ปราสาทตาควายเป็นของไทย 1,000% ชาวบ้านลั่น รัฐบาลไม่มีน้ำยาเอาคืน
ชาวบ้านลั่น! เอาหัวเป็นประกัน ปราสาทตาควายเป็นของไทย 1,000% บอกถูกหวยรางวัลที่ 1 ยังไม่ดีใจเท่าได้ปราสาทคืน ชี้ "ขนมจีนยังมีน้ำยา แต่ร้ฐบาลไม่มี"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 4 พ.ย.2568 นางรำพึง จิตรสมาน อายุ 68 ปี ชาวบ้านเขาโต๊ะ ต. บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เล่าถึงความทรงจำต่อประสาทตาควาย ว่า ตั้งแต่พ่อแม่พามาอยู่ที่นี่ ก็ได้เห็นปราสาทตาควาย ในขณะนั้นยังรกร้างเป็นอย่างมาก และในอดีตแฟนของตนเคยเข้าไปตัดไม้ใกล้ๆ ก็พบว่าปราสาทมีแต่เถาวัลย์ขึ้นเต็ม ซึ่งตอนนั้นพบว่ามีทหารไทยเข้าไปประจำการแล้ว ทั้งนี้กว่า 50 ปีที่ผ่านมา พวกเราทุกหมู่บ้านจึงเข้าไปช่วยพัฒนา ทำความสะอาด บูรณะให้มีความสวยงาม ก่อนที่เขมรจึงเข้ามายึดครอง พร้อมยืนยัน 1,000% เอาหัวเป็นประกันว่า ประสาทตาควายเป็นของคนไทย โดยก่อนหน้านี้เรียกปราสาทตาวาย ต่อมาจึงเรียกว่าปราสาทตาควาย โดยตนรู้สึกเสียใจมากหลังจากที่เขมรยึดครองตัวประสาทได้ ทั้งนี้แม้ตนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ยังไม่ดีใจเท่ากับได้ปราสาทตาควายคืน เพราะหากเราไม่ได้คืนคนที่อยู่แถวนี้จะอยู่ไม่ได้ เพราะอยู่ใกล้กัน และอาจมีการก่อกวนทหารของไทย
ทั้งนี้เรายังมีความหวัง 80% ที่จะได้ปราสาทคืนมา เพราะเป็นของคนไทย ซึ่งหากตอนนี้ชาวบ้านสามารถรวมตัวขับไล่เขมรได้เราก็ทำแล้ว ยอมสละชีพกันทุกคนเพื่อปราสาทของเรา ทั้งนี้คนไทยเราใจดีเกินไป และฝากรัฐบาลว่า “ขนมจีน ยังมีน้ำยา แต่รัฐบาล ไม่มีน้ำยา ไม่เห็นช่วยอะไร ปล่อยให้แต่ทหารทำ แต่ทหารหากไม่สั่งเขาก็ไม่กล้า โยนกันไปมาเหมือนลูกบอล ซึ่งชาวบ้านก็อยู่ไม่เป็นสุข ได้ยินเสียงฟ้าร้องนึกว่าเป็นเสียงระเบิดเสียงปืนใหญ่ ซึ่งตนหนีออกจากพื้นที่มา 3 รอบแล้ว”
นางรำพึง กล่าวว่า อยากให้นายกรัฐมนตรี ช่วยเอาปราสาทควายของเราคืนมาให้ได้ อย่ามาทำเมินเฉยเช่นนี้ อย่าทำเป็นไม่สนใจอะไร ขอให้สงสารชาวบ้านตาดำๆ บ้าง เพราะชาวบ้านไม่มีทางไปสู้กับเขมรได้ มีแต่ทหารกับนายกรัฐมนตรี ที่จะช่วยได้ ในส่วนของทหารเขาก็ทำแต่ก็ทำอย่างเต็มที่ แต่หากไม่มีคำสั่งจากเบื้องบน เขาก็ไม่กล้าทำ ยืนยันว่าชาวบ้านจะไม่ยอมเสียประสาท ซึ่งหากเป็นของเขมรจริงเราจะไม่อยากได้เลยแต่นี่มันเป็นของคนไทย ส่วนรัฐบาลกัมพูชานั้น ต้องถามว่าเหตุใดจึงเอาปราสาทของเราไปทั้งที่ไม่ใช่ของตนเอง”
Advertisement
