ศาลสั่งปรับผู้ปกครอง 5 เยาวชน คดีป้าบัวผัน คนละหมื่น ฐานปล่อยปละละเลยลูกหลาน

13 มี.ค. 67

ศาลเยาวชนสระแก้ว สั่งปรับผู้ปกครอง 5 เยาวชน คดีร่วมกันฆ่า ป้าบัวผัน คนละ 10,000 บาท ข้อหาร่วมกันปล่อยปละละเลย รับสารภาพลดกึ่งหนึ่ง 

จากกรณี คดีกลุ่มเยาวชน 5 คน ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ป้าบัวผัน อายุ 47 ปี จนเสียชีวิต ก่อนนำศพไปทิ้งในสระน้ำข้างโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามที่เป็นข่าวโด่งดังก่อนหน้านี้ 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มี.ค. 67 ที่ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.สระแก้ว ได้นัดผู้ปกครองของ 5 เยาวชนที่ก่อเหตุ คดีฆาตกรรม ป้าบัวผัน มารับฟังคำพิพากษาในความผิดฐาน บังคับขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร 

เมื่อถึงเวลาที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษา อัยการจังหวัดสระแก้ว ได้นำผู้ปกครองของเยาวชนทั้ง 5 คน เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามที่ศาลฯนัดอย่างพร้อมเพรียง โดยผู้ปกครองเด็กทั้ง 5 คน ยังคงมีสีหน้าที่เรียบเฉย แต่แฝงด้วยความวิตกกังวล เนื่องจากเป็นคดีแรกของประเทศไทยที่ผู้ปกครองของเด็กหรือเยาวชนที่ไปก่อคดีร้ายแรง จะต้องถูกดำเนินคดี ฐาน ปล่อยปละละเลย บังคับขู่เข็ญชักจูงส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่เหมาะสม โดยบอกเพียงสั้นๆ กับผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวว่า ทำใจไว้แล้ว เพราะเคสนี้เป็นเคสแรก  

ขณะที่พ่อของ ด.ช.บิ๊ก เปิดเผยว่า การถูกตั้งข้อหาว่าปล่อยปะละเลย บังคับขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรนั้นถือว่าแรง เพราะเชื่อได้เลยพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กทั่วประเทศ ไม่มีใครอยากปล่อยปละละเลยหรือยุยงส่งเสริมให้เด็กไปกระทำความผิด แต่เด็กอยู่ในวัยซนอยากรู้อยากเห็นจึงแอบไปหาเพื่อนคบเพื่อนเลยไปกระทำความผิด พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนไม่อยากให้ลูกไปกระทำความผิด แต่เมื่อเด็กออกไปข้างนอกจึงไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรกันบ้าง แต่ก็ทำใจไว้แล้ว เพราะเคสนี้เป็นเคสแรก ก็ต้องรอฟังคำตัดสินของศาลฯ 

ต่อมาเวลา 11.30 น.ผู้ปกครองของ 5 เยาวชน ต่างทยอยเดินลงมาจากศาลฯ หลังผู้พิพากษาอ่านคำพิพากษาแล้ว โดยบางคนได้หลบออกทางด้านหลังศาลฯเพื่อหลบกองทัพสื่อมวลชนที่มาดักรอทำข่าวอยู่ด้านหน้าศาลฯ มีเพียงคุณตาของ ด.ช.แบงค์ ที่เดินลงมาจากศาลทางด้านหน้าฯ บอกว่า ศาลสั่งปรับ 10,000 บาท แต่รับสารภาพลดกึ่งหนึ่ง เหลือ 5,000 บาท จากนั้นก็รีบเดินขึ้นรถกลับออกไปทันที  

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวพยายยามเจรจากับ เจ้าหน้าที่ศาลเพื่อขอเอกสารคำพิพากษา แต่ถูกปฏิเสธ โดยอ้างว่าศาลไม่อนุญาต และไม่ยอมบอกว่าศาลตัดสินว่าอย่างไรบ้าง ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าศาลพิพากษาอย่างไร อีกทั้งผู้ปกครองของเยาวชนทั้ง  5 คน ต่างก็ไม่ยอมพูดรายละเอียดอะไร และหลบสื่อมวลชนกันทุกคน  

ส่วนกรณีนายปัญญา หรือ ลุงเปี๊ยก ที่ถูกตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เอาถุงดำคลุมหัว เพื่อบังคับให้รับสารภาพ คดีการเสียชีวิตของ ป้าบัวผัน ซึ่งพฤติกรรมของตำรวจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา อัยการและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปาก และคดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะคำให้การของ นายปัญญา หรือ ลุงเปี๊ยก ที่ยืนยันถึงคนที่กระทำต่อตนเองได้ว่ามีใครบ้าง พร้อมชี้รูปถ่ายและให้การว่าใครทำอะไร รวมถึงจดจำเรื่องราวในวันดังกล่าวได้ทั้งหมด ซึ่งคดีนี้สำนวนอยู่ในชั้นอัยการแล้ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส