จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ”Peemai chalita mungkhunkar” แชร์คลิปผู้ชายใส่หมวกกันน็อกทำร้ายชายอีกรายจนล้มลงไปนอนข้างถนน โดยมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยห้าม พร้อมข้อความระบุ "น้องชายถูกทำร้ายร่างกาย หน้าโรงแรม เอสซี ปาร์ค ขณะนี้แจ้งความไว้แล้วที่ สน.วังทองหลาง ขอความช่วยเหลือตามหาตัวผู้ก่อเหตุเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย"
ล่าสุดวันที่ 23 ก.ค.63 นายไพบูลย์ มุงขุนการ อายุ 51 ปี พ่อผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ เวลา 18.00 น. ขณะตนกำลังขับรถเก๋งอยู่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม ก่อนถึงโรงแรมเอส ซี ปาร์ค โดยตนอยู่เลนกลางต้องการเปลี่ยนเลนขวาเพื่อเลี้ยวขวาตรงแยก และได้เปิดไฟเลี้ยวขวา มีรถจักรยานยนต์ที่ขับอยู่ด้านหลังบีบแตรลักษณะไม่พอใจ ตนจึงบีบตอบรับ 1 ครั้ง และขับตรงไปปกติ ก่อนที่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจะขับมาชนท้ายรถตน 3 ครั้งเหมือนหาเรื่อง
จากนั้น ตนจึงจอดรถเพื่อต้องการลงไปพูดคุย ในขณะที่จอดรถ ลูกชายซึ่งนั่งมาด้วยก็ลงจากรถ แต่อีกฝ่ายก็จอดรถจักรยานยนต์และปรี่เข้ามาต่อยลูกตนหลายครั้ง จนเซลงไปนอนริมฟุตพาท หรือ ทางเท้า ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากจนตนไม่ทันตั้งตัว เมื่อลงไปก็พยายามห้าม โดยมีพลเมืองดีอีกรายเข้ามาช่วย จนฝ่ายคู่กรณีขับรถหนีไป
โดยตนมองว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่พอใจที่ตนขับรถออกขวาลักษณะเหมือนเข้าไปเบียดเขา แต่การกระทำของอีกฝ่ายใจร้อนเกินไป ทั้งที่ลูกชายแค่จะเข้าไปพูดคุย ก็เข้ามาต่อยโดยไม่พูดสักคำ ทำตัวกร่างเหมือนไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ด้านนายบุญอนันต์ มุงขุนการ อายุ 24 ปี ผู้บาดเจ็บ มีรอยช้ำบริเวณใต้ตาขวา จมูกร้าว และมึนศีรษะ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนเปิดประตูรถเพื่อต้องการถามว่า มาขับรถชนพ่อตัวเองทำไม แต่ไม่ทันได้พูดอะไร อีกฝ่ายก็เข้ามาต่อยตนที่หน้า จนตนเซล้มลงไปนอนตั้งแต่หมัดแรก และจำเหตุการณ์ไม่ได้อีกเลย
ส่วนตัวแปลกใจมากว่าอีกฝ่ายมาต่อยตนทำไม ทั้งที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน และฝ่ายตนก็ยังไม่ได้เข้าไปทำร้ายหรือทำให้คู่กรณีเสียหาย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการทำเกินกว่าเหตุ เพราะยังไม่ได้พูดคุยกันก็เกิดเรื่อง ซึ่งคู่กรณีใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ รูปร่างใหญ่ คาดว่าน่าจะเป็นชายวัยกลางคน ไม่ใช่วัยรุ่น ตอนนี้อยากพูดคุยสอบถามว่า มาต่อยตนทำไม
ด้านพ.ต.อ.พงศ์จักร จักษุรักษ์ ผกก.สน.วังทองหลาง ระบุว่า ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาสอบปากคำเบื้องต้นแล้ว ตั้งแต่วานนี้ โดยตอนนี้รอผลแพทย์ของผู้บาดเจ็บ ก่อนเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
