ธุรกิจการตลาด

ซีอีโอ LVMH เยือนจีนกระตุ้นยอดขาย พบวัยรุ่นจีนจ่อซื้อแบรนด์เนมเยอะกว่าสหรัฐฯ-ยุโรป

29 มิ.ย. 66
ซีอีโอ LVMH เยือนจีนกระตุ้นยอดขาย พบวัยรุ่นจีนจ่อซื้อแบรนด์เนมเยอะกว่าสหรัฐฯ-ยุโรป

สื่อจีนเผย ‘เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์’ (Bernard Arnault) เจ้าของอาณาจักรแบรนด์หรู LVMH เดินทางไปเยือนสำนักงานในประเทศจีน และเยี่ยมชมร้านค้าในห้างหรูในกรุงปักกิ่ง เพื่อกระตุ้นยอดขายสินค้าในจีนซึ่งได้กลายมาเป็นตลาดสำคัญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

อาร์โนลต์เป็นหนึ่งในซีอีโอของบริษัทตะวันตกที่ได้เดินทางเข้าไปเยือนจีนในช่วงนี้ โดยก่อนหน้านี้ ปักกิ่งก็ได้ต้อนรับซีอีโอบริษัทชั้นนำมาแล้วหลายคน เช่น เจมี่ ไดมอน (Jamie Dimon) ซีอีโอของ JPMorgan Chase และ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอของ Tesla เพราะในตอนนี้รัฐบาลจีนกำลังหาทางเชื่อมความสัมพันธ์กับบริษัทตะวันตกอยู่เพื่อดึงดูดการลงทุน และกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังในช่วงที่ผ่านมาหลายบริษัทตัดสินใจกระจายความเสี่ยงด้านการผลิตไปยังประเทศอื่น

ในทริปครั้งนี้ อาร์โนลต์เดินทางไปพร้อมกับ ปิเอโตร เบคคาริ (Pietro Beccari) ซีอีโอของ Louis Vuitton และ เดลฟีน อาร์โนลต์ (Delphine Arnault) ผู้บริหารสูงสุดของ Christian Dior โดยมีแผนจะเข้าจะเข้าไปพบพนักงานในจีน และตรวจตราดูการทำงานของสำนักงานในประเทศ

 

จีนกลายเป็นตลาดสำคัญของแบรนด์หรู

ในอดีต ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของแบรนด์หรูคือประเทศตะวันตก เพราะลูกค้ามีกำลังซื้อที่สูง แต่ในปัจจุบัน ตลาดที่สำคัญของแบรนด์หรูทั่วโลกกลับเป็นประเทศเอเชีย โดยเฉพาะ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ที่คนรุ่นใหม่มีรสนิยมซื้อของแบรนด์เนมกันมากขึ้น

สำหรับ LVMH ผู้บริโภคบนจีนแผ่นดินใหญ่ได้กลายมาเป็นผู้ขับเคลื่อนรายได้สำคัญ โดยในไตรมาสแรกของปี 2023 หลังจากจีนยกเลิกมาตรการ Zero-Covid และเปิดประเทศให้มีการเดินทางเข้าออกได้เต็มที่ รายได้ของ LVMH เพิ่มขึ้นถึง 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยกวาดไปทั้งหมด 2.1 หมื่นล้านยูโร หรือราว 8.15 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากแรงซื้อของผู้บริโภคในญี่ปุ่นที่ดันรายได้ในพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 34% ในขณะที่ยอดขายในพื้นที่อื่นๆ รวมถึงจีน เพิ่มขึ้น 14%

นอกจากนี้ ยังมีรายงานออกมาด้วยว่า คนอายุน้อยในจีนเริ่มมีรสนิยมชอบสินค้าแบรนด์เนม และมีกำลังซื้อมากขึ้น โดยมีการคาดการณ์ว่ายอดซื้อสินค้าแบรนด์เนมในหมู่คนอายุน้อยของจีนน่าจะมากกว่ายอดซื้อในกลุ่มคนอายุเดียวกันในสหรัฐฯ และยุโรป ภายในปี 2025 นี้

โดยเมื่อเห็นโอกาสในการทำธุรกิจและตีตลาดเอเชียแบบนี้ LVMH จึงได้เข้าไปตั้งสำนักงานภูมิภาคของแบรนด์ต่างๆ ในเครือในเมืองใหญ่ของจีนอย่างเมืองเซี่ยงไฮ้ เพราะมั่นใจว่ายอดขายในจีนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังมีการเปิดประเทศ และมีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน

ทั้งนี้ LVMH เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส ดำเนินธุรกิจสินค้าแฟชั่นแบรนด์หรู โดยมีแบรนด์ดังอยู่ในเครือมากมายทั้ง Louis Vuitton, Christian Dior, Fendi, Givenchy และ Celine และปัจจุบันจากการจัดอันดับของ Forbes เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ และครอบครัวเป็นกลุ่มคนที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยทรัพย์สินรวมถึง 2.29 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8.16 ล้านล้านบาท

 

ที่มา: Bloomberg, Inside Retail

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT