ในยุคที่เศรษฐกิจไม่สู้ดีนัก ผู้บริโภคอย่างเราย่อมคำนึงราคาของสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อแน่นอนว่าคุ้มค่าหรือไม่ กลุ่มสินค้า House Brand หรือ Private label ที่วางจำหน่ายควบคู่อยู่กับสินค้าแบรนด์อื่นๆ ที่มีอยู่ทั่วไปในตลาด ที่ผ่านมามักถูกมองข้าม เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าสินค้าประเภทนี้เป็นสินค้าทางเลือกราคาถูกคุณภาพสู้สินค้าแบรนด์ใหญ่ ๆ ที่มีชื่อเสียงไม่ได้ แต่ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนส่งผลให้ผู้บริโภคทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับราคาและความคุ้มค่ามากขึ้น
จากผลสำรวจของ McKinsey เกี่ยวกับแนวโน้มเทรนด์ค้าปลีกในยุโรป ปี 2566 พบว่า ผู้บริโภค 36% ต้องการซื้อสินค้า ‘Private label’ หรือ ‘สินค้าตราห้าง’ เพิ่มมากขึ้น สืบเนื่องจากการทดลองใช้และได้รับรู้ว่าสินค้ากลุ่มดังกล่าวมีคุณภาพดีเทียบเท่า หรือดีกว่าสินค้าแบรนด์อื่นๆ นอกจากนี้ยังพบว่า สัดส่วนของสินค้า Private label ในทวีปยุโรปเพิ่มขึ้น 1.9% และส่วนแบ่งตลาดของร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.4% สะท้อนเทรนด์สินค้า Private label ที่มีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกในไทยเองต่างก็มองหาแนวทางพัฒนาสินค้าแบรนด์ตัวเอง เช่นเดียวกับ “ท็อปส์” ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล ภายใต้บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ที่มองเห็นถึงโอกาสและช่องว่างในการเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการพัฒนาคอนเซปต์ของ House of Brands ที่เป็นมากกว่าสินค้าตราห้างทั่วไป
โดยข้อมูลล่าสุดจากรายงานเทรนด์ผู้บริโภคในประเทศไทยของ NielsenIQ พบว่า ผู้บริโภคชาวไทยเลือกซื้อสินค้า Private label เพิ่มขึ้นจากเดิม 4% ในปี 2021 เป็น 6% ในปี 2022 สะท้อนการรับรู้ต่อสินค้าตราห้างว่าเป็นสินค้าคุณภาพดี และยังชี้ว่าผู้บริโภคชาวไทยมองเห็นและเลือกซื้อสินค้า Private label ที่เป็นกลุ่มพรีเมียมมากขึ้นกว่าเท่าตัว โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพที่ดีควบคู่กับราคาที่เข้าถึงได้
สินค้า House of Brands ของท็อปส์ มีความหลากหลายและแตกต่างด้วยจำนวนสินค้าในประเทศและสินค้านำเข้าที่เยอะที่สุด จาก 13 ประเทศทั่วโลก รวมกว่า 10,000 SKUs
ปัจจุบันสินค้าภายใต้ House of Brands แบ่งออกเป็น 3 ประเภท กว่า 250 แบรนด์ซึ่งมีการนำเสนอสินค้าที่ดีที่สุดให้ลูกค้าแต่ละกลุ่มในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยแบ่งเป็น
1.กลุ่มสินค้าอาหารสด
2.กลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
3.กลุ่มสินค้าวัตถุดิบอาหารและเครื่องปรุง
4.กลุ่มสินค้าขนมขบเคี้ยว
5.กลุ่มสินค้าเครื่องดื่ม
ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภคชาวไทยในปัจจุบันที่มองหาสินค้าที่มีคุณภาพและคุ้มค่ากับราคา ทำให้สินค้า House of Brands ในทุกหมวดหมู่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยท็อปส์ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายไว้ที่ 20% ภายในปีนี้
เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ยังมีแผนในการขยายตลาดสินค้าไทยภายใต้ ‘House of brands’ ไปสู่ตลาดในต่างประเทศผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยในช่วง 2560-2565 ได้ส่งออกสินค้ากว่า 500 รายการ ไปยัง 4 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ จีน ไต้หวัน เวียดนาม และกัมพูชา มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) รวมกว่า 127% นับเป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จว่าสินค้าไทยได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพในระดับสากล และมีมาตรฐานเทียบเท่าสินค้านำเข้าจากประเทศอื่นๆ