มหาดไทยว่าไง? ผญบ.ขู่ดิสเครดิตร้านถ่ายเอกสาร รุดแจงแค่อยากให้แคร์ลูกค้า (คลิป)

29 เม.ย. 67

ผู้ใหญ่บ้านกร่างด่ากราดพนักงานหญิงกลางร้านถ่ายเอกสาร ข่มขู่จะประกาศเสียงตามสายหมู่บ้านไม่ให้เข้ามาใช้บริการ ทำสาวผวาลาออกจากงาน

จากกรณีร้านถ่ายเอกสารร้านหนึ่งใน ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน ได้ร้องเรียนมายังทีมข่าวอมรินทร์ทีวี โดยเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้มีผู้ใหญ่บ้านพื้นที่หมู่ 2 ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน ได้เข้ามาถ่ายเอกสารที่ร้านและได้มีการด่าทอ ใช้อำนาจข่มขู่ว่าจะประกาศเสียงตามสายไม่ให้คนมาใช้บริการร้านนี้ อีกทั้งเคยทำร้ายชาวบ้านเอาปืนตบชาวบ้านและอีกหลายราย จนชาวบ้านกว่า 300 คนยื่นหนังสือขับไล่ผู้ใหญ่บ้านคนนี้ออกจากตำแหน่ง แต่สุดท้ายยังดำรงตำแหน่ง

1

ล่าสุดวันที่ 29 เม.ย. 67 ทีมข่าวอมรินทร์ ได้เดินทางมาร้านถ่ายเอกสารดังกล่าว ได้พูดกับ น้องพลอย (นามสมมติ) อายุ 28 ปี พนักงานที่อยู่ในภาพกล้องวงจรปิดเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตามภาพกล้องวงจรปิด เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่ นายธนกฤต หรือ นายชิต ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ได้มาปริ้นเอกสารในช่วงเย็น

ขณะนั้นพนักงานในร้านก็มีผู้หญิงทั้งหมด 3 คน ขณะที่ผู้ใหญ่มาถึง ตัวมีกลิ่นเหล้าฉุน จอดรถจักรยานยนต์ตามภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งตอนนั้นตนรวมถึงพนักงานอีกสองคนที่อยู่ในร้านก็สาละวนกับการทำงานอยู่ เห็นว่าผู้ใหญ่บ้านได้ชูโทรศัพท์ ซึ่งลักษณะเป็นภาพในแชตไลน์ ตนจึงถามไปว่า “มาถ่ายเอกสารหรอคะ” ตนก็บอกว่า สามารถส่งงานมาทางไลน์ได้เลยค่ะ และด้วยความที่ว่าตนไม่สบายอยู่แล้วเสียงก็เลยแหบอาจจะทำให้เขาไม่พอใจ จู่ๆ ทำผู้ใหญ่บ้านก็ด่ากร่างตนว่า นี่เป็นร้านของใคร บริการร้านห่วยแตกมากเลย

2

กระทั่งด่าว่าตนเองโง่ และจะประกาศตามเสียงตามสายไม่ให้ชาวบ้านมาใช้บริการที่ร้าน ตนเองเห็นว่า ที่กระเป๋าคาดเอว มีลักษณะเหมือนมีอาวุธปืนเหน็บอยู่หรือไม่ ตนเองรวมถึงพนักงานอีกสองคนในร้านก็ไม่ได้มีการตอบโต้อะไร ก่อนตนจะยื่นเอกสารที่ผู้ใหญ่บ้านได้สั่งปริ้นไว้ยื่นให้ สุดท้ายผู้ใหญ่บ้านคนนี้จะกลับไป หลังเกิดเรื่องจึงได้แจ้งทางเจ้าของร้านก่อนจะเดินทางไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายเรื่องก็กลับนิ่งเงียบ และยังเห็นผู้ใหญ่บ้านคนนี้ใช้ชีวิตตามปกติ

น้องพลอย ยังบอกอีกว่า หลังจากเกิดเรื่องพนักงานหนึ่งคนที่อยู่กับตนตอนที่ที่เกิดเหตุ กลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนกระทั่งขอลาออก เพราะกังวลในเรื่องของความปลอดภัย ส่วนพฤติกรรมก่อนหน้านี้ตนเองเคยได้ยินว่าผู้ใหญ่บ้านคนนี้เคยทำร้ายชาวบ้านถึงขั้นใช้อาวุธปืนตบหน้า และยิงปืนขึ้นฟ้าขู่ จนชาวบ้านต่างหวาดกลัว แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ผู้ใหญ่บ้านคนนี้ก็ยังดำรงตำแหน่งอยู่ ตนเองจึงอยากให้หน่วยงานปกครองที่เกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่บ้านคนนี้ช่วยดูแลพฤติกรรมผู้ใหญ่บ้านคนนี้หน่อย เพราะยิ่งเกิดเหตุการณ์แบบนี้ชาวบ้านก็ไม่มีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับหน่วยงานราชการ

4

นายธนกฤต นารินทอง อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.เหมืองง่า ชี้แจ้งกับทางทีมข่าวว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางไปยังร้านเอกสารดังกล่าวจริง และยืนยันว่าตนเองไม่ได้เมา พอไปถึงก็เห็นว่าพนักงานหญิงทั้ง 3 คนในร้าน ไม่ได้สนใจลูกค้าแบบตน จริงๆ แล้วเขาต้องมองว่า ลูกค้าคือพระเจ้า ก็ยอมรับว่าได้มีการพูดเสียงดังจริง แต่ยืนยันไม่ได้มีการข่มขู่ ไม่ได้มีการพกอาวุธปืนไปด้วย ตามที่คู่กรณีสงสัย แต่ถึงจะพกไปตามกฏหมายแล้วหน่วยงานปกครองก็สามารถพกพาปืนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนที่บอกว่าตนจะมาประกาศผ่านเสียงตามสายในหมู่บ้านว่า ไม่ให้มาใช้บริการที่ร้านแห่งนี้ ตนเองยืนยันตั้งแต่กลับบ้านมายังไม่เคยประกาศตามเสียงตามสายไม่ให้มาใช้บริการที่ร้านดังกล่าว

ส่วนที่ชาวบ้านอ้างว่า ตนเองเคยไปตบแม่เฒ่าที่อายุเยอะแล้วตนเองยืนยันว่า ไม่ได้มีการตบแต่เป็นการผลักเท่านั้น ส่วนเรื่องปืนที่บอกว่า ตนเองมักจะชอบยิงขึ้นฟ้าอยู่บ่อยครั้ง อันนี้ไม่จริง ส่วนใหญ่เวลาที่ตนเองไปยิง ก็จะไปยิงปืนนอกสถานที่เท่านั้นจุดที่มีการอนุญาต

ประเด็นเรื่องที่ชาวบ้านมีการล่ารายชื่อเพื่อขับไล่ตนเองนั้น ตอนนั้นน่าจะเป็นเรื่องที่ว่า การบริการลูกบ้านและการพัฒนาชุมชนว่าไม่มีภาพตนมาร่วมงานกิจกรรมพัฒนา จึงได้มีการลงประเมินตนไม่ให้ผ่าน ซึ่งหากลงว่าตัวเองไม่ผ่าน ตนเองก็จะฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาท เพราะตนเองมีหลักฐานว่าตนเองพัฒนาหมู่บ้าน

3

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมายัง ที่ว่าการ อ.เมือง จ.ลำพูน นายยุทธพงศ์ ไชยศร นายอำเภอเมืองลำพูน บอกว่า เบื้องต้นหลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา ทางหน่วยงานอำเภอก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการเรียก นายธนกฤต นารินทอง อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.เหมืองง่า เข้ามาพูดคุยและปรับทัศนคติ และสอบถามข้อเท็จจริงว่ามีความเป็นมาอย่างไร

ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านเพียงบอกว่า ติดใจในเรื่องของการบริการ จึงได้มีการพูดหรือใช้ถ้อยคำที่อาจจะไม่สุภาพไป แต่อ้างว่าไม่ได้มีการข่มขู่แต่อย่างใด ซึ่งก็มีการกำชับไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ก็จะมีการสอบในเรื่องของวินัยอีกครั้ง หากผิดตามจริงและเป็นความผิดที่ร้ายแรง ก็จะดำเนินการตามกฎระเบียบตามราชการ

ส่วนกรณีที่ชาวบ้านบอกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว เคยได้มีการล่ารายชื่อขับไล่ผู้ใหญ่บ้านคนนี้ ออกจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ส่วนนี้ตนเองต้องชี้แจงว่า ในขณะนั้นตนเองไม่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายอำเภอจึงไม่ได้ทราบเรื่องนี้ โดยหลังจากนี้ตนเองจะกลับไปดูเอกสารก่อนหน้านี้ว่า มีตามที่ชาวบ้านมีการพูดถึงหรือไม่ หากมีก็จะย้อนไปดูรายละเอียดตอนนั้นอีกครั้ง ยืนยืนให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

 

 

 

 

 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม