ผู้ก่อตั้ง Huawei ฟาด สหรัฐฯ สกัดส่งออกชิป AI ก็หยุดจีนพัฒนาไม่ได้
เริน เจิ้งเฟย (Ren Zhengfei) ผู้ก่อตั้งบริษัท Huawei Technologies Co. แสดงจุดยืนต่อมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ผ่านบทความที่เผยแพร่บนหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ People’s Daily โดยลดทอนความสำคัญของมาตรการดังกล่าว ซึ่งถือเป็นประเด็นหลักในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เริน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน ให้สัมภาษณ์กับสื่อทางการของพรรคคอมมิวนิสต์ว่า เขาไม่ได้วิตกกังวลต่อความพยายามของสหรัฐฯ ที่ต้องการสกัดกั้นการถ่ายโอนเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน โดยชี้ว่า บริษัทจีนสามารถใช้เทคนิคการ “บรรจุชิป” (chip packaging) หรือ “การซ้อนชิป” (chip stacking) เพื่อทดแทนความล้ำหน้าของเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์จากตะวันตกได้
นอกจากนี้ ในบทสัมภาษณ์ดังกล่าว เรินยังได้แสดงความเชื่อมั่นว่าจีนมีศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างและมีการใช้งานซอฟต์แวร์แบบโอเพ่นซอร์สเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าสหรัฐฯ จะออกมาตรการจำกัดการเข้าถึงเครื่องมือออกแบบชิปของบริษัทจีน แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ข้อจำกัดเหล่านี้จะถูกทบทวนอีกครั้ง ขึ้นอยู่กับผลการเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่
บทความของเรินได้รับการเผยแพร่อย่างแพร่หลายในช่วงเวลาที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเข้าสู่วันที่สอง โดยทั้งสองฝ่ายกำลังหารือกันเพื่อบรรเทาความตึงเครียดที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีและแร่หายาก
ซีอีโอ Nvidia เตือน: บริษัท AI ของจีน “ทรงพลังและน่ากลัว”
เจนเซน หวง (Jensen Huang) ซีอีโอของ Nvidia ออกมาเตือนในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า บริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของจีนกำลังเร่งเติมเต็มช่องว่างที่บริษัทสหรัฐฯ ทิ้งไว้ และขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีของจีนกำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์และชิปประมวลผลสำหรับ AI
หนึ่งในบริษัทที่ถูกจับตาอย่างมากคือ Huawei Technologies Co. ซึ่งได้นำเทคนิคการบรรจุ (packaging) และการซ้อนชิป (stacking) มาใช้เพื่อยกระดับสมรรถนะการประมวลผลของชิป โดยกระบวนการดังกล่าวช่วยให้สามารถรวมชิปหลายตัวเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และถูกนำไปใช้ในการผลิตชิป AI ที่ทรงพลังที่สุดของ Huawei ผ่านโรงงาน Semiconductor Manufacturing International Corp. (SMIC) โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และยกระดับสู่การเป็นคู่แข่งของบริษัทอย่าง Nvidia Corp.
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Huawei ได้ขยับขยายจากฐานเดิมในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและสมาร์ตโฟน กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีระดับชาติของจีน โดยมีบทบาทเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และ AI อย่างต่อเนื่อง แม้จะถูกตั้งเป้าหมายโดยรัฐบาลสหรัฐฯ จากข้อกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน ซึ่ง Huawei ได้ปฏิเสธมาโดยตลอด โดยระบุว่าบริษัทดำเนินงานภายใต้โครงสร้างการถือหุ้นโดยพนักงาน
เริน เจิ้งเฟย (Ren Zhengfei) ผู้ก่อตั้ง Huawei และอดีตนายทหารแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLA) ได้กลายเป็นบุคคลสำคัญในแวดวงเทคโนโลยีโลกนับตั้งแต่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในสมัยแรก ขึ้นบัญชีดำ Huawei ใน “Entity List” ซึ่งส่งผลให้บริษัทสูญเสียสิทธิ์ในการเข้าถึงเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญในช่วงเริ่มต้น
แม้จะเผชิญความยากลำบากในช่วงแรกและต้องถอนตัวจากหลายตลาดสำคัญ แต่ Huawei ก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างน่าทึ่ง โดยสามารถกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟนได้อีกครั้ง ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่เกินความคาดหมายของหลายฝ่าย และการขยายตลาดอย่างจริงจังสู่ตลาดซอฟต์แวร์ AI และยานยนต์ไฟฟ้า
