Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
แพทย์ เตือนเทรนด์ในกลุ่มวัยรุ่น "แฟชั่นไม่ใส่ถุงยาง" เสี่ยงติดเชื้อHIV

แพทย์ เตือนเทรนด์ในกลุ่มวัยรุ่น "แฟชั่นไม่ใส่ถุงยาง" เสี่ยงติดเชื้อHIV

5 พ.ย. 68
21:47 น.
แชร์

แพทย์ เตือนเทรนด์ในกลุ่มวัยรุ่น "แฟชั่นไม่ใส่ถุง" เสี่ยงติดเชื้อ HIV -ซิฟิลิส แนะใช้เพร็พควบคู่ถุงยางป้องกัน และตรวจเลือดสม่ำเสมอ

ศ.นพ.อติวุทธ กมุทมาศ แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ทางเพศ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) นายกสมาคมเพศวิทยาคลินิกและเวชศาสตร์ทางเพศ (ประเทศไทย) และเจ้าของเพจ “เรื่องเล่าพี่หมอเอ้” กล่าวว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น และ LGBTQ+ เข้าใจเรื่องเอชไอวี (HIV) ดีขึ้น แต่ขาดแรงจูงใจในการป้องกัน

ปัจจุบันวัยรุ่นไทยและทั่วโลกแนวโน้มไม่ใช้ถุงยางอนามัยมากขึ้น ไม่ใช่เป็นเพราะไม่มีความรู้ แต่เพราะได้รับอิทธิพลจากสื่อออนไลน์และครีเอเตอร์เฉพาะทาง เช่น OnlyFans ที่ทำให้การไม่ใส่ถุงยางถูกมองว่าเป็นแฟชั่น ทั้งที่ความเสี่ยงสูงขึ้นอย่างมาก

นอกจากนี้ พฤติกรรมทางเพศแบบกลุ่ม หรือมีคู่นอนมากกว่า 2 คน ในเวลาเดียวกัน เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงไม่กี่ปี ทั้งในกลุ่มชายรักชาย (MSM) และกลุ่มทั่วไป พบทั้งรูปแบบสลับคู่นอน 3–5 คน หรือจัด Sex Party ซึ่งบางกลุ่มมองว่าเป็นแฟชั่นทางเพศ

และยังพบความสัมพันธ์แบบรักหลายคน (Polyamory) ที่ทุกฝ่ายยินยอม แม้คนส่วนใหญ่รู้จักวิธีป้องกัน HIV แต่ขาดการตระหนักรู้เชิงลึก โดยเฉพาะความเสี่ยงจากพฤติกรรมที่คิดว่าปลอดภัย เช่น ออรัลเซ็กส์ หรือการสัมผัสสารคัดหลั่ง ซึ่งยังมีโอกาสติดเชื้อได้

แม้โรงเรียนส่วนใหญ่มีการเรียนการสอนเพศศึกษา แต่ยังเน้นเฉพาะเรื่องเพศศึกษาเชิงกายภาพ เช่น วิธีใช้ถุงยาง แต่ยังขาดการสอนเรื่องสิทธิทางเพศ การยินยอม พฤติกรรมทางเพศที่หลากหลาย ส่งผลให้วัยรุ่นไทยกว่าครึ่งยังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เพราะมองว่าไม่ใส่มีความสุขกว่า หรือ ยังเด็กไม่เสี่ยง ซึ่งสะท้อนช่องว่างสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข

รศ.นพ.อติวุทธ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน HIV การป้องกันจึงต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน ได้แก่ 1.ถุงยางอนามัย สำหรับการมีเพศสัมพันธ์ทุกประเภท 2.แผ่นยางอนามัย (Dental Dam) สำหรับการทำออรัลเซ็กส์ 3.ยาเพร็พ (Pre-Exposure Prophylaxis: PrEP) เพื่อป้องกันก่อนสัมผัสเชื้อ และ 4.ยาเพ็พ (Post-Exposure Prophylaxis: PEP) ยาต้านฉุกเฉินหลังสัมผัสเชื้อ

การให้ความรู้อย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องสร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่รักตัวเองให้มากขึ้น กล้าที่จะป้องกันตัวเอง ปฏิเสธคู่นอนที่ไม่ยอมใส่ถุงยาง ปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ยินยอม โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ได้มีแค่ HIV แต่ยังมีซิฟิลิสและโรคอื่น ๆ ที่อันตราย จึงอยากให้คนรุ่นใหม่ประเมินความเสี่ยงป้องกันให้ครบทั้งเพร็พและถุงยาง และตรวจเลือดสม่ำเสมอ

Advertisement

แชร์
แพทย์ เตือนเทรนด์ในกลุ่มวัยรุ่น "แฟชั่นไม่ใส่ถุงยาง" เสี่ยงติดเชื้อHIV