ธุรกิจการตลาด

Toyota กำไรลดครั้งแรกในรอบ 4 ปี ผลิตรถได้ 9.1 ล้านคันทั่วโลก

11 พ.ค. 66
Toyota กำไรลดครั้งแรกในรอบ 4 ปี ผลิตรถได้ 9.1 ล้านคันทั่วโลก

Toyota บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก พบผลกำไรลดลง 14% ในปีงบประมาณ 2022 จากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น แต่คาดว่าในปีงบประมาณ 2023 กำไรจะเพิ่ม 5% จากยอดขายรถ BEV ที่คาดว่าจะเพิ่มเป็น 5 เท่าในปีนี้ และการคลี่คลายของปัญหาในห่วงโซ่การผลิตทั่วโลกที่เกิดจากการขาดแคลนชิป

ล่าสุด (10 พ.ค.) Toyota ได้ออกมารายงานผลประกอบการของปีงบประมาณ 2022 ระบุว่า กำไรสุทธิมีการปรับตัวลดลง 14% ไปอยู่ที่ 2.45 ล้านล้านเยน หรือราว 6.1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 ปี มีสาเหตุมาจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น 

โดยจากการรายงานของ Kyodo News ราคาของโลหะและอะลูมิเนียมที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานของ Toyota ลดลงไปถึง 1.55 ล้านล้านเยน แม้ว่าจะได้รับอานิสงส์จากการอ่อนของค่าเงินเยน และยอดขายที่คงระดับดีในญี่ปุ่นและตลาดเอเชียอื่นๆ 

จากรายงานผลประกอบการ Toyota ผลิตรถยนต์ได้ถึง 9.13 ล้านคันในปี 2022 และตั้งเป้าว่าจะเพิ่มยอดผลิตให้ได้ถึง 10.1 ล้านคันในปี 2023 ทั้งจากแบรนด์ Toyota และ Lexus เนื่องจากมองว่าปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์หรือชิปเซ็ตทั่วโลกที่กระทบการผลิตรถยนต์เริ่มคลี่คลายลงแล้ว 

นอกจากนี้ Toyota ยังคาดการณ์ว่า กำไรสุทธิของบริษัทในปี 2023 จะเพิ่มขึ้น 5.2% เป็น 2.58 ล้านล้านเยนในปีนี้ ในขณะที่กำไรจากการปฏิบัติงานจะขึ้น 10.1% ไปแตะ 3 ล้านล้านเยน และรายได้เพิ่ม 2.3% ไปถึง 38 ล้านล้านเยน

 

เดินเครื่องบุกตลาด EV เต็มที่

Toyota เพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำครั้งแรกในรอบ 14 ปี ไปเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา จากอากิโอะ โทโยดะ (Akio Toyoda) มาเป็น โคจิ ซาโต (Koji Sato) อดีตหัวหน้าผู้บริหารของฝั่ง Lexus ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ก็ตามมาด้วยการเร่งพัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) หลังจากผู้บริหารคนเก่าละล้าละลัง ไม่กระโดดเข้าอุตสาหกรรมนี้เต็มตัวมาหลายปี 

โดยในงานแถลงข่าวผลประกอบการในวันนี้ นายซาโต กล่าวว่า Toyota จะเน้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น โดยตั้งเป้าปี 2023 เพิ่มยอดขาย EV ให้ถึง 2% ของรายได้ทั้งหมด ขึ้นจาก 0.4% ในปีงบประมาณ 2022 ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ Toyota ได้ออกมาประกาศแล้วว่า จะพัฒนาและปล่อยรถ BEV ออกมาอีก 10 รุ่น และเพิ่มยอดขายจากรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% ให้ถึง 1.5 ล้านคัน ภายในปี 2026 นอกจากนี้ Toyota ยังประกาศอีกด้วยว่าจะตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ EV 

การประกาศเป้าหมายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างชัดเจนของ Toyota เช่นนี้ ถือเป็นการประกาศเดินหน้าเข้าแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว หลังปล่อยให้ผู้ผลิตรถยนต์หน้าใหม่จากสหรัฐฯ และจีน เช่น Tesla และ BYD เข้ามาครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่นับวันจะโตเร็วขึ้นเรื่อยๆ นี้มานาน 

เพราะถึงแม้ในปัจจุบัน Toyota ยังจะได้ชื่อว่า เป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขายสูงที่สุดในโลก ตำแหน่งนี้ก็อาจจะหลุดมือไปง่ายๆ หากบริษัทยังไม่เร่งปรับตัวให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานในโลกที่กำลังมุ่งสู่พลังงานสะอาดและความยั่งยืน




ที่มา: Kyodo News, Reuters

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT