Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
หยุดเข้าใจผิด! ไขมันไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นเพื่อนรักที่ร่างกายขาดไม่ได้

หยุดเข้าใจผิด! ไขมันไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นเพื่อนรักที่ร่างกายขาดไม่ได้

4 พ.ย. 68
11:34 น.
แชร์

“หมอเคน ทรงพล” แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวหนังและความงาม พาไปรู้จัก "ไขมัน" ให้มากขึ้นผ่านรายการ On the way with Chom ย้ำไขมันไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นเพื่อนรักที่ร่างกายขาดไม่ได้ ไขมันไม่ได้ทำให้อ้วนเสมอไป แต่ช่วยให้สุขภาพดี อารมณ์ดี ดูเด็กลง และอายุยืน อย่าทำลายไขมันผิดจุด ถ้าไม่อยากแก่ก่อนวัย

รู้จัก "ไขมัน" ตั้งแต่ต้นกำเนิด

หมอเคนเผยว่า วันนี้จะลงลึกเรื่องไขมันไม่ใช่ผู้ร้าย ก็ต้องอยากให้เข้าไปรู้จักไขมัน จนถึงต้นกำเนิด ไขมันถ้าจำแนกง่าย ๆ แบ่งเป็น ไขมันในเลือดกับไขมันในเนื้อเยื่อ ไขมันในเลือดคือพวก HDL LDL ส่วนไขมันในเนื้อเยื่อคือ White Fat Brown Fat Beige Fat สำหรับไขมันในเลือด เราไปตั้งต้นที่อนุพันธ์ที่เล็กที่สุดของไขมัน ที่เรียกว่า Fatty Acid หรือว่า กรดไขมัน คือฟอร์มของไขมันที่เล็กที่สุด จะถูกจำแนกไปอีกว่าในเชิงโมเลกุลของเจ้ากรดไขมัน เขามีพันธะคู่ หรือ Double Bond อยู่ไหม ถ้าเขาไม่มีพันธะคู่ เขาก็คือเส้นตรง ๆ แข็ง ๆ ทื่อ ๆ พวกนี้คือ ไขมันอิ่มตัว เวลาเขาอยู่ในอุณหภูมิห้องก็จะมีลักษณะเป็นแข็งๆ เนยแท้ มีลักษณะแข็งเมื่ออยู่ในอุณหภูมิห้อง และก็ทนทาน ทนต่อความร้อน

หรืออย่างพวกไขมันสัตว์ หมู 3 ชั้น ก็ใช่ อะไรที่เราเห็นมันเป็นก้อนแข็งๆ เมื่อมันอยู่ในอุณหภูมิปกติ ไขมันที่มันมีลักษณะเป็นของแข็ง เป็นไขมันอิ่มตัว อีกขาหนึ่งคือ แล้วถ้าฉันมีพันธะคู่ล่ะมี Double Bond อันนี้แยกอีก มีเยอะ หรือว่ามีน้อย ถ้าเขามี 1 พันธะ เราเรียก ว่ามี Mono ก็คือ MUFA Mono Unsaturated Fat คืออะไร โอเมก้า 9 เช่น โอลีฟออย หรือว่าอะโวคาโด พวกนี้ดี

ต่อไปอีกแขนงหนึ่งคือ ถ้าเค้ามีพันธะคู่อยู่เยอะ ตำแหน่งคาร์บอนที่ 6 อันนี้คือ โอเมก้า 6 ซึ่งเยอะไปก็ไม่ดี แต่ถ้าไปอยู่ที่ตำแหน่ง 3 คือ โอเมก้า 3 ดี คืออะไร น้ำมันตับปลา หรือว่าไขมันที่อยู่ในปลาทะเลลึก หรือว่าแฟลกซ์ซีดออย ความสำคัญคือร่างกายเราจะหยิบไอ้เจ้าพวกนี้ โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 หรือ โอเมก้า 9 เอาไปฟอร์มขึ้นมาเป็นผนังเซลล์ ไตรกลีเซอไรด์ Fatty Acid ไม่สามารถลอยอยู่เดี่ยว ๆ ในร่างกายเราได้ ว่าต้องไปจับกับอะไรบางอย่าง ถ้าไปจับกับโปรตีน พอเขาไปจับกับโปรตีนแล้ว ก็ต้องไปดูว่าจับด้วยความแน่นแค่ไหน จับแน่นมาก เรียก ว่า High Density ก็คือ HDL จับแน่นน้อยหน่อยก็เป็น Low Density LDL พอ มันแน่นน้อย โมเลกุลมันก็จะใหญ่ เพราะ Fat มันพอง LDL ก็เลยไม่ค่อยดี ส่วน HDL ก็เลยดี

อุณหภูมิเย็นสามารถเปลี่ยน White Fat ให้ไปเป็น Brown Fat ได้ ซึ่งอันนี้มีงานวิจัย งานวิจัยบอกว่าให้คนไปอยู่ในอุณหภูมิ 17 องศา อย่างน้อยวันละ 2 ชั่วโมง ติดต่อกัน 6 สัปดาห์ คนกลุ่มนี้ Beige Fat เพิ่มขึ้น แล้วถ้าไม่ไปเมืองนอกอยู่ไทยทำอะไรได้ IF อันนี้ก็มีคนศึกษาวิจัยอีกว่า IF ประมาณ 14-16 ชั่วโมงต่อวัน แต่ไม่ต้องทำบ่อย อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ยังมีเรื่องของการรับประทานอาหาร สารอาหารบางอย่างช่วย White Fat ไปเป็น Beige Fat ได้ แคปไซซินสารมีในพริกต้องกินเผ็ดก็พอจะช่วยได้ ชาเขียว เรสเวอราทรอล ไวน์แดง และการเพิ่ม Brown Fat อาหาร ออกกำลังกาย การออกกำลังกายที่สามารถกระตุ้น Brown Fat ได้ก็คือ 1 ออกแบบ Aerobic Exercise พวกคาร์ดิโอ หรือออกแบบ HIIT หรือที่ฮิตที่คนชอบทำกัน ออก 2 แบบนี้ กระตุ้นได้ดีกว่าการออกกำลังกายแบบ Training นอนยังไงให้ Brown Fat เพิ่มขึ้น ต้องนอนดี มันก็จะทำให้ตัวเซลล์ไขมันพวกฮอร์โมนมีแนวโน้มที่จะเทิร์นจาก White Fat ไปเป็น Beige เป็น Brown

ไขมัน ไม่ใช่ศัตรู แล้วใครคือผู้ร้ายตัวจริงต่อร่างกาย

หมอเคน เผยว่าที่ผ่านมาคนเรามองว่าไขมันคือผู้ร้าย คือตัวรับจบ แต่ ณ ตอนนี้ มันเปลี่ยนไปแล้ว ไขมันคือเพื่อนคนหนึ่งของเราที่ต้องมีเขา ถ้าย้อนกลับไปสมัยประมาณยุค 70-80 เทรนด์มาพร้อมกับ Beauty Standard มีพุงคือไม่สวย มีไขมันส่วนเกินคือไม่ดี อย่างงั้นไม่เวิร์ก พอมันมาพร้อมกับเทรนด์ Low Fat ที่บอกว่าคนเข้าใจว่าอะไรก็ตามที่ Fat น้อยแล้วจะดี อะไรก็ตามที่ไขมันต่ำจะดีต่อสุขภาพ หลอมรวมกันให้กลายเป็นความเชื่อว่าไขมันเป็นผู้ร้าย

ปัจจุบันนี้ปี 2025 ไขมันได้รับการกอบกู้ชื่อเสียงกลับมาแล้ว ว่าไม่ได้เป็นผู้ร้าย แต่มีข้อดีด้วย ข้อดีที่ว่าคือประโยชน์ที่ทุกคนรู้อยู่แล้วไขมันเป็นพลังงานให้กับร่างกายเรา แต่มากไปกว่านั้น เป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนหลากชนิดในร่างกาย ที่สำคัญคือ ฮอร์โมนเพศ ถ้าในผู้ชายก็เป็น เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ในผู้หญิงก็เป็น เอสโตรเจน (Estrogen) ฮอร์โมนอะไรอีกที่ถูกสร้างมาจากไขมัน ก็เป็น คอร์ติซอล (Cortisol) เป็นฮอร์โมนที่เราใช้รับมือกับความเครียด เพราะฉะนั้นแล้วการที่ไขมันดรอปมากๆ ฮอร์โมนก็จะดรอปตามไปด้วย นอกจากนี้ ไขมันยังเป็นองค์ประกอบของเซลล์ในร่างกายอีกหลากหลายเซลล์ เรื่องของสมองหรือว่าสารสื่อประสาทต่างๆ พวกนี้ก็ต้องใช้ไขมัน

ไขมันเป็นตัวทำละลาย วิตามินบางชนิดละลายในน้ำ แต่วิตามินบางชนิดละลายได้ในไขมัน ไขมันมีประโยชน์ถ้าเราเลือกให้ถูก แต่พอเป็นความเชื่อที่ฝังรากไปแล้วว่า Low Fat ดีนะ ก็จะบอกว่าอาหารบนโลกใบนี้ของเรา ทุกอย่างประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แล้วก็โปรตีน อยู่ที่ว่าจะมีอะไรมาก จะมีอะไรน้อย พอในสัดส่วนอาหารที่มัน Low Fat แปลว่าไขมันต่ำ สิ่งที่มันตามมาคือคาร์บก็มักจะเยอะตามมา ซึ่งตอนนี้เรารู้กันแล้วว่า Fat ไม่ได้ไม่ดี แต่ตัวผู้ร้ายจริง ๆ คือน้ำตาลกับแป้ง

ไขมันที่ทำให้เราแก่เร็วขึ้น? เซลล์มะเร็งชอบไขมันจริงไหม

ไขมันที่ทำให้เราแก่เร็วขึ้น เร่งแก่ ตัวที่ไม่ดีอันดับแรกก็คือ Saturated Fat ไขมันอิ่มตัว ถัดมาคือ โอเมก้า 6 เพราะพวกนี้ พอเรากินไขมันที่มันไม่ค่อยดี พอเข้าไปเป็นส่วนประกอบของเซลล์เมมเบรน ผนังเซลล์ ก็จะหลั่งสัญญาณ หรือสารสื่อประสาทที่มันไม่ค่อยดีออกมาได้ กระตุ้นการอักเสบ ทำให้เกิดการอักเสบเล็กๆ ในร่างกายเรา บางครั้งไม่เจอว่าเป็นโรคอะไรแต่มันจะมีความรู้สึกไม่ค่อยดี เหมือนมีการอักเสบเล็กๆ อยู่ในร่างกาย มันก็จะสะสมไปเรื่อยๆ

มีงานวิจัยหรือการศึกษาเกี่ยวกับเซลล์มะเร็งบางประเภท ที่ใช้เซลล์ไขมันเป็นแหล่งของพลังงาน เซลล์มะเร็ง คือเซลล์ที่ต้องพยายามอยู่รอด ถ้ามีน้ำตาล เขาใช้น้ำตาลก่อน แต่วันหนึ่งถ้าร่างกายมันไม่มีน้ำตาลให้ใช้เขาก็ต้องหาทางรอด เขาก็สวิตช์ไปใช้พลังงานจากการสลายไขมันได้ ซึ่ง ณ ตอนนี้เขาพบอยู่ 2 ชนิด ก็คือ เซลล์ไขมันตับแล้วก็รังไข่ เซลล์มะเร็งเป็นเซลล์ที่เติบโตไม่มีจุดสิ้นสุด พอเติบโตเยอะๆก็จะต้องใช้สารอาหารในร่างกาย ใช้น้ำตาลเยอะ ใช้ไขมันเยอะ แต่อีกถ้าเรามี Brown Fat เยอะ หรือ Beige Fat เยอะ Brown Fat กับ Beige Fat จะแย่งใช้ไขมัน เพราะตัวเขาสามารถเผาผลาญไขมันได้

ส่วนการดูดไขมันกับการสลายไขมันต่างกัน ดูดไขมันคือเอาออกหมดเลย สลายไขมันต้องดูว่าสลายด้วยวิธีไหน ถ้าสลายด้วยการฉีด สมัยก่อนเราสลายไขมันด้วยการฉีดตัวยาเข้าไปสลาย มันคือทำให้ตัวเซลล์ไขมันหดตัวลง เหี่ยวลง แต่สุดท้ายแล้วเซลล์ไขมันสามารถขยายตัวใหญ่ขึ้นได้ แปลว่าตัวเซลล์ไขมันไม่ได้หายไปไหน กินเยอะเขาก็กลับมา แต่กลับกันถ้าสลายด้วยการทำให้เขาตายไปเลยก็ไม่เวิร์กอีกเพราะเรายังอยากให้ใบหน้าเรามีออร่า

ความสัมพันธ์ระหว่างไขมันน้อยกับภาวะซึมเศร้า

อันนี้ตรงไปตรงมาเลยนั่นคือ "คอร์ติซอล" ที่เป็นฮอร์โมนตัวหลัก ที่เราต้องใช้รับมือกับความเครียด การที่เรารับมือกับความเครียดพวกนี้ได้ เป็นเพราะมีฮอร์โมนคอร์ติซอล หากไขมันน้อย แล้วร่างกายจะเอาสารตั้งต้นที่ไหนไปสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอล คอร์ติซอลดรอปจึงเป็นซึมเศร้า เป็นอะไรอย่างนี้ มันเกิดได้เยอะกว่า อีกหนึ่งพาร์ทเวย์ที่เกิดขึ้นก็คือในสมองของเรา ประกอบด้วยไขมันเป็นองค์ประกอบหลัก ไขมันเป็นองค์ประกอบของเยื่อบุเซลล์ สารสื่อประสาท พอต่อกันเป็นก้อนๆ เขาก็จะคุยกัน พอคุยกันเขาต้องอาศัยไขมัน พอไขมันมันน้อย เขาก็คุยกันได้น้อย การสื่อประสาท การนำส่งสัญญาณต่าง ๆ ในสมองมันก็ดรอปลง มันก็เลยทำให้ภาวะอารมณ์ไม่คงที่

ตอนนี้เรามีองค์ความรู้ที่พัฒนามากยิ่งขึ้น เราเริ่มรู้รายละเอียดเกี่ยวกับไขมันที่มันละเอียดขึ้น ไม่อยากให้เหมารวมว่าไขมันเป็นสิ่งไม่ดีบ ไขมันคือเพื่อนของเรา เพื่อนมันมีทั้งเพื่อนดีและเพื่อนไม่ดี จะทำยังไงที่จะเลือกคบเพื่อนที่ดี ให้อยู่ข้างตัวเรา ส่วนเพื่อนไม่ดีเราเบรก เพราะฉะนั้นมุมมองที่ควรมีกับไขมันคือ เลือกไขมันที่ดี เพื่อมาเป็นสารตั้งต้นของอะไรดี ๆ ในร่างกายเรา

Advertisement

แชร์
หยุดเข้าใจผิด! ไขมันไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นเพื่อนรักที่ร่างกายขาดไม่ได้