เปิดพฤติกรรม ช่างกิต - พวก นำจยย.คนตายชำแหละทิ้งคลอง ปมหึงหวง

เปิดพฤติกรรม ช่างกิต พร้อมพวก บุกอุ้มหนุ่มโรงงาน หลังเกิดเหตุนำ จยย.ของผู้เสียชีวิตไปชำแหละทิ้งคลอง ปมโมโหเห็นข้อความของผู้ตายและภรรยาคุยกัน

ความคืบหน้ากรณีคนร้ายอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงาน นายธนาสันต์ เตอั้น อายุ 33 ปี ถูกโยนทิ้งมัดมืดมัดเท้าไว้ข้างทางเลียบมอเตอร์เวย์ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา ก่อนที่เมียผู้ตายจะให้ข้อมูลกับตำรวจว่าก่อนที่ผัวหายไปพบส่งแชตปริศนาผ่านเฟซบุ๊ก อ้างทำหญิงท้อง ขอเลิกเมีย

และเมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 2 ก.พ.67 ตำรวจเข้าจับกุมนายกิตติโชติ แพไพรมูล อายุ 37 ปี โดยนาย กิตติโชติ เป็น 1 ในกลุ่มที่ก่อเหตุอุ้มฆ่านายธนาสันต์ แล้วนำศพมาทิ้งไว้ข้างทางบริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ก ขาเข้ากรุงเทพฯ ในพื้นที่หมู่ 10 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งวันที่พบศพวันที่ 29 ม.ค. 67 นายกิตติโชตได้ขับรถมากับ น.ส.วรรณพร หลักแหลม หรือ พร อายุ 33 ปี ภรรยาผู้ตาย ก่อนจะมายืนดูตอนเก็บร่างผู้ตาย และล่าสุดจับผู้ร่วมขบวนการได้ทั้งหมด 5 คน

ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าพฤติกรรมการก่อเหตุ วันที่ 27 มกราคมกลุ่มคนร้ายทั้ง 5 คน รวมตัวกัน ที่อู่ซ่อมรถของนายกิตติโชติ หรือ ช่างกิต จากนั้นทั้งหมดได้ขึ้นรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจสีแดง เดินทางไปบ้านของนายธนาสันต์ ผู้เสียชีวิต ในพื้นที่ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ แล้วไปดักรอนายธนาสันต์ออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน

เมื่อนายธนาสันต์ ออกจากบ้าน จึงขี่รถติดตามไปอย่างกระชั้นชิด โดยขับไปได้ประมาณ 2 กิโลเมตร กลุ่มคนร้ายได้ขับรถปาดหน้ารถจักรยานยนต์ของนายธนาสันต์ แล้วบังคับให้นายธนาสันต์ขึ้นรถ เมื่อขึ้นรถมาได้ ทั้งหมดได้ช่วยกันนำเชือกมัดมือ มัดเท้านายธนาสันต์

ส่วนนายนันทพัทธ์ หรือ โอ๊ต ได้ลงมาขี่รถจักรยานยนต์ของนายธนาสันต์ กลับไปที่บ้านของตัวเอง โดยยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นได้นำรถจักรยานยนต์ไปจอดที่บ้านของตัวเอง

ขณะคนที่เหลือที่อยู่บนรถเก๋งอีก 4 คน ได้ขับรถมไปบริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ แต่ระหว่างทางได้บีบบังคับให้นายธนาสันต์ บอกรหัสโทรศัพท์มือถือ และเมื่อนายกิตติโชติ เห็นข้อความ ระหว่างนายธนาสันต์คุยกับนางวรรณพร ภรรยา จึงเกิดความโมโห ทำให้นายกิตติโชติ ตัดสินใจใช้ปืนยิงนายธนาสันต์เสียชีวิต แล้วนำร่างไปทิ้ง ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้กันคือบริเวณริมถนนมอเตอร์เวย์

กระทั่งวันต่อมา (28 ม.ค.) นายกิตติโชติ ได้โทรศัพท์มาบอกว่านายนันทพัทธ์ ว่า ”มึงเอารถจักรยานยนต์ไปชำแหละ เดี๋ยวซวย“ โดยชำแหละที่บ้านของนายนันทพัทธ์ จากนั้นเจ้าตัวได้เอาซากของรถจักรยานยนต์ ขึ้นรถจักรยานยนต์ของตัวเองอีกคัน ไปทิ้งที่คลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ

ขณะที่รถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ สีแดง ได้จอดทิ้งไว้ที่อู่ของนายกิตติโชติ ประมาณ 1 วันครึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจนำรถมายกรถมิตซูบิชิมิราจสีแดง ไปจอดแอบไว้ ที่ลานคลังสินค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนที่ตำรวจจะไปตรวจยึดมาได้เมื่อคืนที่ผ่านมา.