ลากคอแก๊งฆ่าวิศวะที่แท้เด็กช่าง กล้องมัดแทงไม่ยั้งตีกันน็อก เพื่อนซวยให้ที่ซ่อน (คลิป)

18 พ.ย. 64

เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งเหตุวัยรุ่นแทงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อนายจิรภัทร ดีสูงเนิน หรือ บาส อายุ 18 ปี บริเวณลาดจอดรถร้านสะดวกซื้อ ใกล้กันกับตลาดนัดร่มไทร ถ.ติวานนท์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรีบตรวจสอบ ต่อมาเวลา 13.00 น. ของวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 นายบาสได้เสียชีวิตลงนั้น

246606

ล่าสุด วันที่ 18 พ.ย. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี สามารถติดตามตัวจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 2 ราย หลังจากที่หลบหนีไปกบดานที่บ้านของเพื่อน ที่อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทราบชื่อมือมีดคือ นายปอน อายุ 19 ปี และนายตุง อายุ 16 ปี เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำอย่างเคร่งเครียด ตั้งแต่ช่วง 09.00 น. ที่ผ่านมา

787284995035

ที่ สภ.ปากเกร็ด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 รายมาสอบปากคำ โดยเจ้าหน้าที่มีการยึดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ ไอ สีดำ-แดง ที่ใช้ก่อเหตุมาด้วย สภาพล้อเต็มไปด้วยโคลน

441159

โดยหลักฐานชิ้นสำคัญ จากกล้องหน้ารถของพลเมืองดี เผยวินาทีเกิดเหตุได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่คลิปแรกเป็นช่วงเวลา 18.37 น. ความยาว 1 นาที จะเห็นว่าน้องบาสและเพื่อนทั้ง 2 คน กำลังยืนอยู่ที่ลานจอดรถ ก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุ 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ และเดินเข้ามาหา ต่อมาเป็นคลิปความยาว 1 นาทีช่วงที่ผู้ก่อเหตุ และผู้ตายมีการยืนคุยกัน มีเพื่อนอีก 2 คนยืนอยู่ห่าง ๆ ต่อมามีการชกต่อยกัน และจะเห็นว่านายปินมีการชักมีดออกมาจ้วงแทง ก่อนที่นายตุงจะใช้หมวกกันน็อกฟาดที่ตัวบาส และล้มลง จากนั้นก็หลบหนีไป

806535

โดยหลังการสอบสวนขยายผล เจ้าหน้าที่นำตัวทั้งคู่มาขอขมาผู้เสียชีวิต ที่บริเวณพระพุทธรูปหน้าสถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด ระหว่างคุมตัวมาหน้า สภ.ปากเกร็ด ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงสาเหตุ แต่นายปอนไม่ได้ตอบ แต่เมื่อถามว่าผู้ตายท้าทายก่อนหรือไม่ และ อยากขอโทษครอบครัวผู้ตายหรือไม่ นายปอนได้แต่พยักหน้า

โดยเมื่อถึงพระพระพุทธรูป ตำรวจได้นำรองเท้าที่เปื้อนเลือดของผู้เสียชีวิตมาให้ทั้งคู่ขอขมา ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรปากเกร็ดนำขอขมา ก่อนจะนำขึ้นรถตู้ตำรวจ

636409

จากนั้นเจ้าหน้านำนายปอนมาที่จุดเกิดเหตุ เพื่อชี้จุดและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีพลตำรวจตรีไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี มาร่วมสังเกตการณ์ สอบปากคำผู้ต้องหา รวมถึงชาวบ้านมาร่วมดูการทำแผนฯ แต่ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายแต่อย่างใด

742625

โดยนายปอน ผู้ต้องหาให้การว่าวันเกิดเหตุตนและเพื่อน รวม 4 คน มาซื้อบุหรี่ที่ร้านสะดวกซื้อในตลาด มาเจอผู้เสียชีวิตกับเพื่อน มีการมองหน้ากันกับคู่กรณี แต่ยังไม่มีเรื่อง เพราะเพื่อนตนห้ามไว้ แล้วพากันออกจากพื้นที่ ตนและนายตุงได้วนรถกลับมา และเจอคู่กรณีอีกครั้ง ครั้งนี้นายตุงได้มีปากเสียงและทะเลาะกับนายบาส ตนจึงลงไปดูสถานการณ์ พอเห็นเพื่อนตนเองสู้ไม่ได้ จึงหยิบมีดพกที่นำติดตัวมาด้วยแทงไปที่ข้างหลังนายบาส 2 ครั้ง จากนั้นนายตุงได้ถอดหมวกกันน็อกตีซ้ำนายบาส ก่อนพากันหลบหนี

ทั้งนี้ นายปอน อ้างว่า สาเหตุไม่ได้จากการมองหน้ากัน แต่เพราะฝ่ายผู้ตายพูดจาท้าทาย "อยากตายเหมือนนายแทนไหม" แต่ตนไม่รู้จักคนชื่อแทน ทำให้มีเรื่องกัน และนำไปสู่การแทงกัน แต่ยืนยันว่าไม่ได้เจตนาทำร้ายถึงชีวิต และตนเองไม่เคยมีปัญหากับผู้ตายมาก่อน และไม่เคยรู้จักกัน ตนได้ขอขมาผู้ตายแล้ว และครอบครัวผู้ตายด้วย เข้าใจว่าครอบครัวผู้ตายมีลูกเพียงคนเดียว

209897

ด้านพลตำรวจตรีไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเร่งติดตามตัวคนก่อเหตุทั้ง 2 รายมาได้ภายใน 3 วัน หลังจากที่เกิดเหตุ พร้อมวัตถุพยานหลักฐานต่าง ๆ ครบถ้วน โดยหนึ่งคนอายุ 19 ปี อีกหนึ่งคน อายุ 16 ปี หากทางญาติผู้ตายกังวลในความปลอดภัย ตำรวจจะต้องดูแลเป็นพิเศษ ส่วนทางผู้เสียหาย รายอื่น ๆ หากถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุกลุ่มเดียวกันก็ขอให้มาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อที่จะดำเนินคดีเพิ่มเติม

423091

โดยทั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา 2 ข้อหา คือร่วมการทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และร่วมการพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

759875

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายนนธชัย ตรงดี หรือ มาย อายุ 25 ปี เจ้าของบ้านที่ผู้ก่อเหตุไปกบดานที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มาสอบปากคำด้วย โดยมีพ่อมาติดตามคดี นายประสาน ตรงดี อายุ 52 ปี พ่อของมาย เพื่อนผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตอนเช้าเพิ่งจะได้รับสายจากลูกสะใภ้บอกว่าลูกชายถูกจับกุม เนื่องจากมีผู้ต้องหาที่ก่อเหตุแทงผู้อื่นมาขอพักอาศัยอยู่ที่บ้านของตนเอง ตนเองรู้สึกตกใจมาก และรีบเดินทางมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อที่จะมาติดตามคดี และรีบนำตัวลูกชายกลับบ้าน โดยปกติลูกชายจะพักอาศัยอยู่กับภรรยา และลูกอีก 2 คน โดยตนเองจะไป ๆ มา ๆ อยู่ที่ปากเกร็ด และอยุธยา โดยลูกชายเป็นคนมีเพื่อนเยอะ ตนเองก็จะเตือนอยู่เสมอ ให้ตั้งใจทำมาหากิน

ตนยืนยันว่าลูกชายตนเองไม่เกี่ยวข้อง เพียงแต่กลุ่มผู้ก่อเหตุมาขอที่พักอาศัย ตามประสารุ่นน้องเท่านั้น และตนเองไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน และตนเองไม่ได้ดูข่าวจึงไม่ทราบว่าทั้ง 2 คนเป็นผู้ก่อเหตุ ขณะที่ตนเองก็ยังกังวลเล็กน้อยว่าลูกชายจะมีส่วนร่วมในการกระทำผิดด้วยหรือไม่

959529

นางสาวโอ๋ อายุ 25 ปี แฟนของมาย เปิดเผยว่า เมื่อประมาณวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ทั้ง 2 คนขี่รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุมาที่บ้านของตนเอง และมาขอพักอาศัยอยู่ด้วย ตนเองไม่ทราบมาก่อนว่าทั้ง 2 คนเป็นผู้ก่อเหตุแทงผู้อื่นมาจึงให้พักอาศัยอยู่ที่บ้าน โดยทั้ง 2 คนเป็นรุ่นน้องของสามีตนเอง ยอมรับว่าตนเองก็ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน หลังจากที่มาขอพักอาศัยที่บ้าน ทั้งคู่ก็จะไป ๆ มา ๆ ก่อนที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาจับกุมทั้งคู่ที่บ้าน และทราบภายหลังว่าทั้งคู่ก่อเหตุมาเมื่อตนเองทราบก็ทำการด่าทอและตักเตือนกลุ่มผู้ก่อเหตุไปแล้ว หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวสามีตนเองมาสอบปากคำที่โรงพักด้วย

ตนยืนยันว่า สามีไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุแต่อย่างใด และไม่ทราบมาก่อนว่าทั้งคู่แต่ก่อเหตุมา เพราะทั้งคู่ดูปกติดี ไม่มีพิรุธ และตนเองก็เลี้ยงลูกทั้ง 2 คน จึงไม่ทราบว่าทั้งคู่ทำอะไรบ้าง โดยหลังการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันตัวนายมาย ไว้เป็นพยาน และปล่อยกลับบ้าน ไม่ได้แจ้งข้อหาแต่อย่างใด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส