เว็บไซต์ข่าวกัมปูเจียทะแมย์เดลี่ (Kampuchea Thmey Daily) ของกัมพูชา เขียนบทความ ระบุว่า สวีเดนเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงที่ดีมากในภูมิภาคยุโรป ในด้านการส่งเสริมสันติภาพและสิทธิมนุษยชน
แต่อย่างไรก็ตามสวีเดนอาจสูญเสียชื่อเสียงในฐานะ ประเทศที่มีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นผู้สนับสนุนสิทธิมนุษยชน เสรีภาพในการแสดงออก และเป็นประเทศที่น่าชื่นชมในเวทีระหว่างประเทศอื่นๆ หากยังคงเดินหน้าขายเครื่องบินขับไล่กริพเพน E/F รุ่นใหม่ให้กับประเทศไทย เพื่อนำไปใช้ในการรุกรานประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา
ในช่วงความขัดแย้งทางอาวุธที่กินเวลานาน 5 วัน 5 คืน ตั้งแต่วันที่ 24 ถึง 28 สิงหาคม สื่อไทยได้รายงานซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่ากองทัพไทยได้ใช้เครื่องบินขับไล่กริพเพน C/D ที่ซื้อจากสวีเดนในปี 2554 ในปฏิบัติการทางทหารควบคู่ไปกับเครื่องบินขับไล่ F-16
นอกจากนี้ยังอ้างว่ากองทัพไทยได้โจมตีวัดวาอาราม, ปราสาท, บ้านเรือน และสังหารพลเรือนไปมากมาย ด้วยเครื่องบินขับไล่ที่ทันสมัย ซึ่งมีความเร็วเหนือเสียงและมีประสิทธิภาพสูงในการทิ้งระเบิด
สื่อกัมพูชายังขู่ว่า ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของไทยอาจต้องเผชิญกับข้อหาอาชญากรรมสงคราม จากการสั่งการให้ใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 และ Gripen C/D โจมตีแหล่งวัฒนธรรมและพลเรือน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ถูกห้ามอย่างเด็ดขาดในการสู้รบ
กัมพูชาอาจนำประเทศไทยขึ้นสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) จากกรณีการโจมตีทางอากาศของไทยโดยใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 ของสหรัฐฯ และ Gripen ที่ซื้อจากสวีเดน
สื่อกัมพูชาบอกว่า การใช้เครื่องบินเพื่อการป้องกันตนเองนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่การใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการรุกรานนั้น "ผิดกฎหมาย" โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้กับเป้าหมายที่เป็นพลเรือน, โรงพยาบาล หรือแหล่งวัฒนธรรม ซึ่งการโจมตีสถานที่เหล่านี้ถือเป็น อาชญากรรมสงคราม
Advertisement