วันที่ 15 ก.ย. 68 ที่สำนักงานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายแพทย์เอ (นามสมมมติ) อายุ 31 ปีแพทย์แผนก หู-ตา-คอ-จมูก โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าร้องเรียนกับทางมูลนิธิ โดยมี นางชฎาภรณ์ พงศ์ทอง ที่ปรึกษามูลนิธิรับเรื่องร้องเรียน หลังบัญชีของตนเองจำนวนหลายเล่มถูกอายัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหม่อม จ.สงขลา
โดยอ้างว่ามีผู้เสียหาย โอนเงินจากบัญชีม้า มาเข้าบัญชีตนเอง ทั้งๆ ที่ตนเองไม่รู้เรื่อง และเกี่ยวข้องแม้แต่นิดเลย ทำให้ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถทำธุรกรรมในบัญชีแต่ละบัญชีได้
นพ.เอ เล่าว่า ก่อนหน้าที่ตนจะมาร้องเรียน พบว่ามีข่าวทางสื่อออนไลน์ โดยมีผู้เสียหายจำนวนมากถูกอายัดบัญชี ตนเองก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย แต่ไม่คิดว่าจะมีคนที่ตกอยู่ในสถานะเดียวกับตน และถูกอายัดบัญชีมากมายในปัจจุบัน ในส่วนของตนเองนั้น ถูกอายัดบัญชีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหม่อม เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 68 โดยทางตำรวจอ้างว่ามีเงินโอนเข้าบัญชีของตนเอง ซึ่งเป็นบัญชีม้า มีผู้เสียหายมาแจ้งความ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงิน 80,000 บาท ตอนนั้นตนตกใจมากก็ไม่เคยรู้เรื่อง และเกี่ยวข้องอะไรกับบัญชีม้า แม้แต่นิดเดียวเลย แต่จู่ๆ ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับมาอายัดบัญชีของตนเอง ทำให้ตนเองไม่สามารถทำธุรกรรมอะไรได้เลยจนถึงวันนี้ และก่อนที่จะเดินทางมาร้องเรียนเงินเดือนตนก็ออก แต่ไม่สามารถไปเบิกมาได้ ก็อยากให้ทางมูลนิธิช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย
นางชฎาภรณ์ กล่าวว่า เท่าที่สอบถามในเบื้องต้น คุณหมอถูกถูกนำบัตรประชาชนไปผูกไว้กับทรูมันนี่ และมีบัญชีม้าโอนเงินผ่านบัญชีของคุณหมอ ก่อนที่จะมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วพบว่า เงินที่โอนผ่านนั้นผ่านบัญชีของคุณหมอมา ทั้งๆ ที่คุณหมอเองก็มีฐานะการเงินตำแหน่งหน้าที่ที่ดี ไม่มีอะไรเลยที่จะเกี่ยวข้องกับแก๊งบัญชีม้าได้
เรื่องนี้ทางมูลนิธิเองจะประสาน และพาคุณหมอไปติดตามจากทางตำรวจไซเบอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหม่อม รวมทั้งธนาคารที่สั่งอายัดบัญชี โดยเฉพาะหน่วยงานของทรูมันนี่ว่าคุณหมอไปมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร ทำไมถึงโทรอายัดบัญชีทั้งๆ ที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเงินในบัญชีม้าที่โอนเข้ามาเลย
Advertisement