ธุรกิจการตลาด

Netflix เฉลยแล้ว! ทำไมต้องจัดการ "สายหารพาสเวิร์ด

20 เม.ย. 65
Netflix เฉลยแล้ว! ทำไมต้องจัดการ "สายหารพาสเวิร์ด
ไฮไลท์ Highlight
   ล่าสุด เน็ตฟลิกซ์ ได้ยืนยันอีกครั้งแล้วว่าจะ "เอาจริง" จัดการเรื่องการหารพาสเวิร์ดทั่วโลก เพราะถือเป็นหนึ่งใน "ปัญหาใหญ่" ที่ทำให้บริษัททั้งสูญรายได้เป็นหลักพันล้านเหรียญ แถมยังเกิดปัญหาใหญ่สดๆ ร้อนๆ นั่นก็คือ "ยอดสมัครสมาชิกลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี" !

เพิ่งจะเป็นข่าวให้ตกใจกันไปไม่นานนี้ว่า Netflix จะห้ามการ "เปิด(ปาร์)ตี้สายหาร" หรือการห้ามแชร์พาสเวิร์ดนอกบ้าน ทำเอาสายหารทั่วไทยใจคอไม่ดีว่า จะหมดยุค 4k เดือนละ 100 บาท แล้วจริงๆ หรือ?   

   
ล่าสุด เน็ตฟลิกซ์ ได้ยืนยันอีกครั้งแล้วว่าจะ "เอาจริง" จัดการเรื่องการหารพาสเวิร์ดทั่วโลก เพราะถือเป็นหนึ่งใน "ปัญหาใหญ่" ที่ทำให้บริษัททั้งสูญรายได้เป็นหลักพันล้านเหรียญ แถมยังเกิดปัญหาใหญ่สดๆ ร้อนๆ นั่นก็คือ "ยอดสมัครสมาชิกลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี" !


ทีมข่าว SPOTLIGHT ถอดเนื้อหาหลักๆ 4 ข้อ จากผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ พร้อมประเด็นใหญ่เรื่อง Password-sharing มาให้ดังนี้

 

  • สถานการณ์ของ Netflix ในฐานะสตรีมมิ่งเบอร์ 1 เป็นอย่างไร?


- แนวโน้มไม่ค่อยดีนัก ยอดสมัครสมาชิก (Subscriber) ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี จากตัวเลขสิ้นปี 2021 ที่ 221.84 ล้านคน ล่าสุด ยอดสมาชิกสิ้นไตรมาส 1 ปีนี้ (มี.ค. 2022) ลดลง 2 แสนคน

ข้อมูลบริษัท Netflix

- "รัสเซีย" เป็นหนึ่งในผลกระทบสำคัญ เพราะ netflix ร่วมคว่ำบาตรต่อต้านสงครามด้วยการระงับธุรกิจในรัสเซีย ทำให้ยอดสมาชิกรัสเซียหายไปถึง 7 แสนคน (แต่ถ้าไม่เกิดสงคราม ไม่ถอนตลาดจากรัสเซีย คาดว่าจะได้ยอดเพิ่ม 5 แสน แทน)

- ยอดลดลง 2 แสนยังไม่ใช่จุดต่ำสุด เพราะบริษัทคาดการณ์ว่า ยอดสมาชิกจะลดลงอีก "2 ล้านคน" ในไตรมาส 2 ปีนี้

- ข่าวดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นของ Netflix ดิ่งลงทันที 25% รวมแล้วปีนี้หุ้นดิ่งลงไปแล้ว 40%

 

  • เปิด 4 เหตุผลหลัก ทำไมยอดสมาชิกถึงลดลง?
  1. ปัจจัยผลกระทบที่ควบคุมไม่ได้ - เช่น การใช้งาน Smart TV (ลูกค้าหลักคือคนดูทีวี), การใช้งานความบันเทิงแบบออนดีมานด์ และค่าอินเทอร์เน็ต

  2. การรวมกลุ่มแชร์พาสเวิร์ด - Netflix ประเมินว่า ในบรรดายอดสมาชิก 222 ล้านครัวเรือนทั่วโลก เป็นการ "หารพาสเวิร์ด" มากถึงครึ่งหนึ่ง หรือกว่า 100 ล้านครัวเรือน โดยเฉพาะตลาดอเมริกา-แคนาดา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของ Netflix พบว่าตลาดนี้มีการแชร์พาสเวิร์ดกันมากถึงกว่า 30 ล้านครัวเรือน

    เมื่อครั้งยังทำตลาดใหม่ๆ ในปี 2017 Netflix ยังสนับสนุนเรื่องการแชร์พาสเวิร์ดอยู่
    เมื่อครั้งยังทำตลาดใหม่ๆ ในปี 2017 Netflix ยังสนับสนุนเรื่องการแชร์พาสเวิร์ดอยู่


  3. การแข่งขันที่รุนแรง - ทั้งจากรายการทีวีปกติ (linear TV) และจากสตรีมมิ่งทีวีค่ายต่างๆ เช่น Youtube, Amazon และ Hulu โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีมานี้ หลังจากที่ตลาดประเมินแล้วว่า สตรีมมิ่งคือทางรอด ทำให้มีบริการสตรีมมิ่งหน้าใหม่ผูดขึ้นมาแข่งขันมากขึ้นอีก

  4. ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ - เช่น ภาวะเงินเฟ้อข้าวของแพงที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก ภาวะเศรษฐกิจที่โตได้น้อยลง ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และผลพวงจากโควิด-19

  5. ข้อนี้ Netflix ไม่ได้ระบุเอาไว้ แต่จากข้อมูลในเดือน ม.ค.ปีนี้ เราพบว่า Netflix ได้ขึ้นค่าสมาชิกทุกประเภท ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คนเลือกไม่สมัคร /ยกเลิกสมาชิก/ หรือหันไปหาตลาดมืดแชร์พาสเวิร์ดแทน โดยบริษัทมีการขึ้นราคาดังนี้
    - สมาชิกประเภท Basic ขึ้นอีก 1 ดอลลาร์ เป็น 9.99 ดอลลาร์
    - สมาชิกประเภท Standard ขึ้นอีก 1.5 ดอลลาร์ เป็น 15.49 ดอลลาร์
    - สมาชิกประเภท Premium ขึ้นอีก 2 ดอลลาร์ เป็น 19.99 ดอลลาร์

 

  • การหารพาสเวิร์ด ทำให้ Netflix สูญเงินกว่า 6 พันล้านดอลลาร์!


- ตามที่ระบุไปข้างต้นว่า การแชร์พาร์สเวิร์ด เป็นเหตุผลหลักข้อ 2 ที่ Netflix ระบุว่าทำให้ยอดสมาชิกและรายได้ลดลง

- ยิ่งไปกว่านั้น NAGRA ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการพัฒนามาตรฐานทีวีดิจิทัล ประเมินว่า ธุรกิจหารพาสเวิร์ด ทำให้ Netflix สูญเงินที่ควรจะเป็นค่าสมาชิกเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยวไปถึงกว่า 6,250 ล้านดอลลาร์/ปี (กว่า 2 แสนล้านบาท) เพราะเป็นการตัดราคาขนานใหญ่ จาก 19.99 ดอลลาร์/เดือน (พรีเมียม) แต่หากหารพาสเวิร์ด ก็จะดูเน็ตฟลิกซ์ได้ในราคาเพียงแต่เดือนละ 1 ดอลลาร์ เท่านั้น

 

  • Netflix จะแก้เกมเรื่องนี้ อย่างไร?


- เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา Netflix เริ่มทดลองแก้เกมด้วยแพ็กเกจราคาใหม่ในบางประเทศ เช่น ชิลี เปรู และ คอสตาริกา โดยเสนอราคาพ่วงสำหรับคนที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน ที่คนละ 2 ดอลลาร์/เดือน ซึ่งหากได้ผลดี ก็อาจนำโมเดลนี้ไปปรับใช้ทั่วโลกตามมา โดยเป็นที่คาดว่าอาจนำโมเดลนี้มาปรับใช้ทั่วโลกในปีหน้า 2023

Bridgeton

- นอกจากปิดช่องการแชร์พาสเวิร์ดแล้ว Netflix ยังได้ทุ่มงบพัฒนาคอนเทนต์ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของธุรกิจให้ปังกว่าเดิมด้วย สะท้อนได้จากผลตอบรับบางเรื่องที่ดีขึ้นในไตรมาส 1 เช่น Bridgeton ภาค 2 ที่มียอดการชมถึง 627 ล้านชั่วโมง และนับเป็นซีรีส์ภาษาอังกฤษที่ทำสถิติได้สูงที่สุดในขณะนี้ ส่วนสารคดีเรื่อง Tinder Swindler ที่หยิบยกตัวอย่างการหลอกสาวโดยอ้างเป็นเศรษฐีคริปโท ก็เป็นการเกาะกระแสคริปโทเคอร์เรนซีได้อย่างรวดเร็ว จนมียอดผู้ชมถึง 166 ล้านชั่วโมง ซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุดเช่นกันในกลุ่มหนังสารคดี

 





advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT