ่มลูกค้า และสร้างความเป็นที่นิยมต่อกลุ่มเป้าหมาย
ทั้งนี้ นายปรมินทร์ จาวลา ยังได้กล่าวเสริมถึง นโยบาย “3GO” โดยเฉพาะ “GO Broad” หรือการขยายฐานธุรกิจให้กว้างขึ้นและมีคุณค่า ผ่านการพัฒนาสินค้านวัตกรรมกลุ่มใหม่ๆ (Innovation Food) เข้าสู่ตลาด รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้ามากขึ้น และ “Go Global” การขยายตลาดในต่างประเทศที่มีศักยภาพ เพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโตต่อเนื่อง
ซึ่งความร่วมมือกับ Pokémon ครั้งนี้ จะช่วยขยายฐานลูกค้าทุกเจเนอเรชัน เพราะโปเกมอนเป็นตัวละครในเกมที่คนทั่วโลกรู้จัก อีกทั้งคาแรคเตอร์ที่มีความสนุกสนานสอดคล้องกับคาแรคเตอร์ของแบรนด์เถ้าแก่น้อย (โลโก้เด็กแดง) เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ นับเป็นครั้งแรกของบริษัทฯ ที่ได้นำการ์ดเกมลายพิเศษสุดแรร์ไอเทมในซองสาหร่ายเถ้าแก่น้อย เพื่อให้แฟนๆ นักเล่นและนักสะสมได้เก็บไว้เป็นคอลแลคชัน รวมถึงบางกลุ่มมีการเก็บการ์ดเพื่อนำไปเล่นแบตเทิลการ์ดโปเกมอน การร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นการดึงฐานแฟนคลับโปเกมอนให้เข้ามาสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ของเถ้าแก่น้อย ที่ทุกคนต้องไม่พลาดรีบไปหาซื้อสินค้าที่ 7-11 เพราะสินค้ามีจำนวนจำกัด