แหม่ม อลิษา  โดนย้ายร้านกะทันหัน เคยเครียดหนักถึงขั้นช็อก! 

หลังนักแสดงชื่อดัง แหม่ม อลิษา ที่ผันตัวเองไปเป็นแม่ค้าขายอาหารตามสั่ง หลังเจอปัญหาทางการเงินถึงขั้นต้องรับยาจากโรงพยาบาลมาทานเพื่อบรรเทาความเครียด แต่ไม่ทันไรร้านอาหารตามสั่งที่เปิดอยู่ ก็โดนบีบให้ย้ายออกจนตั้งตัวไม่ทัน

วันนี้ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางไปหา พี่แหม่ม อลิษา ถึงที่ร้านอาหารย่านเมืองทองธานี โดยเจ้าตัวเล่าว่าเรื่องร้านนั้นไม่เชิงโดนไล่ แต่เจ้าของตัวจริงอยากได้ทั้งร้าน แต่ว่ามาบอกตนกระทันหันไป ทำให้พี่แหม่มไม่มีเวลาเตรียมตัวหาร้านใหม่ ซึ่งในการย้ายร้านก็แค่มาขายอีกฝั่งหนึ่งของตึก แต่เจ้าของคนละคนกัน

พี่แหม่ม บอกว่าการที่โดนย้ายกระทันหันทำให้เกิดปัญหาอยู่บ้าง เนื่องจากตั้งตัวไม่ทัน ปัญหาทางการเงินก็ยังไม่คล่องตัว ซึ่งคิดไว้แต่แรกว่าจะย้ายร้านอยู่แล้ว แค่มันกระทันหันไป ซึ่งตนเองเป็นคนบอกกับเจ้าของที่เก่าไปเองว่าไม่เกินหนึ่งอาทิตย์จะขนย้ายของออก

หลังจากที่ย้ายร้านใหม่แล้ว สถานการณ์ของร้านก็ยังไม่ดีขึ้น เนื่องด้วยสถานการณ์บ้านเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งตอนนี้ก็พยายามหาลูกค้า จากการไปแจกใบปลิวให้ตามบริษัทรอบนอกคอนโด และรับทำอาหารให้กองถ่ายบ้าง เพราะทำเลร้านใหม่ไม่ได้อยู่ติดริมถนน ยอดขายก็ลดลง ซึ่งก็จะดูสถานการณ์ก่อนว่าหลังปีใหม่ไปอีก 6 เดือน สถานกาณ์จะดีขึ้นไหม ถ้าพอขายได้ก็จะอยู่ต่อ แต่ถ้าขายไม่ได้ก็จะออกจากเมืองทองไปเลย

ส่วนรายได้ ก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ บางวันขายได้พันกว่าบาท บางวันก็จะมีลูกค้ามาสั่งทำข้าวกล่องไปทำบุญบ้างก็จะได้ยอดขายจากตรงนี้ อย่างวันศุกร์-วันเสาร์ที่ผ่านมา ยอดขายรวมกัน 2 วัน ก็ยังไม่ได้ถึง 3,000 บาทเลย และขณะที่ทีมข่าวทำไปพูดคุย พี่แหม่มก็บอกว่ายังขายได้ไม่ถึง 500 บาทเลย หรือบางวันก็ติดลบ

แต่รายจ่ายก็ยังเยอะคงที่ ซึ่งพี่แหม่มบอกว่าตนเองก็ประหยัดแล้ว แต่ในการซื้อวัตถุดิบเข้าร้านก็ยังต้องใช้เงินวันละพัน ยิ่งวัตถุดิบที่เป็นของสด เช่น อาหารทะเลราคาก็แพง เพราะไม่ได้ไปซื้อที่ตลาดใหญ่ๆ เพราะเราไม่สามารถซื้อมาตุนได้ต้องใช้วิธีซื้อสด อย่างชาวงเทศกาลเจที่ผ่าน ราคาผักก็แพงขึ้น แต่ปริมาณที่เราทำให้กับลูกค้าก็ยังต้องใช้เท่าเดิม

ซึ่งร้านนี้ก็ช่วยกันทำกับแฟนแค่สองคน ตนเองเป็นคนทำอาการ ส่วนแฟนเป็นคนไปส่ง เพราะตนเองขับรถมอเตอร์ไซค์ไม่ได้ สำหรับการย้ายร้านมายังโชคดีที่เจ้าของที่มีอุปกรณ์ภายในร้านอยู่แล้ว ตนเองนำของมาเพิ่มแค่ตู้เย็นและเปลี่ยนหัวแก๊สใหม่

และสำหรับแฟนๆ ละครที่คิดถึงฝีมือการแสดงของพี่แหม่ม ก็เตรียมรอติดตามได้เลย เพราะเจ้าตัวบอกว่ากำลังจะได้ถ่ายทำละคร ซึ่งช่วงที่ถ่ายคิว ศ.-อา. ก็อาจจะปิดร้านบ้างแล้วแต่คิวละคร ส่วนวันอื่นๆยังขายตามปกติ

ถามว่าเหนื่อยไหม เจ้าตัวบอกว่ามันไม่มีอะไรไม่เหนื่อย เหนื่อยก็บ่น ดราม่าบ้าง แต่ก็ต้องสู้ เพราะเราไม่ได้แย่คนเดียว ปัญหาโควิดและเศรษฐกิจมันเป็นกันทั่วโลก ก่อนที่เราจะไปโทษคนอื่น ก็จะมาถามตัวเองก่อนว่าพยายามพอแล้วหรือยัง ขยันพอหรือยัง ประหยัดพอหรือยัง

ก่อนที่จะไปโทษว่าอย่างอื่นไม่ดี จะโทษตัวเองก่อน มีท้อบ้าง บางครั้งยืนทำอาหารไปร้องไห้ไปก็มี แต่เราก็ฮึด เพราะเราผ่านอะไรมามากมาย ผ่านความทุกข์มาเป็นสิบๆครั้ง แต่เราจะแข็งแรงขี้น

นอกจากนี้พี่แหม่ม ยังมีปัญหาเรื่องสุขภาพ พอเครียดจัดก็ทิ้งทุกอย่าง ไม่ได้ดูแลตัวเอง แต่ก็ต้องตั้งสติแล้วค่อยๆ จัดการแก้ไขไปทีละอย่าง

ล่าสุดก็เคยเครียดมาก ถึงขั้นมีอาการช็อกไปวูบแรก แต่ก็รู้ตัวก่อน พอมีอาการเกร็งแฟนก็ช่วยนวดให้จนอาการดีขึ้น ซึ่งอาการมันเกิดจากความเครียดมันจึงทำให้ไม่มีสติ ตัวชา มันคิดอยู่แค่อย่างเดียวว่า ทำไมๆ ทำยังไงๆ แต่พอได้อยู่กับตัวเองก็ดีขึ้น ค่อยตั้งสติเริ่มใหม่

ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการไปพบจิตแพทย์ เพราะต้องรอคิวนาน ซึ่งตนเองก็เคยไปพบจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลศรีธัญญา พอได้ไปเห็นคนอื่นๆ ก็รู้สึกว่าปัญหาของเรามันเบามาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวก็รับยามาทานให้อาการดีขึ้น

แต่ไม่จำเป็นต้องทานตลอดชีวิต ทานแค่ให้อาการหาย เพราะเจ้าตัวยังไม่ได้ถึงขั้นพูดคนเดียว แต่ถ้ามีความเครียดก็อาจจะช็อกและสติหลุดได้ ซึ่งความเครียดก็มาจากเศรษฐกิจและการเงิน เพราะงานนักแสดงก็มีบ้างไม่มีบ้าง

สุดท้ายพี่แหม่มก็ฝากขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ ซึ่งก็มีหลายคนที่อยากจะช่วยเป็นเงิน แต่ตนเองก็ไม่ได้รับบริจาค หากอยากช่วยก็สั่งข้าวกล่องไปทำบุญได้ และแค่ส่งกำลังใจให้กันก็พอแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อาต้อ ไกรสีห์ บ้านเก่าโดนรื้อทิ้ง ย้ายอยู่บ้านพักคนชรา ซ้ำยังลื่นล้มหัวฟาดขอบบันได
- พี่ฉอด - ขวัญ เปิดใจหลังกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง
- ไม้ วฤธ ยัน อุ้ม อิษยา แค่พี่น้อง