สัปดาห์นี้บริษัทใน UK 70 แห่ง เริ่มคิกออฟทดลองทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน แต่เงินเดือนเต็ม 100% เหมือนเดิม สานฝัน Work-life balance ให้มนุษย์เงินเดือน
หลังจากที่บริษัทหลายแห่งทั่วโลกเริ่มทดลองให้พนักงานทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน กันมาบ้างแล้ว ล่าสุดแนวคิดนี้กำลังถูกสานต่อให้เป็นภาพที่ใหญ่ขึ้น และเป็นความจริงมากขึ้น เมื่อ "อังกฤษ" ได้เริ่มต้นโครงการทดลองทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน โดยคิกออฟในสัปดาห์นี้ เริ่มวันที่ 6 มิ.ย. แล้วยิงยาวทดลองนาน 6 เดือนไปจนถึงสิ้นปี งานนี้มีบริษัทเข้าร่วมมากถึง 70 แห่ง ครอบคลุมพนักงานมากกว่า 3,300 คน
ที่สำคัญก็คือ แม้จะทำงานลดลงเหลือ 32-35 ชม./สัปดาห์ แต่เงินเดือน "ไม่ลด" ยังรับไปเต็มๆ แบบ 100%
เป้าหมายของโครงการ 4 Day Week Global คือ เขาต้องการให้เกิดโมเดล "100-80-100" หรือก็คือ
- รับเงินเดือน 100% เท่าเดิมไม่มีหัก
- เวลาทำงานลดลงเหลือ 80%
- แต่ประสิทธิผลการทำงานยังเต็ม 100% เหมือนเดิม
โครงการนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างหลายหน่วยงาน ตั้งแต่หน่วยงานที่เป็นโต้โผผลักดันอย่าง thinktank Autonomy ไปจนถึงบรรดานักวิจัยของมหาวิทยาลัย เคมบริดจ์, ออกซ์ฟอร์ด และ บอสตัน เพื่อทำให้การทดลองทำงาน 4 วัน ของบริษัทแต่ละแห่ง รวมร่างเป็นโครงการใหญ่ที่เป็นเนื้อเป็นหนัง และวัดผลได้ง่ายขึ้น ซึ่งโปรเจกต์นี้ยังได้ชื่อว่าเป็น "การทดลองทำงาน 4 วัน ครั้งใหญ่ที่สุดในโลก" อีกด้วย
พนักงานที่เข้าร่วมโครงการนี้จะมี "แพ็กเกจการทำงาน" ให้เลือก 2 แบบ คือ Gold และ Silver ดังนี้
- Silver - ทำงาน 35 ชม./สัปดาห์ (หรือน้อยกว่า) โดยทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน
- Gold - ทำงาน 32 ชม./สัปดาห์ (หรือน้อยกว่า) โดยทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน แต่อาจยืดหยุ่นได้เป็นทำงาน 5 วัน โดยที่ลดชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันแทน
ทำไมนายจ้างถึงยอมให้พนักงานใช้เวลาทำงานน้อยลง แต่ได้เงินเดือนเท่าเดิม?
การที่มีบริษัทเข้าร่วมโครงการนี้มากถึง 70 แห่ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโครงการนี้จะมีการประเมินวัดผลออกมาให้เป็นรูปธรรม เช่น การที่พนักงานมีวันทำงานน้อยลง จะส่งผลต่อระดับความเครียด, การ burnout, ความพึงพอใจในงานและการใช้ชีวิต, สุขภาพ, การนอนหลับ, การเดินทาง, และการใช้พลังงานอย่างไร และสะท้อนผลการทำงานออกมาอย่างไร
ทางโครงการได้ศึกษาตัวอย่างจากบริษัททั่วโลกที่เคยนำร่องทดลองไปก่อนหน้านี้ เช่น Microsoft ในสาขาประเทศญี่ปุ่น และ Buffer ในสหรัฐ ที่ได้ผลออกมาว่า แม้จะทำงาน 4 วัน แต่ก็สามารถเพิ่มประสิทธิผลการทำงานได้ ทำให้ทางโครงการต้องการนำมาทดลองครั้งใหญ่ในอังกฤษ ซึ่งหากพิสูจน์ได้ว่าเราสามารถทำงานได้ผลลัพธ์เท่าเดิมหรือดีขึ้น โดยใช้เวลาในการทำงานน้อยลง ก็อาจจะถือเป็นโมเดลที่เป็น "อนาคตแห่งการทำงาน" (Future of Work) ให้กับทุกคนด้วย
ไม่ใช่ทุกที่จะสำเร็จ พนักงานยอมรับกดดันมากขึ้น
การทดลองทำงาน 4 วันใน "นิวซีแลนด์" ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจนัก โดยบทความถึงผลการทดลองที่ตีพิมพ์ใน Harvard Business Review พบว่า นอกจากตัวเนื้องานจะกดดันมากขึ้นแล้ว ก็ยังมีแรงกดดันในเรื่องการจัดการมากขึ้นด้วย ท่ามกลางตัวประเมินชี้วัดผลที่เข้มข้น
ทีมนักวิจัยพบว่า การลดชั่วโมงการทำงานลง ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถช่วยสร้างสมดุล Work-life balance ได้ เพราะพนักงานยังต้องทำงานในปริมาณเท่าเดิมและต้องคงคุณภาพไม่ให้ด้อยลง ในทางกลับกันจึงอาจเครียดขึ้นกว่าเดิม
แต่ถึงแม้ว่าจะต้องกดดันขึ้น ก็ยังมีมนุษย์งานและคนมองหางานใหม่จำนวนไม่น้อย ที่ขอเลือกทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน (หากเลือกได้) โดยบริษัทหางาน Ladders ในสหรัฐ เปิดเผยผลสำรวจผู้สมัครงานกว่า 400 คน เมื่อเร็วๆ นี้ว่า 79% ระบุว่าเคยลาออกมาแล้วหรือจะลาออกจากงานที่ทำ 5 วัน เพื่อไปบริษัทใหม่ที่ให้ทำงาน 4 วัน โดยไม่มีการหักเงินเดือน