วันที่ 21 ตุลาคม 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ
1. เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568
2. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 6,169.986 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นหน่วยรับงบประมาณและจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยผ่านธนาคารออมสิน ให้เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไป รวมทั้งให้สามารถจ่ายถัวข้ามจังหวัดได้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปภ. ได้ตรวจสอบและยืนยันจำนวนครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ จำนน 685,554 ครัวเรือน โดยมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ/พื้นที่ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/พื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน รวม 65 จังหวัด
มท. ได้จัดทำหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
(1) หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือ เช่น
1. เป็นกรณีอุทกภัยที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยในช่วงฤดูฝนปี 2568 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ทั้งกรณีน้ำท่วม ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงการระบายน้ำจนส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้
2. เป็นที่อยู่ประสบอุทกภัย ตามข้อ 1. และได้รับผลกระทบกรณีใดกรณ๊หนึ่ง ดังต่อไปนี้
- ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขัง ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
- ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขัง เกินกว่า 7 วันขึ้นไป
3. ต้องเป็นบ้านที่อยู่อาศัยประจำในพื้นที่ที่ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และ (1) มีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกให้ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 (2) ผ่านการประชาคมหมู่บ้านของแต่ละพื้นที่ประสบสาธารณะ (3) ผ่านการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจากคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ (ก.ชภ.อ.) และคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.)
4. กรณีผู้ประสบภัยหลายครั้ง ให้ได้รับความช่วยเหลือเพียงครั้งเดียว
(2) อัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเป็นรูปแบบเหมาจ่ายอัตราเดียวครัวเรือนละ 9,000 บาท โดยให้ธนาคารออมสินจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือโดยตรง ผ่านรูปแบบการโอนเงินเข้าบัญชีผ่านระบบพร้อมเพย์ (Promptpay)
ทั้งนั้น ให้จังหวัดที่ประสบภัยเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องตามหลักเกณฑ์และช่วยเหลือให้แล้วเสร็จ ภายใน 90 วัน หลังจากได้รับการจัดสรรงบประมาณ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเห็น ดังนี้
-สำนักงบประมาณ เห็นควรให้ มท. โดย ปภ. ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลผู้ประสบภัยในพื้นที่ให้มีความชัดเจน ถูกต้อง ครบถ้วน ครอบคลุมพื้นที่ที่ประสบภัยตามข้อเท็จจริงอย่างเคร่งครัด และไม่มีความซ้ำซ้อนอย่างรอบคอบ รวมทั้งปฏิบัติตามกฏหมาย ระเบียบ ข้อบังคับมติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องอย่างครบถ้วน
-สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นควรกำชับจังหวัดที่ประสบภัยให้เร่งตรวจสอบความถูกต้องและความซับซ้อนของครัวเรือนที่มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า
Advertisement