ทำไมการนอนเปลือยกายถึงดีต่อสุขภาพ? กุญแจสำคัญสู่สุขภาพที่ดีกว่า

นอนเปลือยกาย กุญแจสำคัญสู่สุขภาพที่ดี ส่งผลให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อรา ระบบสืบพันธุ์ และสุขภาพอื่นๆ

การนอนเป็นการซ่อมแซมร่างกายที่ดีที่สุด ซึ่งการนอนให้ถูกวิธีนั้นจะทำให้ประสิทธิภาพการนอนดีขึ้น โดยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม จัดท่านอนให้ถูกต้องตามสรีระ เข้านอนเป็นเวลาเดียวกัน จัดห้องให้มืด เงียบ และเย็นสบาย หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนนอน เป็นต้น

หนึ่งในวิธีการนอนที่ทำให้การนอนมีคุณภาพ หลายคนอาจจะคิดว่าแปลกแต่กลับมีประโยชน์จริง คือ การนอนเปลือยกาย โดยไม่มีเสื้อผ้าอาภรณ์อยู่บนร่างกายของเรานั่นเอง

ทำไมการนอนเปลือยกายช่วยให้สุขภาพดีขึ้น?

การนอนเปลือยกายอาจช่วยให้อุณหภูมิแกนกลางร่างกายของคุณดีขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพผิวหนัง ระบบสืบพันธุ์ และสุขภาพอื่นๆ ให้ดีขึ้น โดยปกติเมื่อร่างกายของเราเตรียมพร้อมสำหรับการนอนหลับ อุณหภูมิร่างกายจะลดลงตามธรรมชาติและคงอยู่เช่นนั้นตลอดคืน ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รักษาอุณหภูมิห้องไว้ที่ประมาณ 17-25 องศาเซลเซียส เพื่อการนอนหลับที่ดีที่สุด แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุและช่วงวัยของแต่ละบุคคลด้วยเช่นกัน หากร่างกายของคุณเย็นลงตามธรรมชาติโดยการสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นก่อนนอน นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณพร้อมที่จะนอนหลับแล้ว

อุณหภูมิแกนกลางร่างกายของคุณยังส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับได้อีกด้วย การสวมชุดนอนเข้านอนภายใต้ผ้าห่มในห้องที่อบอุ่น อาจเป็นการรบกวนการนอนหลับ

ดีต่อสุขภาพผิว

ผลการศึกษาหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสารสรีรวิทยาประยุกต์ โดย Tracey J. Smith และคณะ ทำการศึกษาผลการนอนหลับอย่างเพียงพออาจเป็นประโยชน์ต่อความสามารถในการสมานแผลของผิวหนังอย่างไร พบว่าผู้ที่นอนหลับเพียงพอจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้น แม้ว่าจะยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติม แต่นักวิจัยแนะนำว่าหากการนอนเปลือยกายช่วยให้คุณต้านทานโรคได้อย่างสงบสุขเป็นเวลานานขึ้น สุขภาพผิวของคุณก็อาจได้รับประโยชน์เช่นกัน

สุขภาพช่องคลอดของผู้หญิง

การติดเชื้อราในช่องคลอดในผู้หญิง เกิดขึ้นเมื่อมีเชื้อราแคนดิดา (Candida) ซึ่งเป็นเชื้อราตามธรรมชาติที่เจริญเติบโตมากเกินไป การติดเชื้ออาจเกิดขึ้นได้เมื่อการไหลเวียนของอากาศไม่เพียงพอ เช่น เมื่อสวมใส่กางเกงชั้นในหรือเสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป การถอดชุดชั้นในขณะนอนหลับอาจช่วยป้องกันการติดเชื้อนี้ในช่วงกลางคืนได้

พญ.พิศศรี คุ้มอนุวงศ์ เจ้าของเพจ Dr.Mom-หมอแม่ ได้ให้ความรู้ในเรื่องนี้ว่า ถ้าเรานอนคนเดียว ไม่จำเป็นต้องสวมชุดชั้นในนอนก็ได้ เพราะช่องคลอดและอวัยวะเพศของเราต้องการอากาศเหมือนกัน ถ้าใส่อาจทำให้ส่วนนั้นเกิดการอับชื้นได้ นอกจากนี้แบคทีเรียดีที่อยู่ในช่องคลอดของผู้หญิงซึ่งช่วยเรื่องสมดุลของช่องคลอด ก็ต้องการอากาศเหมือนกัน ในคุณผู้ชายก็เช่นกัน ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใส่

สุขภาพการสืบพันธุ์ของเพศชาย

ชุดชั้นในและเสื้อผ้าที่รัดรูปอาจทำให้อุณหภูมิของถุงอัณฑะสูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อความเข้มข้นของอสุจิ บทความในวารสาร Human Reproduction โดยนักวิจัยเชื่อว่าสิ่งนี้อาจลดจำนวนอสุจิและพลังชีวิตของอสุจิ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมักแนะนำให้สวมกางเกงบ็อกเซอร์แทนชุดชั้นในที่รัดรูป ขณะที่งานวิจัยของ A Jung, M Eberl และ WB Schill ระบุว่าการนอนเปลือยกายข้ามคืนอาจช่วยให้อุณหภูมิร่างกายโดยรวมเย็นลง ส่งผลดีต่อสุขภาพของอสุจิในทางบวก

การนับถือตนเอง

งานวิจัยของ Keon West แห่งภาควิชาจิตวิทยา ของ Goldsmiths, University of London ในหัวข้อกิจกรรมเปลือยกายร่วมกันช่วยเพิ่มการชื่นชมร่างกาย ิโดยลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับร่างกายในสังคม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการละทิ้งเสื้อผ้าอาจส่งผลต่อการประเมินรูปร่าง ในบางกรณีการทำกิจกรรมโดยไม่สวมเสื้อผ้าอาจส่งผลให้มีภาพลักษณ์ทางร่างกายที่ดีขึ้น แม้ว่ายังต้องการหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม แต่ผลการศึกษานี้ให้มุมมองเบื้องต้นว่านิสัยการนอนเช่นนี้อาจส่งผลต่อความนับถือตนเองได้อย่างไร

ลดความวิตกกังวลและความเครียด

การศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้า มีแนวโน้มที่จะมีปัญหาด้านการนอนหลับ การนอนหลับในลักษณะที่ช่วยให้คุณสามารถนอนหลับสนิทและยาวนานขึ้นอาจเป็นการนอนเปลือยกาย ที่อาจช่วยปรับสมดุลความเครียด ภาวะซึมเศร้า และความวิตกกังวล ซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปัญหาด้านการนอนหลับในตอนแรกได้

การจัดการน้ำหนัก

การนอนหลับอย่างเพียงพอ สามารถช่วยลดระดับเกรลิน (ฮอร์โมนความหิว) ในร่างกาย ซึ่งจะช่วยควบคุมน้ำหนักที่อาจเพิ่มขึ้นได้ มีผลวิจัยชี้ให้เห็นว่าการนอนหลับโดยการสวมเสื้อผ้าน้อยลงในห้องนอนที่เย็นสบาย อาจช่วยกระตุ้นการเผาผลาญแคลอรีผ่านไขมันสีน้ำตาล ซึ่งเป็นไขมัน (เนื้อเยื่อไขมันสีน้ำตาล) ที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นเมื่อรู้สึกหนาว อุณหภูมิที่เย็นจัดจะกระตุ้นการทำงานของไขมันสีน้ำตาล ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางเมตาบอลิซึมต่างๆ ในร่างกาย

อย่างไรก็ตาม ไขมันส่วนใหญ่ของเราเป็นไขมันสีขาว ซึ่งกักเก็บพลังงานส่วนเกินไว้ การสะสมไขมันสีขาวมากเกินไปในภาวะอ้วน นักวิจัยกำลังพยายามควบคุมการทำงานของไขมันสีน้ำตาลเพื่อรักษาโรคอ้วน โรคเบาหวาน และความผิดปกติทางเมตาบอลิซึมอื่นๆ

การฟื้นฟูกล้ามเนื้อ

การนอนหลับเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ และตัวชี้วัดสมรรถภาพทางกายอื่นๆ โดยปกติร่างกายคนเราจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ขณะหลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลับลึก ซึ่งจำเป็นต่อการพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกาย การนอนเปลือยกายช่วยให้คุณนอนหลับได้ลึก จึงอาจนำไปสู่การเจริญเติบโตและความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อที่ดียิ่งขึ้นได้

อาจช่วยป้องกันความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง

การนอนน้อยส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน และโรคเบาหวาน ซึ่งจะทำให้ระดับเกรลิน (Ghrelin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความหิวสูงขึ้น และลดระดับเลปติน (Leptin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้างจากเซลล์ไขมัน ทำหน้าที่หลักในการควบคุมความอยากอาหารและรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ ทำให้เรารู้สึกอิ่ม เพื่อชดเชยระดับพลังงานที่ลดลง ผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพออาจมีแนวโน้มที่จะแสวงหาอาหารที่ช่วยบรรเทาอาการหิว ซึ่งเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดและเสี่ยงต่อโรคอ้วนซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวาน

แม้ว่าจะยังไม่มีการเชื่อมโยงระหว่างการป้องกันโรคเรื้อรังกับการนอนเปลือยกาย แต่การนอนเปลือยกายช่วยให้คุณหลับสนิทได้เร็วและหลับได้นาน ซึ่งจะทำให้คุณภาพการนอนดีขึ้นและส่งผลให้สุขภาพโดยรวมของคุณดีขึ้นได้ เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่ดีและเพียงพอนั่นเอง

บางคนอาจรู้สึกไม่สบายตัวเมื่อต้องนอนโดยไม่สวมเสื้อผ้า กลัวสิ่งแปลกปลอม เกิดความสกปรก หรือกลัวที่จะเปิดเผยร่างกายต่อหน้าผู้อื่น ซึ่งนั่นเป็นเรื่องปกติ และสำหรับบางคน บาดแผลในอดีตหรือความเชื่อทางศาสนาหรือวัฒนธรรม อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่อยากหรือไม่กล้านอนเปลือยกายได้

ในคนมีคู่ การนอนเปลือยกายจะทำให้มีระดับออกซิโทซินในเลือดสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดความผูกพันโดยรวมและความสงบต่อสุขภาพ ทำให้เกิดความรู้สึกเชื่อใจ ไว้ใจ และรู้สึกดึงดูดใจต่อคู่รักมากขึ้น ฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกมาเมื่อมีการปฏิสัมพันธ์เชิงบวก เช่น การกอด จูบ มีเพศสัมพันธ์หรือทำกิจกรรมร่วมกัน ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แข็งแกร่งและมีความสุข ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ฮอร์โมนนี้เป็นที่รู้จักในนามฮอร์โมนแห่งความรักนั่นเอง