เมื่อพูดถึงร้านสะดวกซื้อก็คงหนีไม่พ้นแบรนด์ดังหน้าเก่าอย่าง 7-Eleven ที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน
กว่า 36 ปี และเป็นร้านสะดวกซื้ออันดับต้น ๆ ที่ใครหลายคนนึกถึง แต่เมื่อไม่นานมานี้ในโซเชียลมีเดียมีความเห็นแตกออกเป็น 2 ฝ่ายโดยมีการเลือกว่า “ ระหว่าง 7-Eleven และ CJ More 2 เจ้านี้คุณจะเลือกเข้าร้านไหน ? ” แล้ว CJ Express Group คือใคร ทำไมกล้าท้าชนยักษ์ใหญ่อย่าง 7-Eleven และเขาใช้กลยุทธ์อะไรในการเข้ามาแข่งขันในตลาดที่ดุเดือดนี้ วันนี้ SPOTLIGT จะพาไปหาคําตอบ
CJ Express Group ร้านซูเปอร์คอนวีเนียนสโตร์
บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด ก่อตั้งและบริหารโดย ตระกูลเสถียรธรรมะ ภายใต้สโลแกน
ร้านซูเปอร์คอนวีเนี่ยนสโตร์ของคนไทย เพื่อคนไทย โดยมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยจุดยืน “More Than Supermarket - มากกว่าซูเปอร์มาร์เก็ต”
CJ Express Group กับกลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง”
CJ Express Group เริ่มต้นจาก กลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง” หรือการเริ่มจากการขยายสาขาในพื้นที่ต่างจังหวัดและชุมชนรอบนอกก่อนแล้วค่อย ๆ สร้างฐานลูกค้าประจำ จากนั้นจึงค่อยรุกเข้าสู่เมืองใหญ่และเข้ามาในกรุงเทพมหานคร สิ่งนี้อาจแตกต่างจาก 7-Eleven ที่เน้นขยายสาขาในเมืองเป็นหลัก
อีกทั้ง CJ Express Group ยังวางตัวเองเป็น “ร้านซูเปอร์คอนวีเนียนสโตร์” ที่ใหญ่กว่าร้านสะดวกซื้อทั่วไป ที่มีสินค้าหลากหลาย ครอบคลุมทั้งของกิน ของใช้ และของสด ที่ลูกค้าต่างจังหวัดมักต้องการ ทำให้ตอบโจทย์คนไทยในพื้นที่ห่างไกลมากกว่า 7-Eleven
ทั้งนี้กลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง” ไม่ใช่เรื่องที่ใหม่ในวงการธุรกิจไทยแต่อย่างใด เพราะมีหลายแบรนด์ที่นำกลยุทธ์นี้มาใช้และประสบความสำเร็จมาแล้ว เช่น
เริ่มต้นจากทําสวนผักใน อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ต่อยอดเป็นร้านอาหารเล็ก ๆ เติมโตจนสามารถเปิดสาขาที่สยามสแควร์จนเป็นที่รู้จัก
เริ่มต้นจากการเป็นปั๊มนํ้ามันในภาคใต้ของไทย ที่มีชื่อเดิมคือ บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จํากัด จากนั้นได้เปลี่ยนเป็น บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จํากัด (มหาชน)
ร้านอาหารทะเลที่ปากนํ้าระยอง เติบโตจนมีสาขาครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และในหลายจังหวัด
ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตใน จ.มหาสารคาม (สารคามซูเปอร์มาร์เก็ต) ค่อย ๆ ปรับรูปแบบธุรกิจเป็นร้านขายเครื่องสําอาง ที่ขายและทําการตลาดเชิงรุกไปในเมืองหลวงและจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยได้สําเร็จ
CJ และ 7-Eleven ศึกร้านสะดวกซื้อ
CJ Express Group ธุรกิจร้านสะดวกซื้อน้องใหม่ที่ใครหลายคนให้ความสนใจกันในช่วงนี้ มีจุดเด่นหลัก ๆ ที่โดดเด่น คือ
อีกทั้ง CJ Express Group ยังได้แบ่งร้านออกเป็น 3 ประเภทได้แก่
เป็นร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 หรือชื่อเดิมคือ “CJ Express”
ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ มีพื้นที่ให้จอดรถเหมือน 7-Eleven ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 ภายใต้แนวคิด “More Than Supermarket - มากกว่าซูเปอร์มาร์เก็ต” ด้วยการเพิ่มสินค้าหมวดไลฟ์สไตล์ สินค้าภายในบ้าน และร้านซักผ้า
เป็นการผสมผสานระหว่างขายปลีกกับขายส่งในร้านเดียวกัน
โดยจำนวนสาขา CJ Supermarket, CJ More, CJx ทั้ง 3 โมเดล ณ ปี 2024 มีสาขามากกว่า 1,000 แห่ง ครอบคลุม 45 จังหวัดในประเทศไทย ส่วน 7-Eleven นั้นยังคงครองใจผู้บริโภคด้วย ความสะดวกสบาย ที่หาได้ทุกหัวมุมถนน และเปิด 24 ชั่วโมง ซึ่งตางจาก CJ ที่มีเวลาเปิด-ปิดที่ชัดเจนซึ่งอาจกลายเป็น จุดอ่อน ในการดึงดูดลูกค้าบางกลุ่มไปได้
การต่อสู้ระหว่าง CJ Express Group และ 7-Eleven ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแข่งขันด้านจำนวนสาขาหรือความหลากหลายของสินค้า แต่สะท้อนถึง กลยุทธ์ในการทําธุรกิจ และ วิธีคิดที่แตกต่าง CJ Express เลือกที่จะใช้กลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง” ซึ่งสร้างความผูกพันและเป็นร้านสะดวกซื้อที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทย ในขณะที่ 7-Eleven ยังคงครองใจผู้บริโภคด้วยความสะดวกสบายที่เข้าถึงง่าย และมีจํานวนสาขาที่มากกว่าและพร้อมบริการ 24 ชั่วโมง
ในอนาคต การแข่งขันระหว่างสองแบรนด์นี้คงยังดุเดือดขึ้นอีก เพราะ ตลาดร้านสะดวกซื้อในไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีก ทั้งในด้าน การพัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่ๆ และการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
แล้วคุณล่ะ? เลือกที่จะเข้าร้านไหนระหว่าง CJ Express Group และ 7-Eleven?