เถ้าแก่ร้านค้าติดโควิด แค่ลืมใส่หน้ากากวันเดียว ญาติยันทั้งบ้านไม่ได้รับเชื้อ (คลิป)

กรณีกระแสข่าวลือว่า เจ้าร้านอะไหล่รถยนต์ ย่านป้อมปราบศัตรูพ่ายติดเชื้อโควิด-19 แพทย์สั่งกักตัวทั้งลูก เมีย และลูกน้องอีก 14 คน ลุ้นผลตรวจคาดทราบผลสัปดาห์หน้า

ล่าสุดวันที่ 5 เม.ย.63 นายยุทธนา ป่าไม้ ผอ.ป้อมปราบศัตรูพ่าย เปิดเผยว่า ตามที่โลกออนไลน์แชร์ข้อมูลว่า สำนักงานเขตได้รับแจ้งจากกองควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข พบเจ้าของร้านดังกล่าวติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และป่วยเป็นโรคมะเร็ง ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งการติดเชื้อดังกล่าวเกิดจากเจ้าของร้านไปสัมผัสและใกล้ชิดกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ แต่ไม่ทราบแหล่งแน่ชัด 

โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานเขต พร้อมเจ้าหน้าที่กองควบคุมโรค กรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ร้านดังกล่าว เพื่อเก็บสารคัดหลั่งในปากและจมูกของคนที่ภายในบ้าน ซึ่งมีทั้งภรรยา ลูก และคนงาน รวม 14 คน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อ

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดว่า จะทราบผลตรวจว่าคนในบ้าน มีใครติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ ในวันที่ 6 หรือ 7 เม.ย.63 พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้คนภายในร้านกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ห้ามออกจากที่พักโดยเด็ดขาด เพื่อลดการแพร่เชื้อกับผู้ที่พักอาศัยในละแวกดังกล่าว 

ส่วนข่าวลือที่ว่า เจ้าของร้านเสียชีวิตและมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เพิ่มนั้น ขอยืนยัน ไม่เป็นความจริง โดยเจ้าของร้านยังมีชีวิตอยู่ และคนในบ้านก็ยังไม่มีใครติดเชื้อ ส่วนวันที่ 6 เม.ย.63 เจ้าหน้าที่กองควบคุมโรค กรุงเทพฯ จะเข้ามาติดตามอาการของคนในร้านอีกครั้ง รวมทั้งนำอาหารไปให้ด้วย

ทีมข่าวเดินทางไปยังร้านดังกล่าว เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ได้พูดคุยกับ น.ส.กัญญา อายุ 36 ปี ลูกสะใภ้ เจ้าของร้านผู้ติดเชื้อ เล่าว่า ความจริงแล้วข่าวที่ถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ว่า ครอบครัวและคนงานติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งหมด 25 คน ไม่เป็นความจริงทั้งหมด ซึ่งจริง ๆ แล้ว ผู้ติดเชื้อคือพ่อของสามี อายุ 74 ปี เจ้าของร้าน และแม่สามี อายุ 72 ปี มีเพียง 2 คนเท่านั้น

โดยเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 มี.ค.63 พ่อสามีได้ออกไปกินข้าวกับเพื่อน ๆ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตนไม่ทราบว่าที่ใด โดยพ่อสามีไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย หลังจากนั้นวันที่ 1 เม.ย.63 เริ่มมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เนื่องจากเป็นผู้ไร้กล่องเสียง เพราะสูบบุหรีจัด ถัดมาวันที่ 2 เม.ย.63 จึงเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาล และทราบผลในวันที่ 3 เม.ย.63

ทั้งนี้แพทย์แจ้งว่า ติดเชื้อโควิด-19 ทางครอบครัวจึงได้แจ้งกรมควบคุมโรค ให้มารับตัวพ่อไปกักตัวทำการรักษาที่ รพ.ทรวงอก จ.นนทบุรี ซึ่งในช่วงเย็นวันเดียวกัน แม่สามีก็เริ่มมีน้ำมูก แน่นหน้าอก จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลก็พบว่า ติดเชื่อโควิด-19 เช่นกัน ขณะนี้ก็รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

หลังทราบว่าพ่อและแม่สามีติดเชื้อโควิด-19 สามีก็ได้บอกให้พนักงานในร้านทั้งหมด 20 คน กักตัวดูอาการ 14 วัน หากใครไม่เชื่อฟังก็จะทำการตัดเงินเดือน ซึ่งในวันที่ 7 เม.ย.63 แพทย์ก็จะนัดให้พนังงานทุกคนไปตรวจเชื่อ ส่วนคนในครอบครัวทั้งหมดไปตรวจแล้วแต่ไม่พบเชื้อ หลังทราบผลก็กักตัวเองอยู่ในบ้าน ไม่ออกไปไหน เพื่อดูอาการอีกเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยของบุคคลภายนอก

นอกจากนี้หลังจากตนทราบข่าวว่า มีกระแสข่าวออกไปแบบผิด ๆ ว่าคนในครอบครัวและพนักงานติดโควิด-19 หรือบางกระแสบอกว่า พ่อสามีเสียชีวิตเพราะติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงแตกตื่น

น.ส.กัญญา ยังกล่าวอีกว่า ตนรู้สึกเสียใจ เพราะเรื่องราวทั้งหมดไม่เป็นความจริง อีกทั้งยังไม่พอใจคนที่เริ่มโพสต์เรื่องราวดังกล่าวออกไป ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จริง สร้างความเสื่อมเสียและสร้างผลกระทบให้ครอบครัวของตนเป็นอย่างมาก 

สุดท้ายนี้หากเป็นไปได้ ตนอยากจะให้คนในสังคมควรเสพข่าวทั้ง 2 ด้าน และควรมีสติว่าอะไรจริง หรืออะไรไม่จริง เพราะครอบครัวของตนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จากเหตุการณ์ในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ทำความเข้าใจกับชาวชุมชน เพื่อไม่ให้กิดการตื่นตระหนก รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่มาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อภายในร้านรวมทั้งบริเวณพื้นที่ที่โดยรอบ โดยใช้รถเล็ก ๆ ไปตามซอยต่าง ๆ ตั้งแต่วานนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในกับชาวชุมชน