Logo site Amarintv 34HD
Logo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
คุยกับ Yakiniku Like  ปิ้งย่างญี่ปุ่น กับเป้ารายได้ 1,000 ล้านใน 3 ปี
โดย : ปาณิสรา สุทธิกาญจนวงศ์

คุยกับ Yakiniku Like ปิ้งย่างญี่ปุ่น กับเป้ารายได้ 1,000 ล้านใน 3 ปี

25 พ.ย. 68
17:30 น.
แชร์

การนั่งกินข้าวคนเดียว แต่ก่อนอาจฟังดูเป็นเรื่องแปลกในสังคมไทย แต่หลังจากโควิด-19 เทรนด์การกินข้าวคนเดียว หรือ Solo Dining กลายเป็นเรื่องปกติเห็นได้จากหลายร้านอาหารที่ได้มีการปรับรูปที่นั่งจากโต๊ะใหญ่ๆก็เปลี่ยนเป็นเคาน์เตอร์บาร์มากขึ้น ไม่พ้นร้านชาบู หมูกระทะ หรือ ปิ้งย่าง

หนึ่งในนั้นคือแบรนด์ปิ้งย่างของญี่ปุ่น อย่าง Yakiniku Like ที่ได้ชูจุดเด่นร้านที่นั่งปิ้งย่างที่สามารถมากินคนเดียวได้แบบไม่เขิน เพราะมีเตาปิ้งย่างส่วนตัวที่ไร้ควันลดกลิ่นติดเสื้อผ้า ซึ่งหลังจากเจาะตลาดไทยเพียงแค่ 4 ปี Yakiniku Like สามารถขยายาสาขาได้กว่า 21 สาขา และตั้งเป้ารายได้ทยานสู่ 1,000 ล้านบาทในอีก 3 ปี

โดยบทความนี้ทีม SPOTLIGHT ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณทิพย์สุดา อเนกวัชรากรณ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด YAKINIKU LIKE Thailand

Yakiniku Like แบรนด์ปิ้งย่างญี่ปุ่นที่ฟังเสียงผู้บริโภคชาวไทย ยอมลดราคา ยอมปรับเมนู

Yakiniku Like คือ แบรนด์ปิ้งย่างญี่ปุ่น ที่ได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2018 หรือเมื่อ 7 ปีที่แล้ว จุดเด่นของร้านคือการชูโมเดลร้านปิ้งย่างที่สามารถกินคนเดียวได้ ด้วยเตาย่างไร้ควันลดกลิ่นติดเสื้อผ้า

โดย Yakiniku Like ได้เข้ามาเจาะตลาดประเทศไทยเมื่อปี 2021 เปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งตอนนั้นได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทย ด้วยปิ้งย่างสไตล์ Fast Casual เสิร์ฟเป็นเซต  

ผ่านมาเพียง 4 ปี Yakiniku Like สามารถขยายสาขาได้มากถึง 21 สาขา ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่กระจายอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มาคนเดียว มากับคู่รัก หรือมากับครอบครัว

สาขาที่ขายดีที่สุดคือ สาขา Mega Bangna ตามมาด้วยเซ็นทรัลลาดพร้าวและเซ็นทรัลเวิล

แต่แม้ว่าจะเป็นแบรนด์ปิ้งย่างของญี่ปุ่น แต่เมื่อมาเจาะตลาประเทศไทย นั้นทำให้ Yakiniku Like ต้องฟังเสียงผู้บริโภคอยู่เสมอ

คุณทิพย์สุดา ได้เปิดใจเล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังว่า ในช่วงที่ Yakiniku Like เปิดตัวในไทยทางแบรนด์ได้รับเสียงจากผู้บริโภคอยู่เสมอว่าเมนูน้อย ราคาแพง ส่วนน้ำจิ้มก็มีให้เลือกเพียง 4 แบบ

นั้นทำให้ในช่วงปีที่ผ่านมา Yakiniku Like ประเทศไทยได้มีการออกเมนูให้มีความหลายหลายมากขึ้น ปรับราคาลดลง และที่สำคัญคือมีการ Collaboration กับแบรนด์ฟ้าไทย ออกเมนูใหม่นั้นก็คือ “หมาล่า”

และเบื้องหลังในการ Collaboration ในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากเสียงของผู้บริโภค โดยทาง Yakiniku Like ได้มีการเก็บ Data เมนูไหนที่ผู้บริโภคอยากลองมากที่สุด ผลสรุปคือ “หมาล่า”

แม้ว่าหลายๆคนจะมองว่ากระแสของ “หมาล่า” ช่วงนี้ดร้อปลง แต่ คุณอริญชย์ เพ็งแป้น ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท วันทูเทรดดิ้ง จำกัด ได้เล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังว่า หากมองภาพรวมตลาดอาจะมองว่ากระแสหมาล่าดูซาลง ความตื่นเต้นก็น้อยลงเพราะมีร้านหมาล่าเต็มท้องตลาดไทยไปหมด

แต่สำหรับฟ้าไทย มองว่า เมื่อก่อนที่คนไทยตื่นเต้นกับหมาล่าเพราะเราเพิ่งรู้จักหรือเพิ่งมาบูมในไทย แต่ตอนนี้ทุกคนรู้จักหมาล่าเป็นอย่างดีเลยทำให้กระแสเริ่มซาลง แต่คิดว่าในอนาคตยังไงหมาล่าก็เป็นหนึ่งใน original flavor ของคนไทย

Yakiniku Like ยอมรับกำลังซื้อหด ต้องปรับกลยุทธ์ ตามสภาพเศรษฐกิจ

เมื่อถามถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคในยุคนี้ คุณทิพย์สุดา ได้ยอมรับว่า ในช่วงนี้เศรษฐกิจแย่ลงจริง กำลังซื้อหด Spending Per Head ของลูกค้าก็ลดลง โดยปีที่แล้วอยู่ที่ 360-370 บาท/หัว ปีนี้อยู่ที่ประมาณ 350 บาท/หัว  

เมื่อสภาวะเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวส่งผลต่อกลยุทธ์ของ Yakiniku Like ที่ต้องมีการปรับตาม เช่น ได้ปรับลดราคาในหมวดเมนูพรีเมียมลงราวๆ 3–4% เช่นเดียวกันกับการขยายสาขาที่ไซส์ของร้านไม่ต้องใหญ่มาก

คุณทิพย์สุดา ได้เล่าว่า แต่ก่อนโลเคชั่นในการเลือกเปิดร้าน ต้องมีขนาดใหญ่ประมาณหนึ่ง แต่ตอนนี้ก็ลดไซส์ความใหญ่ของร้าน 125 -150 ตารางเมตร ที่นั่งไม่เกิน 60 seats

สิ่งที่น่าสนใจคือ พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากแต่ก่อนผู้บริโภคเวลาจะเปิดใจลองอะไรใหม่ๆจะเชื่อจาก KOLS หรือ อินฟลูเอนเซอร์ที่มารีวิวอาหาร แต่ตอนนี้ผู้บริโภคไม่เชื่อ KOLS แล้ว ดังนั้นหากร้านในที่เป็นกระแสแต่คุณภาพทำไม่ถึงก็จะอยู่ได้ไม่นาน

ส่วนตลาดปิ้งย่างในเมืองไทยปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 9,000 ล้านบาท มีผู้เล่นทั้งหน้าเก่าเจ้าตลาดและหน้าใหม่ที่เข้ามาเรื่อยๆ แต่ช่องว่าคือยังไม่มีแบรนด์ไหนที่เป็นปิ้งย่างญี่ปุ่นแบบ premium mass ที่เป็น top of mind ของผู้บริโภค นั้นก็ทำให้ Yakiniku Like พยายมเจาะตลาดช่องว่างนี้ และหวังสร้างจุดขายด้วยคุณภาพของสินค้าในราคาที่เอื้อมถึง

จากกลยุทธ์ทั้งหมดส่งผลให้ปีนี้ Yakiniku Like คาดว่าจะจบปีที่รายได้ 700 ล้านบาท ปีหน้าขยายครบ 30 สาขา เพื่อผลักดันให้รายได้แตะ 1,000 ล้านบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้า

แชร์
คุยกับ Yakiniku Like  ปิ้งย่างญี่ปุ่น กับเป้ารายได้ 1,000 ล้านใน 3 ปี