สายเปย์ โผล่อีก! หนุ่มพิการถูกสาวลวงรัก สูญครึ่งล้าน แม่เชื่ออาจโดนของ

แม่วอนช่วยลูกชายพิการ สายเปย์ คลั่งรัก ถูกหลอกโอนเงินกว่า 5 แสนบาท หวั่นโดนผลข้างเคียงของที่สั่งมาทำเสน่ห์ใส่สาว

จากกรณีที่หญิงคนหนึ่งส่งเรื่องร้องเรียนกับทนายโนบิตะและหมอปลา ว่าเรื่องราวของปัญหาและความเดือดร้อนของครอบครัวมีอยู่ว่า น้องชายดิฉันชื่อ ธีระพล โตงาม (สไปร์ท) เป็น เด็ก CP หรือ Cerebral Palsy พิการแต่กำเนิด กินข้าวเองไม่ได้ อาบน้ำเองไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองเกี่ยวกับเรื่องกิจวัตรประจำวันของตัวเองไม่ได้ ต้องมีคนป้อนข้าว อาบน้ำ อุ้มนอน ทุกอย่าง แต่สิ่งที่เขาทำได้คือเขาเล่นโทรศัพท์ได้ ด้วยความพิการ ครอบครัวเลยสงสารอยากได้อะไรก็พยายามหาให้เพื่อทดแทนส่ิงที่ขาด จนสไปร์ทได้พบกับหญิงคนนึงที่ชื่อ น.ส.อรปรียา ประทุมชัย อายุ23 ปี หลอกให้รักและให้น้องชายของตนโอนเงินกว่า 5 แสนบาท

ความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นนี้ (9 พ.ย.64) ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ อู่เอ็มการาจ 60/4 ซ.เอกชัย 131 แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร เป็นอู่ทำสีรถยนต์ พบกับนางสุภาภรณ์ โตงาม อายุ 57 ปี (แม่ของสไปร์ท) เล่าว่า นายธีระพล โตงาม อายุ 27 ปี ชื่อเล่น สไปร์ท(ลูกชาย) รู้จักกับ นางสาวอรปรียา (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ชื่อเล่นป็อป (ผู้ก่อเหตุ) ตั้งแต่สมัยที่ตนอยู่บ้างหลังเก่า แถวกำนันแม้น ซ.5 วัดวิสุทธารัตนาราม (วัดน้อย) จากนั้นตนและครอบครัวได้ย้ายที่อยู่ มาอยู่ 60/4 ซ.เอกชัย 131 แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ ได้ประมาน 8-9 ปี ช่วงนั้นลูกชายของตน ได้ขาดการติดต่อกับ น.ส.อรปรียา จนกระทั่งตนได้มารู้ว่าลูกชายได้ติดต่อกับ น.ส.อรปรียา ทางเฟซบุ๊ก

ซึ่งลูกชายของตน เป็นคนพิการตั้งแต่กำเนิด ตนคลอดลูกชายออกมาตอนเดือนที่8 มีอาการสำลักน้ำค้ำ ขาดอ๊อกซิเจนชั่วขณะ จึงทำให้ลูกชายพิการ ลูกชายไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เล่นโทรศัพท์มือถือได้เพียงอย่างเดียว

ครอบครัวของตนพอมีฐานะอยู่แล้ว จากการทำธุระกิจ ซึ่งตนจะให้เงินเดือนลูกชายเดือนละประมาณ 15,000 บาท เพื่อให้ลูกชายได้เก็บไว้ใช้ เวลาที่มีค่าใช้จ่ายหรืออยากได้อะไร จากการสั่งของในเฟซบุ๊ก ก็สามารถใช้ได้เลย ซึ่งตนให้เงินเดือนลูกชายได้ประมาณ 2 ปี ตนเริ่มรู้สึกระแคะระคาย จากที่ลูกน้องคนที่คอยดูแลลูกชาย บอกกับตนว่า เจ้ลูกชายเจ้แอบโอนเงินให้ผู้หญิงที่ชื่อ น.ส.อรปรียา (ผู้ก่อเหตุ) ตนจึงถามว่าโอนไปเท่าไหร่ ลูกน้องบอกกับตนว่า ลูกชายโอนเงินไปให้ผู้หญิง เป็นพัน เป็นหมื่น ตนจึงไปปรึกษากับนายโทมัส อายุ 26 ปี (ลูกชายคนเล็ก) ว่าเราควรทำไงดี ลูกชายคนเล็กจึงบอกว่าให้แอบเช็คโทรศัพท์ของ สไปร์ท (ผู้เสียหาย) ตนกับลูกคนเล็กจึงอาศัยจังหวะ ที่สไปร์ทหลับ แอบหยิบโทรศัพท์มาเช็คข้อมูล พบว่าลูกชายของตน โอนเงินให้ น.ส.อรปรียา ตั้งแต่ปี 61 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 3 ปี

และตนมีหลักฐานสลิปการโอนเงิน ตั้งแต่ช่วงปี 62-63 รวมๆ แล้ว 441,400 บาท ไม่รวมก่อนหน้าที่ตนไม่รู้เรื่อง และมียอดปัจจุบันปี 64 ที่ตนไม่สามารถขอสเตทเม้นได้ แต่ตนมีหลักฐานเป็นแชทเฟซบุ๊กระหว่างลูกชายของตน คุยกับ น.ส.อรปรียา ซึ่งทักมาขอให้ลูกชายของตนโอนเงินให้เรื่อยๆ พอได้ช้าก็จะทวงจะด่าลูกชายตน แต่ถ้าได้ก็จะคุยดีๆ

ที่ผ่านมาตนและครอบครัวได้ติดต่อ น.ส.อรปรียา มาแล้วหลายรอบ น.ส.อรปรียาบอกว่า ไม่ได้เป็นคนบอกว่าให้ลูกชายโอน แต่ลูกชายของตนโอนให้เอง ตนจึงขอกับน.ส.อรปรียาว่า ถ้าหากลูกชายของตนโอนเงินให้ กรุณาระงับบัญชีได้ไหม หรือโอนเงินมาคืนที่บัญชีของตนก็ได้ โดยตนให้ทั้งเบอร์ทั้งเลขบัญชีไป น.ส.อรปรียา ก็รักปากว่าได้ค่ะ แต่สุดท้ายก็ไม่เคยโอนเงินคืนมาเลย จนตนจับได้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

จนกระทั่งตนบอกให้นายโทมัส ปริ้นท์สเตทเม้นการเดินบัญชี ของนายสไปร์ท เพื่อจะนำไปแจ้งความที่แต่ไม่สามารถแจ้งความได้ ต้องไปยื่นเรื่องเป็นผู้อนุบาลเพื่อเป็นผู้ปกครองนายสไปร์ทที่ศาลก่อน (เพราะนายสไปร์ทถือเป็นบุคคลไร้ความสามารถ) ตนจึงไปติดต่อทนายความ ซึ่งทนายบอกกับตนว่า อาจจะให้เป็นทนายในกรณีนี้ให้ ต้องเสียค่าจ้างทนาย 100,000บาท ซึ่งตนไม่มีให้

เมื่อก่อนตอนที่ลูกชายยังไม่มีเรื่องผู้หญิงเข้ามา ลูกชายเป็น ปกติ ไม่มีอารมณ์ฉุนเฉียว รุนแรง ไม่ทำร้ายข้าวของ แต่ตั้งแต่มีเรื่อง เวลาที่ตนไม่ให้เงินเพราะกลัวว่าจะเอาเงินไปให้ผู้หญิง ลูกชายตนมักจะด่าทอ ทำท่าทางไม่พอใจ และชอบบังคับรถวิลแชร์ มากระแทกที่ขาตน จนเป็นรอยฟกช้ำ ลูกชายของตนปล่อยเงินกู้ ตนจึงบอกว่าเงินที่ได้จสกการปล่อยเงินกู้วันละ400 จะเอาไปให้น.ส.อรปรียา ก็ให้ไปเลย แต่ต่อจากนี้ แม่จะไม่ให้เงินแล้ว

ต่อมาพักหลังๆ ลูกชายของตน ชอบสั่งของเกี่ยวกับการทำเสน่ห์ จากเฟซบุ๊ก ซึ่งลูกชายของตนเป็นคนค้นหาข้อมูลมาเอง เมื่อสั่งของมาแล้ว จะสั่งให้คนดูแล จุดธูป นำมาปักที่หน้าห้อง ตนจึงถามลูกชายว่าทำไมถึงทำแบบนั้น ลูกชายเล่าว่า น.ส.อรปรียามีมือที่สาม ลูกชายของตนคบกับน.ส.อรปรียามาก่อน ลูกชายของตนไม่เคยบอกหรือให้ข้อมูลอะไรเลย ยิ่งตอนนี้ แม้แต่โทรศัพท์ของลูกชายตนก็จับไม่ได้ เพราะลูกชายจะแสดงท่าทีอาวะวาด โวยวายตลอด

จนตนคิดว่าลูกชายของตนอาจจะโดนของจากที่สั่งมาทำเสน่ห์ เพื่อหวังให้ น.ส.อรปรียา รักและหลง จนตนปรึกษากับนางสาวเกศณัฐกุล (สงวนนามสกุล) ชื่อเล่น นัท (เพื่อน) แนะนำว่าให้ส่งเรื่องไปร้องเรียนกับทนายโนบิตะและหมอปลา ตนอยากวอนให้ทั้งสองคน มาช่วยดูพฤติกรรมลูกชายของตน ว่าโดนคุณไสยหรือไม่ และจะดำเนินการตามกฏหมายได้ยังไง ตนไม่รู้จะพึ่งใครแล้ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- ลุงสายเปย์ สาวๆ ต่อคิวดามใจเพียบ เผย ได้เงินคืนแล้ว 2.8 ล้าน ส่วน รักครั้งใหม่ ให้เป็นเรื่องอนาคต
- พ่อหม้าย สายเปย์ ถูกปลอมโปรไฟล์หลอกโอน 2 แสน รอ 2 ปี เจอตัวจริงถึงกับสะดุ้ง!
- เสี่ยชัช สายเปย์ ดังสมใจงานโชว์ตัวอื้อยกเงินให้การกุศล ขอสาว ๆ รอถ้าจะจีบป๋า (คลิป)