เจ๋ง ดอกจิก พร้อมเลขาฯตูน เปิดใจครั้งแรก อ้างถูกหักหลัง สาบานไม่ใช่แก๊งตบทรัพย์

1 ก.พ. 67

เจ๋ง ดอกจิก พร้อมเลขาฯตูน เปิดใจครั้งแรก ยกพานสาบาน ไม่ใช่แก๊งตบทรัพย์ แจงยิบที่ไปที่มา ตั้งคำถาม ถ้าไม่มีแผล ทำไมนัดเคลียร์? 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.พ. 67 ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ นาย ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก พร้อมด้วย น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือ การ์ตูน อดีตผู้สมัคร สส.อุตรดิตถ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นเลขานุการส่วนตัวนายยศวริศ ร่วมกันแถลง กรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นขบวนการแก๊งตบทรัพย์ 

นาย ยศวริศ กล่าวว่า ตน 2 คน ถูกกล่าวหาว่าเป็นแก๊งตบทรัพย์ระดับชาติ และกล่าวหาว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐไปเรียกรับผลประโยนช์ เพื่อตนเองและผู้อื่น ทำให้ตนและ น.ส.พิมณัฏฐา ได้รับความเสียหายเป็นอย่างยิ่ง แต่อดทนมาตลอดเวลา จนไม่มีหน้าไปพบปะผู้คน เสียศักดิ์ศรีเกียรติยศ ส่วนน.ส.พิมณัฏฐา แทบจะไม่มีที่ยืนในสังคม ดังนั้นตนจำเป็นต้องออกมาแถลงข่าว เพื่อแก้คำครหาและคำกล่าวหา 

นาย ยศวริศ กล่าวว่า ที่จริงตนไม่ถูกจับ แต่ไปมอบตัวที่ สน.ดุสิต โดยแจ้ง ปปป.ไปรับตัวที่ สน.ดุสิต ข่าวที่พาดว่าบุกจับตน และเลขาฯคาทำเนียบนั้นไม่จริง เพราะตนรู้ตัวว่ามีหมายจับ จึงติดต่อประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิตเป็นคนมารับ และตนเข้ามอบตัวด้วยตนเอง ส่วนโทรศัพท์โดนยึดไปตั้งแต่วันแรกทั้งสองคน จึงไม่สามารถเก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ได้เลย แต่พยายามนึกทบทวนทุกเรื่องราวนำมาเล่าในวันนี้ 

นาย ยศวริศ กล่าวต่อว่า ตนเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องนี้ได้ เริ่มจากวันที่ 18 ธ.ค. 66 ตนและนายศรีสุวรรณ จรรยา เจอข้อพิรุธส่อทุจริตในกรมฝนหลวง เมื่อตรวจสอบเจอก็นัดหมายจะไปร้อง กมธ.ติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎรตามข่าว ในวันที่ 20 ธ.ค. 66 และในแถลงข่าวตนระบุว่ามีข้อมูลตรงกับนายศรีสุวรรณว่า พบข้อพิรุธส่อทุจริตในกรมการข้าวด้วยเหมือนกัน จากนั้นก็เตรียมเอกสาร เมื่อพูดไปดังนี้ก็มีพรรคพวกตนที่เป็นแกนนำคนเสื้อแดงเหมือนกัน รู้ว่าตนน่าจะไปร้องเรียนกรมการข้าว บอกว่าอย่าไปยุ่งกรมการข้าวเลย เพราะอธิบดีเป็นน้องเป็นพรรคพวกเขา และขอร้องให้ช่วยดูแลหน่อยได้มั้ย 

เจ๋ง ดอกจิก พร้อมเลขาฯตูน เปิดใจครั้งแรก อ้างถูกหักหลัง สาบานไม่ใช่แก๊งตบทรัพย์

เมื่อพรรคพวกขอร้อง วันที่ 20 ธ.ค. 66 ตอนกลางคืนตนก็รีบโทรไปหาอธิบดี แต่ไม่ได้รับสาย จากนั้นอธิบดีโทรกลับมาตนก็ไม่ได้รับสาย แต่เช้าวันที่ 21 ธ.ค. ตนก็รีบโทรกลับไป อธิบดีขอกินกาแฟกับตน นัดหมายกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แต่อธิบดีบอกโรงแรมคนเยอะ จึงขอนัดคุยที่กรมฯ ระหว่างทางอธิบดีโทรตามตนหลายรอบ 

วันนี้ตนพูดแบบ เจ๋ง ดอกจิก ล้วนๆ ไม่มีทนายมา เมื่อไปถึงที่กรมฯ ประมาณ 12.45 น. อธิบดีลงมารับตนที่หน้าตึก จากนั้นขึ้นไปที่ห้อง ที่มีภรรยาอธิบดีนั่งอยู่ เขาบอกว่า พี่ช่วยเจรจาให้ผมหน่อยได้ไหม ผมมีปัญหาเรื่องนี้ เคยตกลงกันไว้ตามข่าวว่าจำนวนเท่าไหร่ พี่ช่วยเจรจาให้ผมหน่อย ผมเป็นคนเสื้อแดง ตนบอกว่าวันนี้มาเพื่อช่วย และเขากราบที่ตักขอบคุณตนที่มาช่วยดูแล เขาบอกว่ามีอะไรให้ประสานกับภรรยาในส่วนตนก็ให้ น.ส.พิมณัฏฐา รับการประสานต่อ เมื่อจบการสนทนาก็ลากลับ 

เมื่อขึ้นรถตนก็ได้โทรประสานงานว่าได้ยอดตามตัวเลขที่เป็นข่าว ซึ่งเป็นความพึ่งพอใจทั้งสองฝ่าย จากนั้นก็เลิกแล้วต่อกัน ตนหมดหน้าที่ สุดท้ายทางฝั่งผู้ร้องจะร้อง เพราะกรณีนี้เขาตกลงกันาหลายรอบแล้วตามที่เป็นข่าว ซึ่งเขาไปคุยเจรจาตกลงกันที่ไหน ตนไม่รู้ เพราะเขาบอกว่าเรื่องนี้เขาเคยคุยกันมาหลายรอบแล้ว บิดพริ้วกันมาตลอด ส่วน น.ส.พิมณัฏฐา มีหน้าที่คอยประสานงานเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร  เรื่องมีเท่านี้เองที่ตนเข้าไปเกี่ยวข้อง เขาพึ่งพอใจกันทั้งสองฝ่าย 

“ผมไม่ได้เป็นแก๊งตบทรัพย์ และไม่คิดกรมการข้าวจะมีงูเห่า ผมเป็นชาวนา ไม่ใช่แก๊งตบทรัพย์ ต้องการให้จบเรื่องราวให้มันดี พึ่งพอใจทั้งสองฝ่าย เรื่องทุจริตจริงหรือไม่จริงต่างฝ่ายต่างมีข้อมูล ถ้ามีการร้องก็ต้องสอบ คนเราถ้าไม่ผิด ไม่มีแผลจะเคลียร์ทำไม ผมไม่รู้ผิดถูก แต่เมื่อมีข้อมูลส่อพิรุธว่าทุจริตมหาศาล เขาก็เตรียมร้องตามหน้าที่ ที่ผ่านมาผมร้องหลายที่ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และไม่เคยมีใครมาเคลียร์กับผม และผมไม่เคยเคลียร์กับใคร กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน ผมไม่ได้เงินสีกบาทเดียว รวมถึงคุณการ์ตูนก็ไม่ได้เงินสักบาทเดียว” 

นาย ยศวริศ กล่าวต่อว่า ข่าวออกใหญ่โตว่ามีการจับแก๊งตบทรัพย์ระดับชาตินั้นเลอะเทอะที่สุด เรื่องนี้ตนรู้เรื่องแค่นี้และทำหน้าที่แค่นี้ จึงขอความเป็นธรรม เพราะความเสียหายเกิดกับตน พี่น้องญาติมิตร เพื่อนฝูงผู้ใหญ่ในพรรค เขาจะมองตนอย่างไร น.ส.พิมณัฏฐา กำลังไปได้สวยทางการเมือง เป็นอดีตผู้สมัคร สส. กลับโดนตั้งข้อหาแบบนี้ น้องเขาเสียหาย แทบไม่มีที่ยืน ร้องไห้ทุกวัน ว่าเขาไปเกี่ยวอะไร เขาแค่เป็นผู้ประสานงานระหว่างผู้ร้องกับผู้ถูกร้องเท่านั้น ส่วนที่มีนักจัดรายการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตนกำลังให้ทนายความรวบรวมทุกกรณี รวมถึงเกรียนคีย์บอร์ดเตรียมรับหมายศาล รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐเช่นกัน ตนจะใช้กระบวนการยุติธรรมจัดการทุกคนไม่มีเว้น คดีศาลต้องเป็นคนพิพากษา ไม่ใช่ตำรวจที่มาตัดสินว่าเราเป็นแก๊งตบทรัพย์ ผิดหรือไม่ผิด ใช่หรือไม่ใช่ ศาลเท่านั้นเป็นคนพิพากษา ไม่ใช่เจ้าหน้าที่มาพูดจนคนทั้งประเทศพิพากษาตน 

“ทั้งนี้ขอฝากว่า ถ้าไม่ผิดแล้วเจ้าตัวจะไปเคลียร์ทำไม ถ้าไม่ผิดก็ให้เขาร้องไป และตั้งกรรมการชี้แจง ถ้าไม่ผิดไม่ต้องตื่นเต้น ไม่ต้องเดือดร้อน ใครออกมาพูดตนก็จะเก็บหลักฐานและฟ้องให้หมด” 

เจ๋ง ดอกจิก พร้อมเลขาฯตูน เปิดใจครั้งแรก อ้างถูกหักหลัง สาบานไม่ใช่แก๊งตบทรัพย์

จากนั้น นาย ยศวริศ ได้ยกพานขึ้นมาสาบานว่า “ถ้าตนเป็นแก๊งตบทรัพย์ขอให้มีอันเป็นไป หากไม่เป็นดังนั้น ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยไปจัดการคนที่กล่าววตนให้ไม่มีที่อยู่ ทุกข์ใจเป็นล้านเท่า และขอให้มีอันเป็นไป” 

ด้าน น.ส.พิมณัฏฐา ซึ่งร้องไห้ตลอดการแถลงข่าว กล่าวว่า ตนทำหน้าที่แค่ประสานเฉยๆ ไม่เคยรีดเงินหรือตบทรัพย์อะไร เป็นเพียงคนตามงานให้เท่านั้น

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม