วันที่ 23 ต.ค. 68 นาย สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์ในนามสภาต่อต้านแห่งชาติกัมพูชา (CNRC) ประกาศเริ่มดำเนินบทบาทในฐานะ “รัฐบาลกัมพูชาอิสระ” (Government of Independent Cambodia) อย่างเป็นทางการ
โดยรายละเอียดของแถลงการณ์ระบุว่า “ในวันครบรอบ 34 ปีของข้อตกลงสันติภาพปารีส CNRC ผ่านทางเครือข่ายอย่างเป็นทางการและใต้ดิน ขอประกาศเข้ามารับผิดชอบการฟื้นฟูประชาธิปไตย ปกป้องเอกราชของชาติ และต่อต้านกลุ่มอาชญากรที่ได้รับการคุ้มครองโดยระบอบการปกครองปัจจุบัน”
CNRC ประกาศว่า “จะปฏิบัติหน้าที่คณะรัฐมนตรีภายใต้ชื่อ ‘รัฐบาลกัมพูชาอิสระ 23 ตุลาคม’ ความคิดริเริ่มนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ CNRC ที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างมีความรับผิดชอบท่ามกลางวิกฤตการณ์ทางการเมืองของประเทศ และตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องอย่างเร่งด่วนของชาวเขมรที่ต้องการผู้นำที่ชอบธรรม”
“CNRC ก่อตั้งขึ้นจากพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากประชาชนในการเลือกตั้งปี 2556 และ 2560 ก่อนที่จะถูกยุบพรรคโดยมิชอบโดยรัฐบาลของ ฮุน เซน เนื่องจากเขาเกรงว่าประชาธิปไตยของประเทศจะตื่นขึ้นมา CNRC ยืนยันว่า รัฐบาล ฮุน เซน-ฮุน มาเนต ชุดปัจจุบันขาดความชอบธรรม เนื่องจากได้พลิกกลับเจตนารมณ์ของประชาชนชาวกัมพูชาที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งครั้งนั้น”
“วัตถุประสงค์หลักของความคิดริเริ่มนี้คือการส่งเสริมความปรารถนาของชาวกัมพูชาในการฟื้นฟูข้อตกลงสันติภาพปารีสปี 2534 ซึ่งเป็นรากฐานที่ทำให้กัมพูชาอยู่รอดในฐานะประเทศที่สงบสุข มีอำนาจอธิปไตย และเป็นอิสระ ปกครองโดยประชาธิปไตยแบบพหุภาคี และได้รับการปกป้องโดยพรมแดนที่ปลอดภัย”
“ข้อตกลงสันติภาพปารีสกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า กัมพูชาต้องปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแบบเสรีนิยมและพหุนิยม คณะกรรมการ CNRC ยืนยันว่า ฮุน เซน ได้ละเมิดหลักการเหล่านี้อย่างเป็นระบบ ทำลายโอกาสทางประชาธิปไตย และบ่อนทำลายหลักประกันระหว่างประเทศที่เคยคุ้มครองอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา”
“ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา กัมพูชาได้เปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐมาเฟีย ซึ่งการหลอกลวงทางออนไลน์และการฉ้อโกงทางอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายข้ามชาติได้แพร่หลายภายใต้การคุ้มครองของทางการ CNRC ยืนยันว่า ระบอบการปกครองในปัจจุบันเป็นระบบการปกครองที่ผิดกฎหมาย ซึ่งคุกคามทั้งเสถียรภาพของชาติและภูมิภาค”
“รัฐบาล 23 ตุลาคม ขอแสดงความขอบคุณต่อสหรัฐอเมริกาสำหรับการกระทำเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 68 ในการขึ้นบัญชีดำและตั้งข้อกล่าวหาองค์กรอาชญากรข้ามชาติที่นำโดย เฉิน จื้อ พร้อมด้วยผู้สมรู้ร่วมคิดอีกหลายสิบคน รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชาจากครอบครัวและบริวารของ ฮุน เซน ผู้นำเผด็จการซึ่งปกครองประเทศมานานกว่า 40 ปี”
“CNRC เรียกเหตุการณ์นี้ว่า ‘จุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อสู้กับการทุจริตและกลุ่มอาชญากรที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐในระดับโลก’ และขอเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ที่มีพลเมืองตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงทางออนไลน์หรือการค้ามนุษย์ในกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการทลายเครือข่ายอาชญากรเหล่านี้”
“โดยยืนยันข้อตกลงสันติภาพปารีสว่าเป็นกรอบเดียวที่ถูกต้องตามกฎหมายสำหรับสันติภาพ อำนาจอธิปไตย และประชาธิปไตยของกัมพูชา CNRC เน้นย้ำหลักการสำคัญ 3 ประการ”
“1. บูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาได้รับการรับประกันโดยสนธิสัญญาระหว่างประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องมีความขัดแย้งด้วยอาวุธ”
“2. กัมพูชาต้องกลับคืนสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงและการเคารพสิทธิมนุษยชนที่ถูกกัดกร่อนภายใต้การปกครองแบบเผด็จการที่ยาวนานหลายทศวรรษ”
“3. กัมพูชาต้องได้รับเอกราชคืนอย่างสมบูรณ์โดยวางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด โดยต้องปิดฐานทัพเรือจีนที่เรียมและสถานที่ทางทหารต่างชาติอื่นๆ ทั้งหมด”
“รัฐบาลกัมพูชาอิสระ 23 ตุลาคม จะฟื้นฟูจิตวิญญาณของข้อตกลงสันติภาพปารีส สร้างสถาบันประชาธิปไตยขึ้นใหม่ รักษาหลักนิติธรรม และคืนอำนาจให้แก่ประชาชนชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นแหล่งที่มาที่แท้จริงของอำนาจอธิปไตยของชาติ”
Advertisement