อธิบดีกรมการข้าว ลั่นตัดสินใจลุยเอง จ่ายเงินล่อซื้อ แค้นใจโดนตบทรัพย์

30 ม.ค. 67

 

อธิบดีกรมการข้าว เปิดใจครั้งแรก! ลั่นเป็นคนพุทธ แขวนพระเต็มอกพูดความจริง เผยตัดสินใจลุยเอง จ่ายเงินล่อซื้อ แค้นใจโดนตบทรัพย์ ไม่ได้ทำผิดอะไร 

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 ม.ค. 67 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นาย ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว แถลงเปิดใจครั้งแรกว่า ขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้กำลังใจตนมาตลอดการทำงาน และกองบัญชาการสอบสวนกลางที่ทุ่มเทกำลังกาย แรงใจเป็นแรมเดือนในการดำเนินการครั้งนี้  

วันนี้ตนตัดสินใจมาแถลงข่าวให้ฟังในเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้อง เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตนได้ดำเนินการกับภรรยาตนเพียงสองคน รวบรวมข้อมูลทั้งหมดใช้ระยะเวลานานพอสมควร และแจ้งความดำเนินคดี 

ทีมงานของ รมว.เกษตรฯ และที่ปรึกษาฯ ไม่มีใครรู้สักคนว่าตนไปแจ้งความ ที่ออกข่าวมานั้น ไม่มีใครรู้ แต่ด้วยความรำคาญใจทำให้ตนกับภรรยา และพี่หมู รวม 3 คนไปบ้านของนาย ศรีสุวรรณ จรรยา ซึ่งก็เป็นรุ่นน้องมหาวิทยาลัย ตนเอาพี่หมูไปเป็นพยาน ให้ถามนายศรีสุวรรณว่าจริงหรือไม่ นายศรีสุวรรณรู้ดี และที่ไปนั้นไม่ได้ไปเคลียร์เรื่องจ่ายเงิน แต่ไปถามว่าทำไมต้องร้องเรียนตน และตนผิดอะไร เพราะผลการตรวจสอบ 4-5 โครการ ตนไม่ได้ผิด ก็คุยกันเข้าใจ จากนั้นก็กลับมา พี่หมูไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้ไปจ่ายเงิน ตนพูดความจริง เพราะแขวนพระเต็มอกและเป็นคนพุทธ  พูดความจริงทุกอย่าง ไม่ได้ไปเจรจาจ่ายเงิน 

นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวต่อว่า จากนั้น 2-3 สัปดาห์ นายศรีสุวรรณก็ไปแถลงข่าวเรื่องฝนหลวง และก็พูดวกมาเรื่องกรมการข้าว คนที่ไม่ผิด มันเจ็บใจ เพราะแค้น มันไม่หยุดสักที มันเป็นใครแล้วประเทศไทยจะอยู่ได้อย่างไร ถ้ามีคนประเภทนี้ ตนก็วางแผนหารือกับภรรยา ลุยกันเอง เราพอมีเงินอยู่ สู้ได้ก็จ้างทนายสู้ งานนี้ตนจัดการเอง และรวบรวมข้อมูลหลักฐานไปที่ ปปป. 

อย่างอื่นไม่มีอะไร ด้วยความรำคาญ ผมเป็นคนหัวร้อน ถ้าไม่ผิด ผมบอกแล้วคนที่ไปร้องเรียนผม ผมสู้ตาย ชีวิตเรามีแค่ชีวิตเดียว ตายไม่กลัว ถ้าไม่ผิดอย่างมาแกล้งกัน ถ้าผิดก็ต้องถูกสอบสวน และผลการสอบสวนผมออกมาหมดแล้ว ก็ไม่มีมูล เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ 

ที่ปรึกษาฯ รู้เรื่อง เพราะเหตุการณ์เกิดแล้ว และตนโทรมาขอโทษ รมว.เกษตรฯที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า เพราะเป็นเรื่องศักดิ์ศรีข้าราชการคนๆ หนึ่งที่ต้องมาเผชิญกับเรื่องห่าเหวอะไรก็ไม้รู้ มันเป็นอะไรต้องมาทำแบบนี้ ตนรับราชการ ครอบครัวก็มีธุรกิจทำด้วยความสุจริต กว่าตนจะเลี้ยงไก่ได้แต่ละตัว ไปกล่าวหาภรรยาตนว่าค้าตีนไก่ มันไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ตนอยู่กรมการข้าว ทำงานสุจริต มันไปพูดเรื่อยเปื่อย สะท้อนว่าสังคมไทยเป็นแบบนี้ มันก็ต้องจัดการ 

“ไม่ผิดแล้วบอกว่าผิด มันแค้น ผมไม่ผิด ผมตั้งใจล่อซื้อหมด และก่อนหน้านั้นผมไปหารือตำรวจก่อน ผมมอบให้เป็นผู้ภรรยาดำเนินการ วันนั้นผมออกจากรมไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ภรรยาผมเกือบทุกรถชนตาย” นายณัฏฐกิตติ์ กล่าว 

เมื่อถามถึงกรณีที่ทนายมีการพาดพิงนาย ป. อดีตนักการเมืองนั้น นายณัฏฐกิตติ์ รีบตอบว่า “ไม่เกี่ยวกับผม ผมไม่รู้ ใครพูดอะไรก็ไปว่ากันเอง ไม่เกี่ยวกับผม” 

นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ตนไปบ้านนายศรีสุวรรณแค่ครั้งเดียว เพราะตนมอบหมายให้ภรรยาเป็นผู้ดำเนินการ เขาจะคุยกันอย่างไรไม่รู้ และยืนยันว่าโครงการที่ถูกร้องเรียนมาสามารถไปตรวจสอบได้เลย และผ่านการตรวจสอบของกระทรวงฯมาแล้ว 

เมื่อถามย้ำว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง มีอดีตนักการเมือง หรือคนในกระทรวงเกษตรฯโทรมาให้เบาๆ เรื่องนี้หรือไม่ นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวว่า “ไม่มี ผมไม่รับโทรศัพท์ใครทั้งนั้น ไลน์เป็นพันๆ ข้อความก็ไม่อ่าน ทีวีดูบ้างไม่ดูบ้าง นั่งไหว้พระสวดมนต์ และโทรมาทางภรรยาก็ไม่มี” 

เมื่อถามว่า คิดว่าอะไรที่ทำให้ตกเป็นเป้า นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวว่า ไม่รู้ เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าใครอยู่เบื้องหลัง นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวว่า ไม่รู้ เมื่อถามต่อว่า เป็นการสกัดกั้น และเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่ นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวว่า ไม่รู้ ตั้งแต่รับราชการมาไม่เคยมีมาเรียกรับเงินแบบนี้ ตนยิ่งในศักดิ์ศรี สู้อะไรต้องสู้จริงๆ ตนเป็นข้าราชการดีเด่นได้ครุฑทองคำ 

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนกับอธิบดีฯ เราคุยกันทุกวัน ไม่ต้องพูดอะไรมาก คุณนายจิ๋ม ภรรยาอธิบดีก็คุยกัน ไม่ต้องพูดอะไรมาก เรื่องนี้ตั้งแต่มีการร้องเรียนปีที่แล้ว เราก็ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงให้โอกาสหน่วยงานที่ถูกร้องเรียนชี้แจง ผลออกมาไม่ผิด เงินก็เอาคืนหมด กรมไม่ได้ใช้เงินเลย เมื่อเป็นประเด็นสังคม นายกฯสั่งการใน ครม.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ทุกอย่างมีกฎหมายรองรับตามขั้นตอนว่าต้องทำอย่างไร ต้องให้ความเป็นธรรมสองฝ่าย ทั้งผู้ถูกร้องและผู้ร้อง ตนทำงานตามหลักการ ไม่ได้ทำงานตามกระแส บ้านเมืองต้องใช้กฎหมายนำหน้า ไม่ใช่กฎตามนักร้อง แล้วมาลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่งั้นตนไม่เป็นรัฐมนตรีดีกว่า เมื่อเขาชี้แจงไม่ฟังก็ว่าตามกติกา 

เมื่อถามว่า กรมอื่นถูกร้องเรียนแบบนี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คิดว่ามีหลายกรมถูกร้องเรียน เพียงแต่ไม่มีใครเปิดหน้าปกป้ององค์กรของเรา เมื่อกระทรวงเกษตรฯเป็นประเด็นแล้ว เรามีหลัก ไม่งั้นเราบริหารบ้านเมืองไม่ได้ จะทำอะไรต้องละเอียดอ่อน อย่าทำตามกระแส นักหิวแสงทั้งหลายถูกฟ้องไปหลายคน 

เมื่อถามถึงกรณี อักษรย่อ ป. ที่เป็นนักการเมือง อดีตบิ๊กในกระทรวงเกษตรฯ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “เขาเป็นอดีต เราอย่าไปยุ่ง อย่าไปพาดพิงถึงเขา ชั่วโมงนี้ผมมาปัดเป่า มากวาด มาเช็ดบ้านหลังนี้ให้สะอาด ในสิ่งที่ก่อนที่เราจะมามันเป็น อะไรก็แล้วแต่อย่าไปวิพากษ์วิจารณ์ ผมเป็นนักการเมือง ต้องให้เกียรตินักการเมืองซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ผมมานั่งตำแหน่งนี้แล้วซัดคนเก่าซะเละเลย ไม่ใช่สไตล์ธรรมนัส ไม่ทำ เรื่องทางคดี และการออกพูดกับสื่อมันคนละเรื่องกัน”

advertisement

ข่าวยอดนิยม