เศร้า! ลุงป่วยติดเตียงตายคาจุดรอคิวตรวจโควิด ตร.รีบเก็บศพไปโรงพัก ห่วงความรู้สึกครอบครัว (คลิป)

เมื่อวันที่ 4 ส.ค.64 ศบค.รายงานสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศไทย ดังต่อไปนี้

- พบติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 20,200 ราย
- รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 672,385 ราย
- หายป่วยเพิ่ม 17,975 ราย
- รวมหายป่วย 455,806 ราย
- รักษาอยู่รวม 211,076 ราย
- เสียชีวิตเพิ่ม 188 คน
- รวมผู้เสียชีวิตสะสม 5,503 คน

เวลา 11.30 น. ตำรวจ สน.ฉลองกรุง ได้รับเเจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เเขวงเเสนเเสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ทราบชื่อต่อมานายเดชา อายุ 64 ปี โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายกำลังนั่งรอตรวจโควิด-19 ปรากฏว่า จู่ ๆ เกิดเป็นล้มหมดสติ ก่อนจะเสียชีวิต และผลตรวจผลเบื้องต้นพบว่าติดเชื้อโควิด-19

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.ดาลิณี บุญซัน อายุ 25 ปี ลูกสาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า คุณพ่อเป็นผู้ป่วยติดเตียง เเละมีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งเส้นเลือดในสมองตีบ โรคหัวใจ เเละความดันโลหิตสูง ที่ผ่านมาตน เเละเเม่ อายุ 65 ปี เป็นผู้ดูเเลมาโดยตลอด เนื่องจากอยู่ด้วยกัน 3 คน และคุณพ่อก็ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19

โดยเมื่อสัปดาห์ที่เเล้ว มีหลานสาว อายุ 5 ขวบ ซึ่งเป็นญาติกันมาเยี่ยมที่บ้าน เเละเข้าไปเล่นกับคุณพ่อ

-วันที่ 2 ส.ค.64 เริ่มมีอาการไอ เเละจ็บคอ
-วันที่ 3 ส.ค.64 มีไข้สูง
-วันที่ 4 ส.ค.64 เวลา 07.00 น. ลูกสาวเเละลูกเขย จึงพาคุณพ่อไปตรวจที่ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ทั้งนี้ จะต้องตรวจ 2 รอบ โดยรอบเเรกได้ตรวจในเวลา 09.00 น. ตรวจแบบ Antigen Test Kit รู้ผลใน 30 นาที ผลปรากฏว่าติดเชื้อโควิด-19 เเละจะต้องรอตรวจรอบ 2 แบบ RT-PCR เพื่อยืนยันผล

เเต่ระหว่างที่กำลังนั่งรออยู่บนรถเข็น เพื่อจะตรวจรอบ 2 ปรากฏว่าจู่ ๆ เวลาประมาณ 11.00 น. มีอาการหายใจเหนื่อย หายใจเเรง เเละตัวเย็น ก่อนจะฟุบหมดสติลงที่พื้น เจ้าหน้าที่จึงช่วยปั๊มหัวใจ เริ่มมีสัญญาณชีพขึ้นอ่อน ๆ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม ตนยังรู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาดูข่าวผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 จึงไม่คาดคิดมาก่อนว่าวันนี้จะมาเกิดความสูญเสียกับคนในครอบครัว ซึ่งเป็นพ่อของตัวเอง และในส่วนของศพวันพรุ่งนี้ (5 ส.ค.64) หลังจากชันสูตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะรีบฝังตามพิธีทางศานาอิสลามในทันที

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปยัง ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เเขวงเเสนเเสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เบื้องต้น ทราบว่าสถานที่เเห่งนี้ เป็นหนึ่งในหน่วยบริการตรวจคัดกรองเชิงรุกของกรุงเทพมหานคร

ภายในมีการจัดเเบ่งเป็น 2 โซน มีการใช้ 2 อาคาร โดยอาคารที่ 1 จะใช้เป็นศูนย์พักคอย สำหรับผู้ติดเชื้อ ส่วนอาคารที่ 2 จะใช้เป็นสถานที่ตรวจคัดกรองโควิด-19 ซึ่งจะรับตรวจได้วันละประมาณ 700 คน โดยจะตรวจ 2 รอบ รอบเเรกจะตรวจเเบบ Antigen Test Kit รู้ผลใน 30 นาที และรอบ 2 ตรวจแบบ RT-PCR เพื่อยืนยันผลอีกครั้ง

สำหรับผู้ที่เดินทางมาตรวจเชื้อโควิด-19 หากผลตรวจเป็นลบ ก็สามารถกลับบ้านได้ เเต่หากผลตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ก็จะเข้าสู่ศูนย์พักคอยในอาคารที่ 2 จากนั้นเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ จะประสานกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหาโรงพยาบาลสนามในการรักษาต่อไป โดยในวันนี้ขณะเกิดเหตุ เวลา 11.00 น. มีเจ้าหน้าที่ เเละประชาชนที่มารอตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ก็ต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากนั้นเวลา 13.00 น. ตำรวจ สน.ฉลองกรุง ได้ดำเนินการเก็บศพเอง โดยนำผ้าห่อศพ เเล้วนำศพขึ้นรถคุมขังผู้ต้องหา ออกจากศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ไปยัง สน.ฉลองกรุง ซึ่งหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดตำรวจจึงรีบเก็บศพเอง โดยไม่รอเจ้าหน้าที่กู้ภัย

ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี สอบถามไปยัง พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงษ์หอมหวล ผกก.สน.ฉลองกรุง กล่าวชี้เเจงถึงสาเหตุที่ตำรวจเคลื่อนย้ายศพเอง โดยที่ไม่ได้รอกู้ภัย ระบุว่า เนื่องจากก่อนหน้านั้นชาวบ้านประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยเเล้ว เเต่ปรากฏว่ากู้ภัยติดภารกิจเก็บศพโควิด-19 เป็นจำนวนมาก จะต้องรอเป็นเวลานาน ซึ่งศพของผู้ตายนอนอยู่กลางพื้นที่สาธารณะ อาจเป็นที่อุจาดตาเเก่ผู้พบเห็น อีกทั้งญาติก็รู้สึกไม่สบายใจ หากศพจะนอนอยู่เเบบนั้น ดังนั้นตำรวจก็มีชุด PPE เเละอุปกรณ์ป้องกันอยู่เเล้ว จึงดำเนินการเคลื่อนย้ายศพออกจากจุดดังกล่าว เพื่อรอกู้ภัยมาเก็บต่อไป

จากนั้นเวลา 14.30 น. ทีมเฉพาะกิจดำเนินการเก็บศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้เดินทางมายัง สน.ฉลองกรุง เพื่อเก็บศพจากรถคุมขังผู้ต้องหา ขึ้นรถตู้ของมูลนิธิฯ เเล้วส่งต่อไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ โดยมีการนำศพใส่ถุงซิปล็อก 3 ชั้น เเละพ่นยาฆ่าเชื้อโรคบริเวณรอบ ๆ