เปิดตำนานเถื่อนมือยิง 38 คนเส้นใหญ่ ขี้เมายิงมั่วฆ่าหมา ญาติระทึกเก้าอี้บังตาช่วยรอด (คลิป)

8 ต.ค. 65

จากกรณีเกิดเหตุอุกฉกรรจ์ กราดยิงภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู มีผู้เสียชีวิต 38 ราย ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจ

964592

วันที่ 7 ต.ค. 65 ทีมข่าวได้มาพูดคุยกับนายเต็ม พิมพ์ดี อายุ 76 ปี ปู่ของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตัวเองและผู้ก่อเหตุ ได้มีที่ดินติดกัน ซึ่งเป็นที่ดินบรรพบุรุษ ที่ผ่านมาเคยมีปัญหาเรื่องที่ดินมาบ่อยครั้ง ปี 2563 ผู้ก่อเหตุ มีการใช้รถไถกิ่งไม้มาใส่ที่ดินตัวเอง ซึ่งอยู่ติดกัน และมีเรื่องแบ่งเขตแดนไม่ลงตัว กระทั่งวันไกล่เกลี่ยตัวเองจึงให้นางยุเรส ไบรอันท์ ลูกสาว ไปเจรจากับผู้ก่อเหตุ และพ่อของเขา กระทั่งเจรจากันไม่ลงตัว พ่อของผู้ก่อเหตุได้ทำร้ายร่างกายลูกสาว จนต้องมีคดีขึ้นศาลกันมาแล้ว

ต่อมาปี 2564 ไฟจากสวนของตัวเอง ได้ลุกไหม้ไปในสวนของผู้ก่อเหตุ แต่ไม่ถึงตัวบ้าน กระทั่งมีการเจรจากันที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน และตัวเองก็ชดใช้ค่าเสียหาย ให้ผู้ก่อเหตุ 10,000 บาท ทำให้ตัวเองและผู้ก่อเหตุซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายมีปัญหาไม่ลงรอยกันอยู่เรื่อย ๆ

วันเกิดเหตุเมื่อวานนี้ ผู้ก่อเหตุได้ขับรถกระบะผ่านหน้าบ้านตัวเองไป ซึ่งตัวเองก็คาดว่าเขาจะมาดูว่าตัวเองอยู่บ้านไหม ถ้าเขาเจอตัวเองเขาก็จะยิง แต่เคราะห์ดีที่เมื่อวานตัวเองนอนอยู่บนเก้าอี้ พนักเก้าอี้บังไว้ ทำให้ผู้ก่อเหตุมองไม่เห็น ยอมรับว่าผู้ก่อเหตุก็หมายจะเอาชีวิตตัวเองเหมือนกัน

704905

ด้านนางยุเรส ไบรอันท์ อายุ 52 ปี อาผู้ก่อเหตุ ลูกสาวของนายเต็ม เปิดเผยว่า เมื่อปี 2563 ครอบครัวตัวเองมีปัญหาเรื่องที่ดินกับผู้ก่อเหตุ เพราะที่อยู่ติดกัน กระทั่งมีวันหนึ่งตัวเองได้ไปเจรจากับผู้ก่อเหตุ และพ่อผู้ก่อเหตุ แต่ตกลงกันไม่ได้ ทำให้พ่อผู้ก่อเหตุ เช้ามาทำร้ายร่างกายตัวเอง ทั้งตบ ตี เตะ ส่วนผู้ก่อเหตุก็ยืนถ่ายคลิปมือถือ ที่ตัวเองโดนทำร้ายแล้วยืนยิ้ม จากนั้นน้องสาวตัวเองก็ตะโกนมาว่า "แมน มึงเป็นตำรวจ ทำไมไม่ช่วยห้าม ปล่อยพ่อมึงทำร้ายอาทำไม" นายแมนก็บอกว่าวันนี้เป็นวันหยุด ฟรีสไตล์ ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่นั้นมา ครอบครัวตัวเองและผู้ก่อเหตุ ก็จะมีปัญหาไม่ลงรอยกันมาตลอด วันเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุเขาก็ขับรถผ่านหน้าบ้านตัวเอง โชคดีที่เขามองไม่เห็นพ่อ ที่นอนอยู่หน้าบ้าน ไม่อย่างนั้นพ่อคงโดนเขายิงแล้วด้วย

110679657942434391

ทีมข่าวเดินทางมาที่ สภ.นาวัง อดีตสถานที่ทำงานของผู้ก่อเหตุ ที่เคยอาศัยบ้านพักข้าราชการตั้งอยู่ข้างหลัง สภ.นาวัง อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู เป็นลักษณะเหมือนห้องแถว มี 2 ชั้น เรียงติดกันประมาณ 10 ห้อง ที่ห้องมียันต์สีแดงติดอยู่ที่บริเวณหน้าประตู ปัจจุบันยังไม่มีข้าราชการย้ายเข้ามาอยู่ รวมถึงห้องใกล้เคียงก็ยังไม่พบว่ามีคนอยู่

955101

นายสุชาติ (นามสมมติ) เจ้าของสุนัข บอกว่า ช่วงประมาณปลายปี 2564 ที่ผ่านมา อดีตตำรวจที่ก่อเหตุอาศัยอยู่บ้านพักข้าราชการ ซึ่งอยู่ใกล้กับองค์การบริหารส่วนตำบลนาเหล่า ทราบว่ามีการเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่อยู่บริเวณหลังบ้านพัก ขณะที่ตนเลี้ยงสุนัขจรจัดมากกว่า 10 ตัว ที่ให้ข้าวน้ำประจำ สุนัขตัวนั้นเป็นพันธุ์ไทย เพศเมีย สีน้ำตาล อายุประมาณ 1 ปีเศษ ถูกเขายิงตาย จากการที่เมาเหล้า และคงคิดว่าสุนัขจะไปกัดไก่ที่ตัวเองเลี้ยงไว้

โดยช่วงสายของวันเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเสียงประทัด แต่มีเพื่อนร่วมงานมาบอกว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้ถูกยิงตายแล้ว ตนก็รู้สึกตกใจ เพราะมองว่าสุนัขมันก็มีชีวิต มีหัวใจ แค่ไล่ไปเฉย ๆ ก็น่าจะไปแล้ว ไม่เห็นจะต้องยิงมันให้ตาย ส่วนพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ ชอบกินเหล้า เปิดเพลงเสียงดังรบกวนคนอื่น ชอบนั่งดีดกีตาร์ โชว์ปืนสั้น บางทีก็วางปืนไว้ให้เห็น บางครั้งตนก็ได้ยินเสียงปืนดังลั่น ลักษณะคล้ายกับว่าผู้ก่อเหตุยิงปืนเล่นขึ้นฟ้า

ตนยอมรับว่าชาวบ้านหลายคนก็หวาดกลัว รวมกระทั่งตนเองก็ไม่กล้าขับรถมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าบ้าน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด ยอมรับว่าโหดเหี้ยมมาก เนื่องจากมีญาติของตนเสียชีวิตด้วย

567364

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับนายกิ่งศักดิ์ พูลเกษม ผู้ใหญ่บ้าน ม.12 ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่บ้านผู้ก่อเหตุ เล่าว่า เมื่อช่วงปีที่ผ่านมานายปัญญา ผู้ก่อเหตุเคยมาร้องเรียนเรื่องเพื่อนบ้านซึ่งเป็นฐานห่าง ๆ กัน จุดไฟเผาบางอย่างแล้วไฟลามมาที่บ้านของตัวเอง ได้รับความเสียหาย ซึ่งตนก็ช่วยพูดคุยเจรจาให้ แต่เขาไม่พอใจ มีท่าทีแข็งกร้าวและเถียง ตนจึงมองว่าอีกฝ่ายค่อนข้างอารมณ์ร้อน

หลังจากนั้น มีเหตุที่นายปัญญาและเพื่อนร่วมหมูบ้านยิงปืนขึ้นฟ้าหลายนัดช่วงเทศกาลปีใหม่ จนชาวบ้านร้องเรียนให้เข้าไปจัดการเพราะผิดกฎหมาย แต่ครั้งนั้นผู้ใหญ่บ้านอีกคน ซึ่งอยู่พื้นที่ติดกันได้เข้าไปพูดคุย โดยเรื่องก็เงียบหายไป กระทั่งวันเกิดเหตุตนรับแจ้งว่ามีเหตุยิงก็ออกไปตรวจจุดเกิดเหตุ และแจ้งสกัดรถคนร้าย หลังจากนั้นต นกลับมาที่บ้าน เห็นนายปัญญาขับรถกลับมาบ้านพอดี จึงหลบอยู่ในบ้าน และเห็นว่ามีควันออกมาจากรถนายปัญญาช่วงที่เจ้าตัวเผารถแล้ว ไม่รู้เรื่องที่นายปัญญายิงเพื่อนบ้านอีก 2 คนก่อนเข้าไปยิงตัวตายในบ้าน

นายกิ่งศักดิ์ กล่าวต่อว่า วันเกิดเหตุทราบข่าวว่ นายปัญญาตามหาตนด้วย ไม่มั่นใจว่ามีความแค้นเรื่องการเข้าไปไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนหน้านี้ ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการหรือไม่

 

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส