เลย์ออฟรอบ 2 ของปี งวดนี้เลิกจ้าง 300 คน หวังประหยัดรายจ่ายยุคเศรษฐกิจขาลง เซ่นยอดสมาชิกลดลงครั้งแรกในรอบ 10 ปี
กระแสการเลิกจ้างของสตาร์ทอัพทั่วโลกยังไม่จบง่ายๆ ล่าสุดถึงคิวแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเบอร์ 1 ของโลกอย่าง "เน็ตฟลิกซ์" (Netflix) ที่ประกาศปลดพนักงานเพิ่มอีกประมาณ 300 คน คิดเป็นสัดส่วน 3% ของพนักงานทั้งหมดราว 11,000 คน
การเลย์ออฟครั้งนี้เป็นรอบที่ 2 แล้งของปี 2565 หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการปะกาศเลย์ออฟล็อตแรกไป 150 คน เหตุจากยอดสมัครสมาชิกของเน็ตฟลิกซ์ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
"วันนี้เราเสียใจที่ต้องปลดพนักงานอีกประมาณ 300 คน ขณะที่เรายังคงลงทุนอย่างมากในธุรกิจนี้ เราตัดสินใจทำแบบนี้เพื่อให้ค่าใช้จ่ายสอดคล้องกับรายได้ที่ชะลอตัวลง เราขอขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่พวกเขาทำให้กับเน็ตฟลิกซ์ และกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อสนับสนุนพวกเขาให้ผ่านพ้นการเปลี่ยนแปลงที่ยากลำบากนี้" แถลงการณ์ของเน็ตฟลิกซ์ ระบุ
ก่อนหน้านี้ในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา Netflix เคยแจ้งเตือนบรรดานักลงทุนว่า จะปรับลดการเพิ่มรายจ่ายในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยนายสเปนเซอร์ นูแมนน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเน็ตฟลิกซ์ กล่าวระหว่างการรายงานผลประกอบการบริษัทว่า เน็ตฟลิกซ์พยายามที่จะปรับลดรายจ่ายลงอย่างรอบคอบ เพื่อให้สะท้อนความเป็นจริงของธุรกิจ แต่บริษัทยังมีแผนจะลงทุนครั้งใหญ่ รวมถึงงบผลิตคอนเทนต์ประมาณ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ เน็ตฟลิกซ์กำลังดำเนินการเพื่อแก้ปัญหา "การแชร์รหัสผ่าน" ด้วยเช่นกัน โดยนอกเหนือจากครัวเรือนที่จ่ายค่าสมาชิก 222 ล้านรายแล้ว ยังมีอีกกว่า 100 ล้านครัวเรือนที่ใช้บริการเน็ตฟลิกซ์ผ่านการแชร์บัญชีร่วมกัน
ทั้งนี้ การประกาศผลประกอบการของเน็ตฟลิกซ์ที่สร้างความผิดหวังให้นักลงทุน เพราะยอดสมัครสมาชิกที่ลดลง 2 แสนราย ณ สิ้นไตรมาส 1 ซึ่งเป็นยอดสมาชิกที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 10 ปี และคาดวาจะสูญเสียสมาชิกอีก 2 ล้านรายในไตรมาส 2 นั้น ทำให้หุ้นบริษัทดิ่งเหวลงทันทีถึง 70%
เน็ตฟลิกซ์ไม่ใช่บริษัทเดียวในวงการบันเทิงและสตรีมมิ่งที่เลิกจ้างพนักงาน ก่อนหน้านี้ วอร์เนอร์บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี ได้เลิกจ้างพนักงานตำแหน่งสำคัญ คาดว่าเป็นการลดต้นทุนและภาระหนี้ของบริษัท หลังการควบรวมกิจการระหว่างวอร์เนอร์มีเดีย กับดิสคัฟเวอรี