Netflix คว้าดีล Warner Bros ได้อย่างไร อาจละเมิดกฎหมายต้านผูกขาดมั้ย?
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าววงในที่ระบุถึงเบื้องหลังข้อตกลงทางธุรกิจครั้งใหญ่ที่สั่นสะเทือนวงการธุรกิจบันเทิงระดับโลก เกิดมาจากการที่ Netflix สั่งให้ลงไป “ศึกษาข้อเท็จจริง” (fact-finding) ก่อนจะกลายมาเป็นการเข้าซื้อ Warner Bros Discovery มูลค่า 72,000 ล้านดอลลาร์
Warner Bros ชี้ ดีลของเน็ตฟลิกซ์คือดีลที่ดีที่สุด
เน็ตฟลิกซ์ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม 68 ว่า ได้บรรลุข้อตกลงเข้าซื้อ Warner Bros Discovery มูลค่า 72,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น เน็ตฟลิกซ์เคยบอกปัดข่าวลือเรื่องการเข้าซื้อสตูดิโอยักษ์ใหญ่ดังกล่าว หลัง Warner Bros ออกมาประกาศเปิดประมูลในวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา และหลังจากที่ Warner Bros ปฏิเสธข้อเสนอจาก Paramount Skydance ถึงสามครั้งด้วยกัน
รอยเตอร์สรายงานรายละเอียดเกี่ยวกับแผนของเน็ตฟลิกซ์และกระบวนการพิจารณาของบอร์ด Warner Bros จากปากของที่ปรึกษาและผู้บริหาร 7 ราย โดยระบุว่า แต่เดิม เน็ตฟลิกซ์สั่งให้ทำการศึกษาเพราะต้องการทำความเข้าใจธุรกิจเท่านั้น แต่แล้วผู้บริหารกลับเห็นโอกาสมากขึ้นจาก Warner Bros เช่น การได้คลังคอนเทนต์ของสตูดิโออายุร่วมศตวรรษ ซึ่งมีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับบริการสตรีมมิง
จริง ๆ แล้ว Warner Bros มีธุรกิจสตรีมมิงอยู่แล้ว คือ HBO Max แต่แหล่งข่าวระบุว่า จากข้อตกลงดังกล่าว HBO Max ก็จะได้รับประโยชน์จากความรู้ด้านสตรีมมิงที่เน็ตฟลิกซ์สั่งสมมานาน ซึ่งจะเร่งการเติบโตของแพลตฟอร์ม
เน็ตฟลิกซ์เริ่มแสดงออกว่าสนใจ Warner Bros หลังจากที่ Warner Bros Discovery ประกาศแผนแยกบริษัทในเดือนมิถุนายน เพื่อแยกธุรกิจสองตัวออกจากกัน คือเครือข่ายเคเบิลที่รายได้ลดลงและบริการสตรีมมิง
โดย Warner Bros เปิดประมูลในเดือนตุลาคม หลัง Paramount ยื่นข้อเสนอแรกในเดือนกันยายน ในช่วงนั้น JPMorgan ให้คำแนะนำซีอีโอ David Zaslav ให้แยกธุรกิจ Discovery Global ออกก่อน เพื่อเพิ่ม “ความยืดหยุ่นเชิงกลยุทธ์”
รายงานระบุว่า ผู้บริหารเน็ตฟลิกซ์และที่ปรึกษาประชุมสายทุกเช้าตลอดสองเดือน และทำงานแม้ในสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้า เพื่อเตรียมยื่นข้อเสนอทันกำหนด 1 ธันวาคม
ฝั่งบอร์ด Warner Bros ก็ประชุมทุกวันติดต่อกัน 8 วันก่อนตัดสินใจ โดยข้อเสนอของเน็ตฟลิกซ์เป็นเพียงข้อเสนอเดียวที่ครบถ้วนและมีผลผูกพัน
จับตาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดหรือไม่?
สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ หลายคนออกมาแสดงความกังวลเมื่อวันศุกร์ โดยระบุว่า การเข้าซื้อกิจการสตูดิโอและบริการสตรีมมิงของ Warner Bros Discovery มูลค่า 72,000 ล้านดอลลาร์ที่เน็ตฟลิกซ์เสนอ เป็นฝันร้ายด้านกฎหมายต่อต้านการผูกขาด เพราะอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้สร้างสรรค์ผลงาน ขณะที่เน็ตฟลิกซ์ยืนยันว่า ดีลดังกล่าวจะช่วยเพิ่มคุณค่าให้แก่ผู้ชม แรงงาน และผู้ถือหุ้น
เน็ตฟลิกซ์ระบุว่า การควบรวมครั้งนี้จะสร้างงานใหม่ ๆ และยังทำให้สมาชิกกว่า 300 ล้านคนที่ใช้บริการเน็ตฟลิกซ์อยู่ได้รับความคุ้มค่ามากขึ้น ด้วยปริมาณคอนเทนต์ที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ส.ส. พรรครีพับลิกันบางส่วนเตือนว่า การที่เน็ตฟลิกซ์จะกลืนกิจการ HBO Max และสิทธิ์คอนเทนต์ของ Warner Bros อาจทำให้เกิดปัญหาเชิงผูกขาด ขณะที่สมาชิกเดโมแครต ก็ออกมาวิจารณ์ดีลนี้เช่นกัน
รายงานยังระบุด้วยว่า ด้วยตัวเลขของข้อตกลงที่มหาศาลเช่นนี้ก็มีแนวโน้มสูงว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) จะตรวจสอบด้านกฎหมายต่อต้านการผูกขาดอย่างเข้มงวด เพราะดีลนี้จะทำให้การแข่งขันระหว่าง HBO Max ซึ่งมีผู้ใช้ 128 ล้านคน กับเน็ตฟลิกซ์หายไป
เน็ตฟลิกซ์อาจโต้แย้งได้ โดยชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมผู้บริโภคสื่อที่เปลี่ยนไป และอาจจะแย้งว่า ในระยะหลังมานี้ YouTube ของ Alphabet ต่างหากกลายเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมที่สุดสำหรับการรับชมทีวีในสหรัฐฯ
ด้านเท็ด ซารานดอส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของเน็ตฟลิกซ์ ประกาศหลังบรรลุข้อตกลงว่า มั่นใจมากว่าดีลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค
